"คืนความสุขให้คนในชาติ"โดย พล.อ.ประยุทธ์ วอนมิตรประเทศให้ไทยมีส่วนร่วมเวทีนานาชาติต่อไป-คสช.จัดระเบียบสังคมต่อเนื่องจาก จยย.รับจ้างถึงค้าขายชายหาด เห็นใจ ปชช.แต่จำเป็นต้องทำ -30 บาทยังมีต่อ ใครพูดอะไรอย่ารับฟังให้มากนัก-เตือนนักเรียนตีกัน "ท่านนั้นยังไม่รู้ตัว บ่อนทำลายประเทศชาติอย่างร้ายแรง"-ไม่เห็นด้วย คสช. อย่าเพิ่งค้าน
18 ก.ค. 2557 - พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ กล่าวในรายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ” ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย วันศุกร์ที่ 18 กรกฎาคม 2557 เวลา 20.30 น. มีรายละเอียดดังนี้
000
สวัสดีครับ พ่อแม่พี่น้องประชาชนชาวไทยที่รักทุกท่าน ในช่วงที่ผ่านมานั้น หวังว่าทุกท่านคงได้มีโอกาสไปพักผ่อน เข้าวัดทำบุญ เดินทางท่องเที่ยวและมีความสุข ในห้วงวันหยุดเทศกาลที่ผ่านมา ผมขอชื่นชมพ่อแม่พี่น้องที่มีความตั้งใจที่จะทำความดีต่าง ๆ ในห้วงเข้าพรรษา ไม่ว่าจะเป็นการทำบุญ เข้าวัด งดการดื่มสุรา ลดการบริโภคเนื้อสัตว์ต่างๆ
ผมขอขอบคุณข้าราชการ ทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่ และอาสาสมัครทุกท่าน ที่ได้เสียสละเวลาพักผ่อนมาทำงานอย่างต่อเนื่องในห้วงวันหยุดที่ผ่านมา ทั้งนี้ ก็เพื่อเร่งจะเดินหน้าแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่เป็นความเดือดร้อน และความคาดหวังของประชาชน
การพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจจากทุกภาคส่วน ที่ต้องช่วยกันทุ่มเทแรงกายแรงใจ กำลังความคิด สติปัญญา เพื่อประโยชน์สุขของคนไทยทุกคนอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม และในห้วงเวลานี้ นับว่าเป็นเวลาที่มีความสำคัญยิ่ง ที่พวกเราคนไทยทุกคนจะได้หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว และร่วมกันปฏิรูปประเทศเพื่อความก้าวหน้าและยั่งยืนสืบไปในอนาคต วันนี้ผมมีเรื่องเรียนให้พี่น้องทราบ และขอความร่วมมือเพื่อที่เราจะได้ก้าวเดินต่อไปข้างหน้าอย่างพร้อมเพรียงกัน ดังนี้
เรื่องสถานการณ์ต่างประเทศ อยากให้มิตรประเทศทั้งหลาย ได้ร่วมกับเราในการปฏิรูปประเทศในครั้งนี้ ซึ่งจะเป็นหนทางนำไปสู่อนาคต เพื่อความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนตลอดไป
สำหรับในเรื่องของการชี้แจงเหตุผล และความชอบธรรม ในการควบคุมอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในครั้งนี้ ผมทราบดีไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมาตรฐานนานาชาติ ได้ถือเรื่องสิทธิมนุษยชนและระบอบประชาธิปไตยที่มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งใช้อยู่ในโลกตะวันตกและอื่น ๆ ตลอดห้วงศตวรรษที่ผ่านมา ถือเป็นเรื่องปกติของการอยู่ร่วมกัน และระบอบประชาธิปไตยเป็นระบอบที่ทุกคนคิดว่าเป็นระบอบที่ดีที่สุด
