สมาพันธ์นักเรียนไทยเพื่อการปฏิวัติระบบการศึกษาไทย ระบุมีสถานศึกษาจำนวนมากเสี่ยงได้รับสารตะกั่ว ทั้งจากวัสดุที่ใช้ในโรงเรียนและย่านอุตสาหกรรม ชี้หากปนเปื้อนจะมีผลต่อสุขภาพนักเรียน พร้อมเรียกร้องให้มีการแก้ไขเร่งด่วน
เมื่อวันที่ 29 เม.ย. ที่ผ่านมา สมาพันธ์นักเรียนไทยเพื่อการปฏิวัติระบบการศึกษาไทย ได้ส่งแถลงการณ์เรื่อง "แถลงการสมาพันธ์นักเรียน ฯ ต่อเรื่องการพบสารตะกั่วในเด็กนักเรียนสูงกว่ามาตรฐาน"โดยมีรายละเอียดดังนี้
"สถานศึกษาควรเป็นสถานที่ที่สะอาด ปลอดภัย และมีสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของ ผู้เรียน หากแต่ผลสำรวจกลับพบว่าโรงเรียนในจังหวัดระยอง มีเด็กนักเรียนที่มีสารตะกั่วในปริมาณที่เกิดมาตรฐานและเป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างยิ่ง
จากการสำรวจโรงเรียนต่างๆ ในบางอำเภอของจังหวัดระยอง พบเด็กที่ได้รับสารตะกั่วจำนวนมาก อันเนื่องมาจากการใช้สารประกอบตะกั่วในอุตสาหกรรมสี ทำให้เกิดการปนเปื้อนสารตะกั่วขึ้นในสีที่ใช้ทาเครื่องเล่น โต๊ะอาหาร อาคารโรงเรียน ฯลฯ ทาง สมาพันธ์นักเรียนฯ จึงมีความห่วงใยและกังวลในสุขภาพของเพื่อนนักเรียนที่ได้รับผลกระทบเหล่านั้นเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากการได้รับสารตะกั่วเข้าสู่ร่างกายมากเกินไป อาจทำให้มีอาการป่วยต่าง ๆ อาทิ โลหิตจาง ปวดตามข้อ กระดูกจะผุ หักง่าย นอกจากนั้น ยังสะสมในไขมัน ระบบร่างกายต่าง ๆ ทำให้เกิดอาการเรื้อรัง เช่น อาการทางของระบบทางเดินอาหาร อาการพิษทางประสาทและสมอง ซึมไม่รู้สึกตัว ชัก เป็นอัมพาต และอาจถึงแก่ชีวิตได้
ทางสมาพันธ์ฯ เห็นว่าอาจยังมีโรงเรียนที่ได้รับผลกระทบจากสารปนเปื้อนอยู่อีกมาก โดยเฉพาะโรงเรียนที่ตั้งอยู่บริเวณนิคมอุตสาหกรรมและโรงงานต่างๆ โรงเรียนเหล่านั้นอาจยังไม่ได้นับความช่วยเหลือ นอกจากนี้ เรื่องผลกระทบของสารปนเปื้อนต่อเด็กนั้น สื่อกระแสหลักไม่ให้ความสนใจเท่าที่ควร การดำเนินการแก้ไข้ปัญหาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีความล่าช้า ทางสมาพันธ์ฯจึงขอแสดงความเป็นห่วงและตระหนักถึงปัญหาเหล่านี้ เพราะสถานศึกษาควรจะเป็นแหล่งที่สร้างเสริมสติปัญญารวมถึงสุขภาพของผู้เรียนให้เติบโตขึ้นอย่างสมบูรณ์ หากสถานศึกษาใดมีความบกพร่องซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้เรียนในบางประการ เช่น ด้านสุขภาพ ตามเนื้อหาข้างต้น ก็สมควรจะได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วนที่สุด เพราะสุขภาพที่ดีย่อมส่งเสริมให้การเรียนรู้มีประสิทธิภาพ"