สนธิ ลิ้มทองกุล เข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และจะถูกส่งไปเรือนจำคลองเปรม ระหว่างรอคำพิจารณาศาลฎีกาว่าจะให้ปล่อยตัวชั่วคราว คดีผิด พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ หรือไม่
7 ส.ค. 2557 - ตามที่ช่วงเช้าวันนี้ (7 ส.ค.) ศาลอุทธรณ์อ่านคำพิพากษา คดีที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตผู้บริหารสื่อเครือผู้จัดการ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ร่วมกับนายสุรเดช มุขยางกูร น.ส.เสาวลักษณ์ ธีรานุจรรยงค์ และนางสาวยุพิน จันทนา อดีตผู้บริหารและกรรมการบริษัท แมเนเจอร์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กระทำผิดตาม พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนและปรึกษาหารือแล้วเห็นว่าการกระทำของจำเลยฝ่าฝืนกฎระเบียบของตลาดหลักทรัพย์ร้ายแรง จึงให้พิพากษายืน จำคุก นายสนธิ น.ส.เสาวลักษณ์ และ น.ส.ยุพิน คนละ 20 ปี และนายสุรเดช จำคุก 2 ปี 6 เดือน โดยนายสนธิให้ทนายความใช้หลักทรัพย์เป็นกรมธรรม์ประกันอิสรภาพ มูลค่า 10 ล้านบาท เพื่อขอปล่อยชั่วคราว และรอระหว่างพิจารณาคำร้องของศาลว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่นั้น (อ่านข่าวก่อนหน้านี้)
ล่าสุดนั้น ศาลพิจารณาคำร้องแล้วเห็นว่า ควรส่งคำร้องให้ศาลฎีกา เป็นผู้พิจารณาว่าจะอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวหรือไม่ โดยคาดว่าจะใช้เวลา 3-5 วัน
ทั้งนี้ มติชนออนไลน์ รายงานว่า นายสรสิทธิ์ จงเจริญ ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ กล่าวว่า ถึงการรับตัวนายสนธิ ลิ้มทองกุล เข้าควบคุมในเรือนจำระหว่างรอคำพิจารณาศาลฎีกาว่า นายสนธิจะถูกส่งตัวเข้าแดนแรกรับ ซึ่งเป็นขั้นตอนปกติของผู้ต้องขังทั่วไป จากนั้นจะต้องทำประวัติ พิมพ์ลายนิ้วมือ และตรวจสุขภาพ พร้อมแจกคู่มือการอยู่ในเรือนจำ และอุปกรณ์ยังชีพ อย่างไรก็ตาม เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ จะควบคุมตัวนายสนธิเพียง 1 คืน ก่อนส่งตัวไปคุมขังที่เรือนจำกลางคลองเปรม เนื่องจากโทษจำคุกของนายสนธิเกิน 15 ปี อยู่นอกเหนืออำนาจการควบคุมของเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดยระหว่างถูกคุมตัวในแดนแรกรับ ซึ่งมีผู้ต้องขังเสื้อแดงถูกคุมขังอยู่ด้วย คาดว่าจะไม่มีปัญหา หรือข้อกังวลในการอยู่ร่วมกัน เพราะในห้องควบคุมมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดสำรวจความเคลื่อนไหวผู้ต้องขังได้ทั่วถึง อีกทั้งยังมีเจ้าหน้าที่ผู้คุมคอยดูแลป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาระหว่างอยู่ร่วมกันได้แน่นอน