ขณะนี้จะเห็นว่า เป็นช่วงเวลาที่ไทยพยายามกลับมาสร้างพื้นฐานความเป็นประชาธิปไตยที่มั่นคง ซึ่งจะทำให้ความสัมพันธ์ในฐานะหุ้นส่วนแนวร่วมกับนานาชาติให้มีความยั่งยืน และเป็นประโยชน์ร่วมกันมากยิ่งขึ้น ที่ผ่านมาในอดีตอาจถือได้ว่าเป็นความบกพร่องของประชาธิปไตยในไทย คือ สภาพการไม่เคารพต่อหลักพื้นฐานประชาธิปไตยอันได้แก่ การเคารพกฎหมาย ความเสมอภาค ธรรมาภิบาล การรักษาระบบดุลและคานอำนาจซึ่งกันและกันทั้งอำนาจบริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการ สิ่งที่เป็นปัญหาก่อนวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมานั้น ได้แก่ การติดค้างการจ่ายเงินจำนำค่าข้าว การบาดเจ็บล้มตายของประชาชนผู้บริสุทธิ์ จากอาวุธสงคราม การบริหารราชการแผ่นดินโดยรัฐบาลรักษาการ ซึ่งไม่มีอำนาจเต็ม ทำให้การใช้จ่ายงบประมาณปี 2557 และการจัดทำงบประมาณปี 2558 กระทำได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพ ซึ่งอาจจะเป็นปัญหาใหญ่หลวงในระยะต่อไป
เรื่องของการเจรจาเพื่อสร้างความปรองดอง และการเลือกตั้งในห้วงที่ผ่านมานั้นไม่สามารถกระทำได้ ต่างฝ่ายต่างไม่ยินยอมลดข้อเรียกร้องซึ่งกันและกัน โดยเชื่อว่าฝ่ายตัวเองถูกหรืออีกฝ่ายหนึ่งผิด ทั้งภาคธุรกิจ นักวิชาการและบุคคลที่เกี่ยวข้องมากมาย พยายามที่จะหาทางออกโดยการประนีประนอมมาอย่างต่อเนื่อง ใช้วิธีการอันสันติวิธี แต่ก็ติดขัด ถูกล็อคด้วยข้อกฎหมายต่าง ๆ ทำให้อาจจะเกิดการจราจลและสงครามการเมืองมีแนวโน้มที่อาจจะเกิดขึ้นได้
ในส่วนของกองทัพได้ติดตามสถานการณ์มาอย่างต่อเนื่อง มีความจำเป็นต้องเข้ามาแก้ไขสถานการณ์ดังกล่าวให้ได้โดยเร็ว สิ่งแรกที่กระทำได้คือยุติการใช้ความรุนแรงต่อกัน ยุติการประท้วงที่มีมาอยู่อย่างยาวนานได้ทันท่วงที หลีกเลี่ยงสถานการณ์นองเลือด สงครามกลางเมืองไว้ได้ ปัญหาต่าง ๆ ได้รับการคลี่คลายลงได้โดยเร็ว และลดความเดือดร้อนของประชาชนลงได้ คสช. ไม่ต้องการคำชมเชย เราทำเพื่อปลดล็อคออกจากหนทางตีบตันไร้สภาพการบริหารประเทศที่ไม่มีประสิทธิภาพเป็นมาอย่างยาวนานกว่า 6 เดือน ทั้งนี้สิ่งที่เรากระทำไปนั้นไม่สูญเสียชีวิตคนไทยอีกเลย นั่นเป็นสิ่งที่เราต้องการ
บัดนี้ ผมคิดว่าถึงเวลาแล้วหรือยัง ที่คนไทยและมิตรประเทศทุกประเทศจะช่วยกันมองไปสู่อนาคตและหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดเหตุการณ์อย่างที่เคยเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่ามา ในอดีตในการเป็นประชาธิปไตยของประเทศไทย มิตรประเทศเหล่านั้นคงไม่ปฏิเสธว่า ไทยมีสถานะเป็นหุ้นส่วนสำคัญของมหาอำนาจต่างๆในโลก เป็นพันธมิตรที่เก่าแก่ที่สุดของสหรัฐฯ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอีกหลายประเทศในชาติตะวันตก กรุงเทพฯ เป็นที่ตั้งของสำนักงานสหประชาชาติประจำเอเซียแปซิฟิค ที่ตั้งของสำนักงานภูมิภาคขององค์กรระหว่างประเทศ และมี จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ เป็นสมาชิก นอกจากนั้นยังเป็นหุ้นส่วนความร่วมมืออีกมากมาย ทั้งในระดับภูมิภาค และนานาชาติ ในหลายมิติ ใน 3 เสาหลัก คือ ด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ และสังคมจิตวิทยา ตลอดจนความร่วมมือช่วยเหลือป้องกันและเยียวยาภัยพิบัติและสิ่งแวดล้อม ร่วมปฏิบัติการสันติภาพโลกมาอย่างยาวนาน และต่อเนื่อง
ประเทศไทยมีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับแรก ๆ ของอาเซียน ไทยมีส่วนสร้างให้เกิดฐานการผลิตและการบริการ การลงทุนร่วมหลายต่อหลายแห่ง ไทยมีบทบาทหลักในการก่อตั้งอาเซียน และการประชุมความร่วมมือแห่งเอเชียหรือที่เรียกว่า ACD ซึ่งมีประเทศในเอเชียกว่า 30 ประเทศเป็นสมาชิก และไทยมีบทบาทเป็นสมาชิกที่แข็งขันของ APEC และ ASEM ของเอเชีย ยุโรป และในการประชุมเชิงบวกของ EAS หรือการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก ที่ทั้งสหรัฐอเมริกาและออสเตรเลียเป็นสมาชิก เราได้เข้าสู่การเจรจาตามที่สหรัฐได้เชื้อเชิญในเวที TPP หรือหุ้นส่วนความร่วมมือแห่งแปซิฟิค เป็นสมาชิกแข็งขันของ RCEP หรือความร่วมมือเศรษฐกิจภูมิภาคอาเซียน และกำลังจะเป็นเวที AEC ในภูมิภาค 10 ชาติอาเซียนในอนาคต
ดังนั้น เราควรต้องร่วมมือกันดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อประโยชน์ร่วมกันอย่างแท้จริง ในอนาคต การที่ คสช. เข้ามาจัดระเบียบต่าง ๆ เหล่านั้นเพื่อให้เกิดความยั่งยืน เพราะฉะนั้นไม่น่าทำให้ความจริงแห่งพื้นฐานทางเศรษฐกิจต้องเปลี่ยนแปลงไป หรือมีผลกระทบต่อโอกาสของประเทศไทยที่มีต่ออาเซียนและประชาคมโลก ในการที่จะก้าวต่อไปเพื่อความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในอนาคตอย่างยั่งยืน เราไม่อยากให้มิตรประเทศจำกัดบทบาทเชิงสร้างสรรค์ของทหารหรือ คสช. ในเวลานี้ โดยขอให้ไทยยังคงมีส่วนร่วมในเวทีนานาชาติต่อไป ซึ่งน่าจะเป็นผลดีต่อมิตรประเทศมากกว่าเดิม
ในส่วนของกิจการในประเทศ คนไทยต่างมีความหวังที่จะเห็นอนาคตที่ดีของประเทศได้รับประโยชน์อย่างทั่วถึง ไม่เฉพาะกลุ่มหนึ่งกลุ่มใดหวังคืนสู่ระบอบประชาธิปไตยที่เข้มแข็งขึ้น มีระบบคุ้มครองหลักนิติธรรม นิติรัฐที่เหมาะสม ประชาชนมีส่วนร่วมในกระบวนการตัดสินใจอย่างแท้จริง มีการตรวจสอบความโปร่งใสที่มีประสิทธิภาพ โดยให้กระบวนการปฏิรูปเข้ามามีส่วนช่วยแก้ไขสิ่งที่เราล้มเหลวมาในอดีต และวางพื้นฐานในการพัฒนาสิ่งดี ๆ ใหม่ ๆ สำหรับประเทศในอนาคตอย่างยั่งยืน การที่จะวัดคำว่า ประชาธิปไตย น่าจะมากกว่าการดูการเลือกตั้งเกิดขึ้นหรือไม่ เท่านั้น ควรวัดว่า การเลือกตั้งแล้วจะทำให้เกิดอะไร ได้อะไร กับประชาชนอย่างยั่งยืนมากกว่า
การปฏิรูปในระยะต่อไป เราจะเน้นเรื่องการปฏิรูปการเมือง การต่อต้านคอร์รัปชั่น ระบบธรรมาภิบาลมีความโปร่งใสที่ชัดเจน มีกฎหมายที่ศักดิ์สิทธิ์ มีการถ่วงดุลและคานอำนาจของรัฐบาลอย่างเหมาะสม และมีประสิทธิภาพ ตลอดจนการปฏิรูปในทุก ๆ ด้านที่เคยเรียนไปแล้ว 11 ด้าน สิ่งต่างๆเหล่านี้น่าจะทำให้มิตรประเทศพอใจ ในยามนี้อยากให้สนับสนุนการทำงานของ คสช. ให้ไทยเป็นชาติประชาธิปไตยที่มีประสิทธิภาพ มีพื้นที่มากมายที่มิตรประเทศจะให้ความช่วยเหลือ ร่วมมือ แลกเปลี่ยนข้อมูล ความคิดเห็น และเอื้อเฟื้อ จากประสบการณ์ของท่านที่มีอยู่ในปัจจุบัน ในฐานะหุ้นส่วนและมหามิตร ในการปฏิรูปต้องอาศัยคนไทยที่เข้าใจและสนับสนุนเป็นอย่างมากในฐานะที่เป็นเจ้าของประเทศ ทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ควรเข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการปฏิรูป เราไม่อยากทิ้งใครไว้ เพราะเราคือคนไทยด้วยกันทั้งสิ้น
