เครือข่ายรณรงค์ยกเลิกแร่ใยหินแห่งประเทศไทยจี้เลิกซื้อเวลาให้ธุรกิจ นักวิชาการชี้ทั่วโลกสนับสนุนไทย หนุน คสช. เร่ง ตัดสินใจ พร้อมให้ข้อมูล
3 ส.ค.57 ที่ เคยูโฮม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เครือข่าย T-BAN จัดประชุมความพร้อมในการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง มาตรการทำให้สังคมไทยไร้แร่ใยหิน และข้อเสนอต่อ คสช.
นพ.นพพร ชื่นกลิ่น รองอธิบดี กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แจ้งว่า ได้ส่งผลสรุปจาก สธ.ให้ กระทรวงอุตสาหกรรม แล้ว สนันสนุนให้ยกเลิกทันที ปลัดกระทรวงฯ นพ ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ เพิ่งเซ็นส่งออกไปเมื่อ 2 วันก่อน ทั้งนี้ผลการประชุมคณะกรรมการศึกษาผลกระทบสุขภาพจากใยหิน ที่มีปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ. ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2557 ให้ยืนยันยกเลิกการใช้แร่ใยหินในทุกผลิตภัณฑ์ ตามมติ ครม. 12 เม.ย. 2554 โดยถือเป็นบทบาทหน้าที่ของกระทรวงฯ ที่ต้องรับผิดชอบประชาชน ให้มาตรการเป็นไปแนวทางเดียวกับองค์การอนามัยโลกที่สรุปว่าทางเดียวที่จะขจัดโรคที่มาจากใยหินได้ คือ การยกเลิกการใช้ทุกชนิด โดยขอให้ สำนักควบคุมวัตถุอันตรายของกรมโรงงาน กระทรวงอุสาหกรรม พิจารณาใยหินเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 และ ให้ปรับค่ามาตรฐานของฝุ่นใยหินในที่ทำงานให้เหลือ 0.1 เส้นใยต่ออากาศ 1 ลบ. ซม. จากปัจจุบันที่สูงถึง 5 เส้นใยต่ออากาศ 1 ลบ. ซม. สนับสนุนเทคโนโลยีการใช้วัสดุหรือสารทดแทน มาตรการป้องกันการรับสัมผัส ปรับปรุงระบบวินิจฉัย และ ต้องกองทุนผู้ได้รับผลกระทบจากใยหิน
ส่วนผู้แทนอุตสาหกรรม คงยืนยัน ยืดเวลา 5 ปี โดยไม่มีกำหนดว่าจะเริ่มเมื่ิอใด
นางสมบุญ สีคำดอกแค เครือข่ายรณรงค์ยกเลิกแร่ใยหินแห่งประเทศไทย (T-BAN) กล่าวว่า ตนขอชื่นชมที่กระทรวง สธ. ทำหน้าที่ในการปกป้องสุขภาพคนไทยให้พ้นจากอันตรายจากพิษภัยของแร่ใยหินแตกต่างสิ้นเชิง จาก กระทรวงอุตสาหกรรมที่จะยืดอีกห้าปีโดยไม่รู้จะเริ่มเมื่อใด กระทรวงอุตสาหกรรมต้องดำเนินการยกเลิกใยหินโดยด่วน ทั้งนี้ ตามที่เครือข่ายได้ไปยื่นเรื่องต่อ คสช. นั้น ทาง คสช. แจ้งว่า ได้ส่งเรื่องที่เครือข่ายฯไปติดตามให้ดำเนินการเรื่องนี้ไปยังกระทรวงอุตสาหกรรมแล้ว เครือข่ายทีแบนพร้อมจะไปติดตามเรื่องนี้อีกครั้งที่กระทรวงอุตสาหกรรมในวันที่ 16 สิงหาคม เพราะให้เวลากระทรวงอุตสาหกรรมมานานแล้ว ขอให้อุตสาหกรรมเลิกซื้อเวลาให้ธุรกิจใยหินทำร้ายคนไทยอีกต่อไป
ศาสตราจารย์ ดร.นพ.สุรศักดิ์ บูรณตรีเวทย์ คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่าองค์การอนามัยโลกและองค์การแรงงานระหว่างประเทศรวมถึงองค์กรระหว่างประเทศที่สำคัญมากมายไม่ว่าจะเป็น เครือข่ายนักวิชาการโลกคอลลีเจียมรามาสสินิ ธนาคารโลก คณะกรรมาธิการระหว่างประเทศด้านอาชีวอนามัย สมาคมระบาดวิทยา สหภาพเพื่อการควบคุมมะเร็งระหว่าง องค์การเดินเรือทางทะเลระหว่างประเทศ สมาคมหลักประกันทางสังคมระหว่างประเทศ และอื่นๆ ได้แนะนำให้ยกเลิกการใช้ใยหินทุกประเภท เนื่องจาก เป็นสารก่อมะเร็ง ประเทศไทยมีมติ ครม. เมื่อวันที่ 12 เม.ย. 2554 ให้ยกเลิกการนำเข้า การใช้ใยหินทุกชนิด จนถึงปัจจุบันยังไม่เกิดผลตามมติ ครม. ดังกล่าว ชื่นชมกระทรวงสาธารณสุขที่เอาสุขภาพเป็นตัวตั้งให้เลิกใยหินทันที แตกต่างจากกระทรวงอุตสาหกรรม สังคมจึงต้องร่วมกันติดตามว่าทำไมอุตสาหดรรมถึงล่าช้าและขอเวลาอีกห้าปี เครือข่ายนักวิชาการฯพร้อมให้ข้อมูลต่อ คสช.หากต้องการ และ เห็นว่าขณะนี้ประเทศต่างๆทั่วโลกกำลังจับตามองประเทศไทยว่า เหตุใดมี มติ ครม. แล้วแต่ยังยื้อเรื่องอยู่ ทั้งนี้จะมีการประชุมเครือข่ายนักวิชาการนานาชาติเพื่อสนับสนุนการยกเลิกใยหินในประเทศไทยในเดือน พย. ปีนี้ที่ประเทศไทย