8 ส.ค. 2557 ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติเอกฉันท์เลือกนายพรเพชร วิชิตชลชัย เป็นประธาน สนช. โดยไร้คู่แข่ง และไม่ต้องแสดงวิสัยทัศน์ นอกจากนี้ยังเห็นชอบให้นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย และนายพีระศักดิ์ พอจิต เป็นรองประธาน สนช. คนที่ 1 และ 2 ตามลำดับ
เมื่อเวลา 09.30 น.ที่รัฐสภา มีการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ครั้งที่ 1/2557 โดยมีสนช.มาลงชื่อเข้าประชุมอย่างคึกคักจำนวน 191 คน จาก 197 คน ทั้งนี้มีนายสมพร เทพสิทธา สนช.ที่อาวุโสสูงสุด อายุ 89 ปี ทำหน้าที่เป็นประธานที่ประชุมชั่วคราว โดยนายสมพรกล่าวก่อนดำเนินการประชุมว่า จะทำงานด้วยความซื่อสัตย์ คำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติ และเห็นว่า สนช.ประกอบด้วยบุคคลที่เป็นสัตบุรุษ ได้รับการกลั่นกรองมาอย่างดี ถ้าสภาใดไม่มีสัตบุรุษ สภานั้นไม่ใช่สภา ตนขอเรียกว่าสภาแห่งนี้ว่า “สภาสัตบุรุษแห่งชาติ”
จากนั้นที่ประชุมได้รับทราบพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ประกาศพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ พ.ศ. 2557 และรับทราบพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ประกาศแต่งตั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ก่อนที่สมาชิกสนช.จะร่วมกล่าวปฏิญาณตนในที่ประชุมก่อนปฏิบัติหน้าที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเกิดความวุ่นวายเล็กน้อยกว่าจะเข้าสู่วาระในการเลือกประธาน รองประธาน เนื่องจากนายสมพร อายุมาก ไม่เข้าใจข้อบังคับระชุม ทำให้สมาชิกสับสน รวมทั้งสมาชิกบางส่วนยังไม่เข้าใจวิธีการเสียบบัตรลงคะแนน และจำนวนองค์ประชุมไม่ตรงกับจำนวนที่ลงคะแนน เพราะมีบางท่านไม่ได้เซ็นชื่อก่อนเข้าห้องประขุม ทำให้นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย นายตวง อัณทะไชย นายสมชาย แสวงการ ทักท้วงอธิบายให้เข้าใจถึงข้อบังคับการประชุมที่ถูกต้อง พร้อมกับให้เลขาธิการวุฒิสภา อธิบายวิธีการเสียบบัตรลงคะแนนใหม่ เพราะหากลงคะแนนไม่ถูกต้อง อาจส่งผลกระทบต่อคุณสมบัติการเป็นสนช.ต้องสิ้นสุดลงได้ ทำให้เสียเวลาการประชุมไปกว่า 1 ชั่วโมง
จนกระทั่งเวลา 10.50 น. นายสมพรจึงขอมติงดเว้นข้อบังคับการประชุม ข้อ 6 วรรค 2 การเลือกประธาน และรองประธานสนช.ไม่ต้องแสดงวิสัยทัศน์เห็นชอบด้วยคะแนน 174 ต่อ 16 งดออกเสียง 1 จากนั้น พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ สนช.ได้เสนอชื่อนายพรเพชร พิชิตชลชัย เป็นประธานสนช. โดยไม่มีการเสนอชื่อคนอื่น ที่ประชุมจึงเห็นชอบให้นายพรเพชรเป็นประธาน สนช. ซึ่งนายพรเพชรลุกขึ้นไหว้ขอบคุณสมาชิกในห้องประชุม ต่อมาในวาระการเลือกรองประธานสนช.ทั้ง 2 คน โดยพล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม สนช.เสนอชื่อนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย เป็นรองประธานสนช.คนที่หนึ่ง โดยไม่มีการเสนอชื่อบุคคลอื่นที่ประชุมจึงมีมติให้นายสุรชัยเป็นรองประธานสนช.คนที่หนึ่ง
ซึ่งนายสุรชัย ได้รีบยืนขึ้นยกมือไหว้ จากนั้นนายสมชาย แสวงการ ได้เสนอชื่อนายพีระศักดิ์ พอจิต เป็นรองประธานสนช.คนที่สอง ซึ่งไม่มีการเสนอชื่อบุคคลอื่นเช่นกัน ที่ประชุมจึงมีมติให้นายพีระศักดิ์เป็นรองประธานสนช.คนที่สอง ท่ามกลางเสียงปรบมือแสดงความยินดีจากสมาชิกทั้งห้องประชุม โดยใช้เวลาการเลือกประธานและรองประธานสนช.ไม่ถึง 5 นาที
จากนั้นนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช. กล่าวหลังได้รับเลือกเป็นประธานสนช.ว่า มั่นใจว่าจะได้รับความร่วมมือจากสนช.ในการทำงานตามความมุ่งหมายของรัฐธรรมนูญชั่วคราว ปี 2557 นำประเทศไทยไปสู่การมีประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ มีกฎหมาย มีรัฐธรรมนูญ และนำประเทศไปสู่การเลือกตั้งในอนาคตอันใกล้ ขอปฏิญาณตนว่า จะดำเนินการในที่ประชุมด้วยการรับฟังความเห็นจากสมาชิกทุกเรื่อง ไม่ต้องเกรงใจ สามารถเข้าพบตนได้ตลอดเวลา
ด้านนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศ รองประธานสนช.คนที่หนึ่ง กล่าวว่า ขอบคุณสมาชิกที่ให้ความไว้วางใจ จะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต ตามคำที่ปฏิญาณต่อสภาฯ และจะนำประเทศไปสู่ระบอบ ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ ขณะที่นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสนช.คนที่สอง กล่าวว่า จะร่วมมือทำงานกับประธานและรองประธานสนช.คนที่หนึ่ง ขอย้ำว่า รัฐธรรมนูญชั่วคราว พ.ศ.2557 ระบุให้สนช.ทำหน้าที่เป็นผู้แทนปวงชนชาวไทย จะขอทำหน้าที่สนช.อย่างเต็มที่จากนั้น 11.15 น. นายสมพรได้สั่งปิดประชุม โดยใช้เวลาการประชุมทั้งหมด1.45 ชั่วโมง
ที่มาเรียบเรียงจาก: สำนักข่าวไทย, สยามรัฐ
ติดตามความเคลื่อนไหวของ ประชาไท ทางอีเมล คลิกอ่าน http://goo.gl/8xIcV หรือเฟซบุ๊ค http://fb.me/Prachatai