คำว่า ประชาธิปไตย ทุกประเทศที่มีอยู่ในปัจจุบันนั้น แต่ละประเทศได้ผ่านปัญหา ผ่านเหตุการณ์ร้ายแรงต่าง ๆ มามากมาย ต่างทดสอบกันด้วยกาลเวลา วันนี้ หากเราช่วยกันตั้งเสาหลักแห่งประชาธิปไตยของไทยให้มั่นคง ย่อมดีกว่าการวิพากษ์วิจารณ์แต่เพียงอย่างเดียว โดยเฉพาะการเรียกร้องแต่เพียงการเลือกตั้งให้ได้โดยเร็ว เราได้ผ่านการลองผิดลองถูก คิดผิดคิดถูกมาหลายปี หลายครั้ง หากเราทำสำเร็จเราก็จะเป็นประชาธิปไตยที่เป็นประโยชน์กับคนไทยและมิตรประเทศอย่างสมบูรณ์และยั่งยืน
สุดท้ายนี้ ขอเวลากับคนไทยกับมิตรประเทศ ในการสร้างหนทางที่จะเดินไปข้างหน้าร่วมกัน ขอให้ทุกประเทศได้ร่วมเคียงข้างกับคนไทยในการสร้างสรรค์ สภาพประเทศที่เต็มไปด้วยความหวัง และความมีเสถียรภาพในประเทศ และเพื่อเสถียรภาพของอนาคตความมั่นคงทั้งภูมิภาค และประชาคมโลกอย่างยั่งยืนตลอดไป กรณีสำหรับผู้ที่เห็นต่างจาก คสช. ไม่อยากให้ทุกคนมองข้ามการต่อสู้เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย โดยลืมนึกถึงความปลอดภัย การทุจริตคอร์รัปชั่น การบริหารงานที่ผิดพลาดและคิดถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ได้ประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์ บางครั้งอาจเร่งด่วนเกินไปที่จะคัดค้านไม่เห็นด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อกองทัพเข้ามาเกี่ยวพันกับการเมือง ขอให้ช่วยเปิดใจรับรู้ต่อความเป็นจริงของเหตุการณ์ และสภาวะแวดล้อมที่เกิดขึ้นในอดีตที่ผ่านมาว่าไทยจะก้าวไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ได้อย่างไร สำหรับมิตรประเทศ และแนวร่วมต่างชาติ อยากให้สังเกตถึงการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ในทางที่ดีขึ้น หลังวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ที่ผ่านมา หากจะกรุณาไม่เร่งโจมตีเราตามแบบของประชาธิปไตยโลก ในปัจจุบัน
เรื่องทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และสัตว์ป่า เราจะพยายามอย่างเต็มที่ที่จะแก้ปัญหาให้ลุล่วง มีปัญหาที่เกี่ยวข้องอยู่หลายมิติด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นสภาวะแวดล้อมของไทย อาจจะต่างกับต่างประเทศอยู่บ้าง บางอย่างต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลง ประยุกต์ให้เข้ากับคนไทย ประเทศไทย สิ่งสำคัญประการแรกที่เราต้องคำนึงถึงคือเราจำเป็นต้องดูแลคนไทย ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นก่อนในลำดับแรก ปัญหาด้านอื่นๆ ก็จะลดลง
