13 ส.ค.2557 นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการ คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ตรวจการซักซ้อม และเตรียมความพร้อม เปิดรับการเสนอชื่อบุคคล เข้ารับการสรรหาเป็น สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) ที่จะมีขึ้นวันแรก พรุ่งนี้ (14 ส.ค.) โดย สำนักงาน กกต. ได้จัดห้อง พร้อมพื้นที่รองรับการเสนอชื่อ ทั้ง 11 ด้าน ที่ลานอเนกประสงค์ ชั้น 2 สำนักงาน กกต. ซึ่งขณะนี้มีความพร้อมแล้ว 100 %
โดยมีการเตรียมเจ้าหน้าที่ กกต.ทุกส่วนงาน ผลัดเปลี่ยนการทำหน้าที่รับสมัคร คาดว่าจะมีองค์กร นิติบุคคล ประมาณ 3 พัน องค์กร เสนอชื่อบุคคลเข้ารับการสรรหา และคาดว่าจะมีการเสนอชื่อมากที่สุดในช่วง 5 วันสุดท้าย ทั้งนี้ สำนักงาน กกต.จะส่งประวัติให้กับ คณะกรรมการตรวจสอบคุณสมบัติ ทั้ง 15 หน่วยงาน ตรวจสอบคุณสมบัติแบบวันต่อวัน
“จะมีการประกาศรายชื่อของผู้ที่สมัคร สปช.ทุกวัน หากประชาชนคนใดมองว่า มีบุคคลที่มีคุณสมบัติไม่เหมาะสม ก็สามารถยื่นหนังสือร้องเรียนเข้ามาได้ เพื่อที่ กกต.จะแจ้งต่อไปยัง คสช.ให้คัดกรองอีกครั้งหนึ่ง” นายภุชงค์ กล่าว
นายภุชงค์ กล่าวยว่า การดำเนินการรับการเสนอรายชื่อครั้งนี้งบประมาณที่ใช้ไม่เกิน 10 ล้านบาท โดยเป็นงบจากโครงการที่ถูกระงับการดำเนินการ หลังจากมีการรัฐประหาร งบที่ใช้ส่วนใหญ่จะเป็นค่าบริหารจัดการการประชุม ส่วนค่าป้ายประชาสัมพันธ์ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานรัฐวิสาหกิจต่างๆ ซึ่งน้อยกว่าการสรรหาสมาชิกวุฒิสภาในอดีตที่ใช้งบประมาณถึง 50 ล้านบาท
เมื่อถามว่า สมาชิก สปช.จะต้องยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบ ปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)หรือไม่ นายภุชงค์ กล่าวว่า หากสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ต้องยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช. สมาชิก สปช.ก็จะต้องยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินด้วยเช่นกัน
สำหรับขั้นตอนในการเสนอชื่อนั้น องค์กรนิติบุคคลไม่แสวงหากำไร ที่ต้องการเสนอชื่อบุคคล สามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์มได้ที่เว็บไซต์ของ กกต. www.ect.go.th พร้อมนำเอกสาร หลักฐานต่างๆ อาทิ สำเนาทะเบียนบ้านของนิติบุคลผู้เสนอชื่อ หลักฐานความเป็นนิติบุคคล และมติจากที่ประชุมขององค์กรนิติบุคคล มายื่นสมัครด้วยตัวเองที่ สำนักงาน กกต. หรือ ผ่านทางไปรษณีย์มายังสำนักงาน กกต.
จากนั้น เจ้าหน้าที่ กกต. จะรวบรวมและส่งให้คณะกรรมการตรวจสอบคุณสมบัติ ที่ประกอบ ด้วย 15 หน่วยงาน ให้ดำเนินการตรวจสอบเป็นรายวัน โดย กกต. จะทำการคีย์ข้อมูลลงในระบบตรวจสอบคอมพิวเตอร์ส่งไปยัง 15 หน่วยงานให้ดำเนินการ เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว ทันระยะเวลาที่กำหนด โดยการสรรหาจะดำเนินการไปพร้อมกับการสรรหาในภาคส่วนจังหวัดต่างๆ
เรียบเรียงจาก สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์และ สำนักข่าวไทย