อดีตนายกรัฐมนตรี ชี้สำนวนคดีของ ป.ป.ช ปมทุจริตโครงการจำนำข้าวฯ ไม่สมบูรณ์ กระบวนการไต่สวนทำอย่างเร่งรีบรวบรัด จึงร้องขอความเป็นธรรมให้อัยการสูงสุดดำเนินการไต่สวนฯ อย่างละเอียดและรอบคอบในทุกประเด็น
6 ส.ค.2557 นาย นรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความผู้รับมอบอำนาจจาก น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้ายื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุด ถนนแจ้งวัฒนะ ในฐานะผู้ถูกกล่าวหา หลังจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ได้ส่งสำนวนคดีอาญาชี้มูลความผิดเกี่ยวกับการทุจริตโครงการจำนำข้าวเปลือกและการระบายข้าวให้อัยการสูงสุดดำเนินการฟ้องร้อง
ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก อดีตนายกรัฐมนตรี เห็นว่า สำนวนคดีของ คณะกรรมการ ป.ป.ช ยังมีความไม่สมบูรณ์ครบถ้วนในหลายประเด็น และกระบวนการไต่สวนข้อเท็จจริงทำอย่างเร่งรีบ และรวบรัดคดีเกินไป ทำให้ผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงร้องขอความเป็นธรรมให้อัยการสูงสุดดำเนินการไต่สวนฯ อย่างละเอียดและรอบคอบในทุกประเด็นรวม 9 เรื่อง
โดยทนายความผู้รับมอบอำนาจจาก อดีต นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำนวนคดีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.ไต่สวนฯ ระบุว่าอดีต นายกรัฐมนตรีได้ละเว้นไม่ระงับยับยั้งการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวจนเกิดความเสียหายและขาดทุนกว่า 500,000 ล้านบาท และมีการทุจริตโครงการในทุกขั้นตอน โดยไม่มีพยานหลักฐานชัดเจน
รวมทั้ง จากรายงานการตรวจสอบปริมาณสต๊อกข้าวของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. พบว่า มีข้าวสูญหายและเสื่อมสภาพไม่ถึงร้อยละ 1 ซึ่งขัดแย้งกับสำนวนคดีของ คณะกรรมการ ป.ป.ช. และการอ้างอิงความเสียหายจากคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวไม่มีความสมบูรณ์ เพราะยังมีสต๊อกข้าวที่ไม่ได้บันทึกบัญชีอีก 2.977 ล้านตัน ถือเป็นการสืบพยานยังไม่ครบถ้วนและสมบูรณ์
จึงขอให้อัยการสูงสุดสอบปากพยานบุคคลเพิ่มเติมทั้งบุคคลที่เคยเสนอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.สอบปากและพยานบุคคลใหม่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการและอนุกรรมที่เกี่ยวข้องทั้ง 14 ชุด รวมพยานบุคคลประมาณ 50 ปาก ทั้งนี้ นายสมเกียรติ คุววัฒนานนท์ รองเลขานุการอัยการสูงสุด เป็นผู้แทนรับมอบหนังสือร้องเรียน พร้อมกล่าวว่า จะนำเอกสารร้องเรียนนี้ให้คณะทำงานอัยการสูงสุดพิจารณาต่อไป
ทนายความผู้รับมอบอำนาจจาก อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การดำเนินการนี้ เป็นการร้องขอความเป็นธรรมไม่ใช่เป็นการยื้อเวลา เพราะเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของกฎหมาย ส่วนกรณี น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีต นายกรัฐมนตรี จะเลื่อนเดินทางกลับหรือเดินทางกลับมาในวันที่ 10 สิงหาคมนี้หรือไม่นั้น ตนเองไม่มีข้อมูล และไม่ได้ดูแลในส่วนนี้ โดยอดีตนายกรัฐมนตรีได้ฝากเพียงสั้นๆว่า พร้อมต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรมทางกฎหมาย
เรียบเรียงจาก สำนักข่าวแห่งชาติ