เรื่องการสื่อสารและระบบโทรคมนาคมของไทย เท่าที่ทราบในขณะนี้ยังไม่มีความมั่นคงทันสมัยที่เพียงพอ จำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยน การบริหารกิจการขององค์กรของรัฐ ให้สามารถรองรับการใช้คลื่นความถี่ โดยมีการบริหารจัดการที่ดี เพื่อมุ่งไปสู่การบริการกับประชาชนอย่างแท้จริง ขณะนี้อยู่ในขั้นกำลังศึกษาหาวิธีการที่ดีที่สุดในระยะต่อไป ในเรื่องของการปรับปรุงภาษีทั้งระบบ กำลังอยู่ในขั้นการศึกษา และหาวิธีการเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้ที่เสียภาษี ทั้งนิติบุคคล ผู้ประกอบการ และอื่น ๆ อีกมากเพื่อเป็นการยกระดับให้คนไทยทุกคนมีรายได้ที่ดีขึ้น รัฐสามารถดูแลเรื่องสวัสดิการของคนไทยได้อย่างเป็นธรรมและทั่วถึง
เรื่องพลังงาน ทั้งน้ำมัน แก๊ส ไฟฟ้า พลังงานทดแทน และอื่น ๆ อยู่ในขั้นของการศึกษา เพื่อนำไปสู่การปฏิรูปให้เกิดความมั่นคงด้านพลังงานโดยเร็วที่สุด ปัจจุบันเราได้ดำเนินการในมาตรการชั่วคราวไปในหลายเรื่องด้วยกัน ทุกท่านคงทราบดี
เรื่องรัฐวิสาหกิจ มีรัฐวิสาหกิจหลายแห่ง ซึ่งยังไม่สามารถดูแลตนเองได้ และให้การบริการประชาชนได้อย่างไม่เต็มรูปแบบ ไม่ทั่วถึง เช่น รถไฟ โทรคมนาคม การขนส่งทางบก ทางอากาศ ทางน้ำ ขณะนี้อยู่ในขั้นการดำเนินการ ทั้งในเรื่องของการศึกษาข้อมูล เพื่อฟื้นฟูกิจการเหล่านั้น ให้เป็นประโยชน์อย่างแท้จริง
เรื่องเศรษฐกิจ ธุรกิจ การนำเข้า ส่งออก มีหลายอย่างที่พันธะสัญญา หรือข้อตกลงกับต่างประเทศ มีการเปลี่ยนแปลงไป เราเองก็ต้องปรับตัวให้ต่างชาติเกิดความเชื่อมั่น โดยเคารพในกฎกติกาต่าง ๆ เหล่านั้น เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้กับการรวมกลุ่มของประชาคมต่าง ๆ ทั้งอาเซียน ตะวันตก ยุโรป และอื่น ๆ ในปัจจุบันและอนาคต ดังนั้น เราต้องปรับตัวเราเองให้สอดคล้องกับกฎกติกาต่าง ๆ เหล่านั้นด้วยความรวดเร็ว โดยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนอย่างจริงจังด้วยการแข่งขันอย่างเสรี เป็นธรรม มีคุณภาพมากกว่าปริมาณ ราคาสินค้าตกต่ำ เราจะไม่ได้รับความไว้วางใจจากคู่ค้า เราจะต้องรวมกลุ่มภาคเศรษฐกิจของเราทุกมิติให้เข้มแข็ง พร้อมจะต่อสู้กับคู่แข่งขันของเราในโลกธุรกิจได้
การปฏิรูปของประเทศไทย ในขั้นที่ 2 ทั้ง 11 เรื่อง หรือมากกว่านั้น จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาคการเมือง ข้าราชการ เอกชน ประชาสังคม ประชาชนทุกหมู่เหล่า และทุกสาขาอาชีพ ตราบใดที่ความเห็นแต่ละฝ่าย ยังไม่ตกผลึกออกมา ในระยะที่ 2 ย่อมเป็นการยากที่จะนำไปสู่การปฏิรูป และนำไปสู่การปฏิบัติในระยะที่ 3 ได้ ขณะนี้ คสช. ได้เปิดโอกาสให้ทุกส่วนได้มาแสดงความคิดเห็นในขั้นต้น ในการปรองดองและปฏิรูปของ คสช. เพื่อให้ทราบแนวทางขั้นต่อไป อีกทั้งสมาชิกปฏิรูปนั้นจำเป็นต้องสมัครเข้ามา และหาข้อยุติให้ได้ในสภาปฏิรูปในระยะที่ 2 ใครที่ยังไม่ได้เตรียมการสมัครเข้ามา คงต้องรีบเตรียมการ ทั้งบุคลากร ข้อมูลที่จำเป็นไว้ เมื่อเปิดการรับสมัครกรุณาสมัครเข้ามาดีกว่าออกมาพูดในขณะนี้อาจจะไม่มีประโยชน์อันใดเลย มีแต่จะสร้างความแตกแยกให้กับสังคมต่อไป ซึ่งก็แสดงให้เห็นว่า ท่านไม่ได้มีความต้องการจริงที่จะปฏิรูปประเทศ
