สพฐ.สนอง นายกฯ คนใหม่ ร่อนหนังสือถึงโรงเรียนทั่วประเทศ กำชับครูให้การบ้านเด็กอย่างเหมาะสม อย่ายาก อย่าเยอะ หากพบจ้างทำการบ้าน ลงโทษสถานศึกษา
28 ส.ค. 2557 นายกมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่าได้ลงนามคำสั่งเรื่องแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการให้การบ้านนักเรียน แจ้งไปยังผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศแล้ว เพื่อให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากำชับไปยังสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ทุกแห่ง และขอให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาดำเนินการตามอย่างเคร่งครัดตาม แนวปฏิบัติที่กำหนดไว้ ดังนี้
1.ให้ครูพิจารณามอบหมายการบ้านให้นักเรียนอย่างเหมาะสม ไม่ยากเกินไป ไม่มากเกินไป ควรมอบหมายให้นักเรียนทำงานเป็นกลุ่มมากขึ้น เช่น โครงงานต่างๆ เพื่อให้นักเรียนได้มีโอกาสทำงานแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและความรู้ในแง่มุมต่างๆ ซึ่งจะสอดคล้องกับการดำเนินชีวิตจริงมากกว่า
2.ให้ผู้บริหารสถานศึกษานิเทศติดตามการจัดการเรียนการสอนและการให้การบ้านของครูให้เหมาะสม และหากพบว่า นักเรียนมีการลอกหรือจ้างทำการบ้านกันจริง ให้พิจารณาโทษตามระเบียบที่สถานศึกษากำหนดอย่างจริงจัง
3.ให้ผู้บริหารสถานศึกษาจัดให้มีการสอนเสริมแก่นักเรียนนอกเวลาโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายและใช้เวลาว่างตามความเหมาะสม เพื่อช่วยเหลือนักเรียนที่เรียนช้ากว่าเพื่อน หรืออาจจัดให้มีคลินิกเพื่อนช่วยเพื่อนเรียน หรือกิจกรรมอื่นๆ ที่จะช่วยนักเรียนให้ได้บรรลุผลตามหลักสูตร
3.ให้ผู้บริหารสถานศึกษาจัดให้มีการสอนเสริมแก่นักเรียนนอกเวลาโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายและใช้เวลาว่างตามความเหมาะสม เพื่อช่วยเหลือนักเรียนที่เรียนช้ากว่าเพื่อน หรืออาจจัดให้มีคลินิกเพื่อนช่วยเพื่อนเรียน หรือกิจกรรมอื่นๆ ที่จะช่วยนักเรียนให้ได้บรรลุผลตามหลักสูตร
และ4.ให้ผู้อำนวยการสำนักงานเขต พื้นที่การศึกษากำชับผู้บริหารสถานศึกษาให้ติดตามสอดส่องการให้การบ้านของ นักเรียนอย่างใกล้ชิด
นายกมล กล่าวว่า การให้การบ้านมีข้อดีตามที่นักวิชาการได้วิเคราะห์ไว้เพราะจะทำให้เด็กได้ ทบทวนทักษะ การฝึกความรับผิดชอบและการฝึกวินัย แต่การให้การบ้านที่มากไปจะทำให้เด็กต้องใช้เวลาทำการบ้านมาก ส่วนตัวเห็นว่าเด็กไม่ควรทำการบ้านไม่เกินชั่วโมงต่อวัน ดังนั้นจำนวนข้อต้องลดลงโดยอาจารย์รายระดับชั้นต้องมาพูดคุยกันในแต่ละวิชา เพื่อตกลงกันในการที่จะให้การบ้านเด็กไม่มากเกินไป อีกทั้งการบ้านต้องไม่ยากเกินไปจนเด็กต้องไปจ้างคนอื่นทำ
นายกมล กล่าวว่า การให้การบ้านมีข้อดีตามที่นักวิชาการได้วิเคราะห์ไว้เพราะจะทำให้เด็กได้ ทบทวนทักษะ การฝึกความรับผิดชอบและการฝึกวินัย แต่การให้การบ้านที่มากไปจะทำให้เด็กต้องใช้เวลาทำการบ้านมาก ส่วนตัวเห็นว่าเด็กไม่ควรทำการบ้านไม่เกินชั่วโมงต่อวัน ดังนั้นจำนวนข้อต้องลดลงโดยอาจารย์รายระดับชั้นต้องมาพูดคุยกันในแต่ละวิชา เพื่อตกลงกันในการที่จะให้การบ้านเด็กไม่มากเกินไป อีกทั้งการบ้านต้องไม่ยากเกินไปจนเด็กต้องไปจ้างคนอื่นทำ
นายกมล กล่าวด้วยว่า แนวปฏิบัติที่กำหนดออกมา สพฐ.เป็นการกลั่นกรองมาจากข้อเสนอแนะของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตลอดจนความเห็นของบุคคลต่างๆ ในสังคม ซึ่งการรับจ้างทำการบ้านเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมและจะมีผลต่อการทำลายคุณภาพ การศึกษาของประเทศในอนาคตโดยอาจรู้เท่าไม่ถึงการณ์
ที่มา: กรุงเทพธุรกิจ
ติดตามความเคลื่อนไหวของ ประชาไท ทางอีเมล คลิกอ่าน http://goo.gl/8xIcV หรือเฟซบุ๊ค http://fb.me/Prachatai