30 เม.ย. 56 ที่ทำเนียบรัฐบาล กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย จัดกิจกรรม สนับสนุนรัฐบาลเดินหน้านิรโทษกรรม "ปลดปล่อยนักโทษการเมือง"เนื่องในโอกาสครบ 2 ปี คุมขังสมยศ พฤกษาเกษมสุข โดยมีตัวแทนจากองค์กรแรงงานเพื่อประชาธิปไตย พร้อมทั้งประชาชนผู้สนใจเข้าร่วมอีกกว่า 60 คน
กิจกรรมเริ่มต้นโดยประชาชนร่วมกันนำนกกระดาษสีแดงหลายพันตัวแขวนเป็นสัญลักษณ์ที่รั้วทำเนียบรัฐบาลเป็นแนวยาวกว่า 30 เมตร จากนั้นตัวแทนองค์กรแรงงานเพื่อประชาธิปไตย กล่าวเรียกร้องความเป็นธรรมแก่สมยศในฐานะผู้ทำคุณประโยชน์ เรียกร้องสิทธิแรงงานและประชาธิปไตย แต่กลับถูกถูกคุมขังอย่างไม่ยุติธรรม ถูกกล่าวหาว่าหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์โดยการตีพิมพ์บทความ ทั้งที่พระราชบัญญัติจดแจ้งการพิมพ์ปีพ.ศ.2550 ไม่ให้เอาผิดบรรณาธิการ จึงขอให้ปล่อยตัวสมยศและนักโทษการเมืองคนอื่นๆทุกคน ตัวแทนองค์กรแรงงานเพื่อประชาธิปไตยกล่าวอีกว่า “สมยศเป็นเพื่อนของเรา ต่อสู้ร่วมกันมากว่าสามสิบปี เราต้องการให้เขาได้รับอิสรภาพ”
หลังจากนั้น ตัวแทนกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตยได้อ่านจดหมายเปิดผนึกที่นายสมยศเขียนในเรือนจำ โดยมีผู้แทนรัฐบาล นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง และนายสมเกียรติ ศรลัมพ์ ผู้ช่วยกรรมการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับมอบจดหมายดังกล่าว
นายสุภรณ์ กล่าวว่า เรื่องที่ได้รับในวันนี้จะนำกราบเรียนฯพณฯท่านนายกรัฐมนตรีโดยเร็วที่สุด แต่อย่างไรก็ตามรัฐบาลเองตั้งใจนำกฎหมายนิรโทษเข้ามาบรรจุในสมัยการประชุมสภาสมัยหน้าเป็นวาระเร่งด่วน ส่วนการพิจารณารายละเอียดว่าจะครอบคลุมเพียงใดนั้นจะอยู่ในชั้นกรรมาธิการ นอกจากนี้ยังจะมีการแก้ไขประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 107 และ 108 แห่งรัฐธรรมนูญพ.ศ. 2550 ซึ่งว่าด้วยการปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหา เพื่อป้องกันไม่ให้ศาลเลือกปฏิบัติและทุจริตคอร์รัปชัน ตลอดจนเป็นเครื่องมือกลั่นแกล้งหรือละเมิดสิทธิมนุษยชน ทั้งนี้ให้สอดคล้องกับหลักปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนและอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ซึ่งฝ่ายนิติบัญญัติหรือรัฐสภาต้องเป็นผู้ขับเคลื่อน
ในเวลา 14.00 น. กลุ่ม24 มิถุนาประชาธิปไตยเดินทางไปเยี่ยมผู้ต้องขังตามมาตรา 112 ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ และวันพรุ่งนี้ (วันกรรมกรสากล) เวลา 8.00 น. กลุ่มแรงงานจะรวมตัวกันที่ลานพระบรมรูปทรงม้า เดินเท้าไปยังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยนักโทษการเมือง
ทั้งนี้นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข ถูกจับกุมฐานดูหมิ่น หมิ่นประมาทหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาทและผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ตั้งแต่วันที่ 30 เม.ย.54 เนื่องจากเป็นบรรณาธิการนิตยสาร Voice of Taksin ซึ่งตีพิมพ์บทความเข้าข่ายหมิ่นเบื้องสูง 2 บทความ และถูกคุมขังในเรือนจำตั้งแต่นั้นมา โดยไม่ได้รับการประกันตัว กระทั่งในวันที่ 23 ม.ค.56 ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาลงโทษจำคุก 10 ปี บวกกับโทษเดิมเมื่อปีพ.ศ.2552 คดีหมิ่นประมาท พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ที่รอลงอาญาไว้อีก 1 ปี รวมเป็นจำคุก 11 ปี
(จดหมายเปิดผนึกของนายสมยศ)
..................................................................................
เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร (แดน1)
33 ถนนงามวงศ์วาน ลาดยาว
จตุจักร กรุงเทพฯ 10900
วันที่ 30เมษายน 2556
เรื่อง สิทธิการประกันตัว-นิรโทษกรรม
เรียน ฯพณฯนายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
จากกรณีนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข บรรณาธิการบริหารนิตยสาร Voice of Taksin ถูกกล่าวหาในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพตามมาตรา 112 ประมวลกฎหมายอาญา โดยถูกคุมขังอยู่ทีเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน 2554 โดยที่ไม่ได้รับสิทธิประกันตัวตามาตรา 39-40 รัฐธรรมนูญ 2550 จนกระทั่งศาลชั้นต้นตัดสินจำคุก 11 ปี ขณะนี้คดีอยู่ระหว่างอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์
องค์กรสิทธิมนุษยชน สหภาพแรงงาน นักวิชาการ สื่อมวลชน ทั่วโลกได้ร่วมกันประณามมาตรา112 และกระบวนการยุติธรรมของไทย ซึ่งกลายเป็นเครื่องมือกลั่นแกล้ง คุกคามสิทธิ์ เสรีภาพการแสดงความคิดเห็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีการจับกุมคุมขังนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข โดยไม่ให้สิทธิประกันตัว ทำให้ภาพลักษณ์กระบวนการยุติธรรมของไทยตกต่ำเป็นอย่างมาก
การกล่าวหาและการดำเนินคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพตามมาตรา112 ซึ่งเกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์ ด้วยการเลือกปฏิบัติไม่ให้สิทธิประกันตัวเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ การคุมขังที่ยาวนาน ให้ได้รับความทรมาณแสนสาหัสย่อมไม่เป็นผลดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
กระผมได้ต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพของผู้ใช้แรงงานมายาวนาน เป็นคนหนึ่งที่ได้ผลักดันระบบประกันสังคม สิทธิการลาคลอดและสิทธิการรวมตัวเป็นสหภาพแรงงาน ได้ต่อต้านรัฐประหาร เรียกร้องประชาธิปไตย ความเป็นธรรมให้สังคมมาโดยตลอด
ในโอกาสครบรอบ 2 ปี การถูกจับกุมคุมขังและความทรมานที่สูญสิ้นอิสรภาพครั้งนี้ จึงขอกราบเรียนข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลดังต่อไปนี้
1.ออกกฎหมายนิรทากรรม ปล่อยนักโทษการเมืองทุกคดี เป็นการคืนความเป็นธรรมและเป็นจุดเริ่มต้นสันติสุข และการปรองดองในสังคม
2. ในระหว่างที่ยังไม่มีการนิรโทษกรรม ให้รัฐบาลโดยกระทรวงยุติธรรม ดำเนินการประกันตัวผู้ถูกกล่าวหาตามมาตรา112 ซึ่งคดีอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์และศาลฎีกา รวมทั้งนักโทษการเมืองอื่นๆ โดยไม่มีการเลือกปฏิบัติ
3. แก้ไขประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 107-108 แห่งรัฐธรรมนูญ 2550 เพื่อป้องกันมิให้ศาลมีการเลือกปฏิบัติ และการทุจริต คอรัปชั่น ตลอดจนเป็นเครื่องมือกลั่นแกล้ง หรือละเมิดสิทธิมนุษยชน ทั้งนี้ให้สอดคล้องกับหลักปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน และอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิพลเมือง และสิทธิทางการเมือง
จึงเรียนมาเพื่อโปรดดำเนินการ และขอได้เปิดแจ้งผลการดำเนินการให้ทราบด้วย และขอกราขอพระคุณมา ณ โอกาสนี้
(นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข)
นักโทษการเมือง
เรือจำพิเศษกรุงเทพมหานคร (แดน1)
.................................................................................