เรื่องการปฏิรูปการบริหารจัดการน้ำ และสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ทั้งในเรื่องการแก้ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง อย่างยั่งยืน การจัดสร้างรถไฟทางคู่ รถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย การจัดหาหัวรถจักรใหม่ รถเมล์ใหม่กำลังอยู่ในขั้นการทบทวนการดำเนินการทั้งสิ้น จะเร่งรัดให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว เพื่อบางอย่างจะได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่ในปี 2557 - 2558 และระยะยาวในโอกาสต่อไป
เรื่องของการจัดระเบียบสังคมไทย ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ทั้งในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลและจังหวัดต่าง ๆ ทั้งด้วยการจัดระเบียบรถจักรยานยนต์รับจ้าง รถตู้ การค้าขาย ชายหาด และอื่น ๆ โดยจะพยายามให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุดกับประชาชน ผู้ยากไร้ เห็นใจแต่ก็จำเป็นต้องมีการจัดระเบียบบ้าง ต้องเคารพกฎกติกาของบ้านเมืองที่ถูกปล่อยปละละเลยมาเป็นเวลานาน ทำให้ท่านถูกเรียกรับผลประโยชน์จากเจ้าหน้าที่ที่ไม่สุจริตมาโดยตลอด หากท่านอยู่ในระเบียบ ใครก็ไม่สามารถมาเรียกร้องอะไรจากท่านได้ ตรงนี้ต้องขอความร่วมมืออย่างจริงจัง
การดูแลในรูปแบบของรัฐสวัสดิการ เช่น การรักษาพยาบาล 30 บาท ยังคงดำเนินการอยู่ ในแผนการดำเนินการปี 2558 ยังมีอยู่และจะต้องปรับปรุงให้ดีขึ้น ทั้งปริมาณและคุณภาพในการรักษาพยาบาล ฉะนั้นใครจะพูดอะไรก็ตามอย่าไปรับฟังให้มากนัก เพราะจะทำให้เกิดความสับสนในเวลานี้ เนื่องจากยังไม่ได้ประกาศอะไรเลย ที่มีการเปลี่ยนแปลง เรื่องนี้มีความสำคัญเพราะเรามองถึงคุณภาพชีวิตของประชาชนเป็นหลัก แต่อย่างไรก็ตามต้องใช้งบประมาณเป็นจำนวนมาก หากงบประมาณถูกนำมาใช้ในเรื่องนี้มากเกินไป งบประมาณอื่น ๆ เช่นการลงทุนของรัฐ จะเป็นปัญหา เราจะพยายามหาหนทางในเรื่องรัฐสวัสดิการที่ดีที่สุดต่อไป
การใช้จ่ายงบประมาณในเรื่องประชานิยม โดยไม่จำเป็น วันนี้เรามีการทบทวนทั้งหมด ขณะนี้การปรับปรุงด้านภาษี ยังไม่ได้ดำเนินการเป็นรูปธรรม รายได้ของรัฐไม่สามารถเก็บได้ตามที่ประมาณการไว้ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง
การบริหารราชการ ส่วนกลาง ภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น ซึ่งปัจจุบันมีการกระจายอำนาจไปอยู่แล้ว ยังมีปัญหาในเรื่องของความเป็นเอกภาพ บูรณาการ การบริหารจัดการที่เกื้อกูลซึ่งกันและกัน ทำให้ขาดความต่อเนื่องในการพัฒนาและทั่วถึง คงต้องขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะส่วนท้องถิ่น ได้แก่ อบต. อบจ. เทศบาล ฯลฯ หรือหน่วยงานนั้น ๆ ให้ช่วยกันปรับตัว เสียสละ พัฒนาตนเองให้เกิดความเชื่อถือ ยอมรับจากประชาชน ทุกพวกทุกฝ่ายในพื้นที่ให้เกิดความเป็นธรรมมากกว่าพวกพ้อง หรือเพื่อประโยชน์ทางการเมืองของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เมื่อท่านอาสาเข้ามาดูแลประชาชน ท่านต้องทำให้ได้ ท่านต้องดูแลเสียงส่วนน้อยของท่านด้วย
ด้านสังคมจิตวิทยา จะเห็นว่าปัญหาอาชญากรรม ยาเสพติด สุรา สังคมเสื่อมโทรม ด้วยอบายมุขการพนัน การแตกความสามัคคี เห็นแก่ตัว ไม่เสียสละ ไม่นึกถึงประโยชน์ส่วนรวม การศึกษา ยังคงเป็นปัญหาสำคัญสำหรับคนไทย ประเทศไทยนั้นอาจเริ่มมีปัญหามาจากสังคมที่ครอบครัวขาดความอบอุ่น พ่อแม่ผู้ปกครองต้องหาเงินมาเลี้ยงดูแลคนในครอบครัว จนไม่มีเวลาที่จะดูแลลูกหลาน สื่อสิ่งพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ ที่ไม่มีคุณภาพได้เข้ามาสอดแทรกในชีวิตของคนไทย เยาวชนไทย ให้ลุ่มหลง มัวเมาสิ่งต่าง ๆ เหล่านั้น จนทำให้เกิดปัญหาในทุกมิติ ลึกซึ้งและมีผลกระทบกว้างขวางต่อสังคมไทย จนไม่มีระเบียบและสร้างปัญหา รัฐต้องใช้จ่ายงบประมาณเป็นจำนวนมาก แต่ที่ยังแก้ปัญหาไม่ได้อย่างยั่งยืน อาทิ เด็กแว๊น เด็กนักเรียนตีกัน ต้องขอเตือนบุคคลคนเหล่านี้ว่า ท่านนั้นยังไม่รู้ตัว บ่อนทำลายประเทศชาติอย่างร้ายแรง ซึ่งยังคงต้องถูกดำเนินการทางกฎหมายอย่างเคร่งครัด อย่าให้มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก จะต้องถูกดำเนินคดีโดยไม่ละเว้น ท่านอยากจะเป็นบุคคลที่ถูกสังคมรังเกียจไปอีกหรืออย่างไร ให้รีบปรับปรุงโดยเร็วไปหางานหาการทำ ประกอบสัมมาอาชีพเหมือนคนอื่น ๆ หรือศึกษาเล่าเรียนให้สำเร็จ รุ่นพี่ที่คอยแนะนำรุ่นน้องในทางที่ผิด จะถูกเรียกมาทำความเข้าใจในเร็ว ๆ นี้
ความคืบหน้าการขับเคลื่อนงานของ คสช.
ด้านเศรษฐกิจ เรามีการพิจารณาจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2558 เรียบร้อยแล้ว โดย คสช. เห็นชอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2558 จำนวน 2.575 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขงบประมาณที่ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา โดยในปีนี้ คสช. ให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน การลดต้นทุนการผลิตภาคเกษตรกร การพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อเพิ่มพื้นที่ชลประทาน การแก้ไขปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง การวางโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการพัฒนาสู่อนาคต
นอกจากนี้ คสช. ได้ให้ความสำคัญกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น โดยเพิ่มงบประมาณให้กับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งเป็นองค์กรตามรัฐธรรมนูญที่ประสบปัญหาบุคลากรไม่เพียงพอในการดำเนินการกับคดีความต่าง ๆ ที่คั่งค้างอยู่เป็นจำนวนมาก โดยได้อนุมัติอัตรากำลังพลเพิ่มเติมมากกว่า 700 อัตรา เป็นงบประมาณเพิ่มขึ้นกว่า 300 ล้านบาท ให้กับ ป.ป.ช. เพื่อจะเป็นการให้ความสำคัญในเรื่องของการส่งเสริม เรื่องการป้องกัน เรื่องทุจริตผิดกฎหมาย นอกจากนั้น ยังให้ความสำคัญในเรื่องของการส่งเสริมนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่เป็นพื้นฐาน สร้างความมั่งคั่งให้กับประเทศอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ การวางแผนในเรื่องงบประมาณ ให้มีการบูรณาการจากทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในเรื่องนั้น ๆ เพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง เชื่อมโยง ลดการใช้จ่ายงบประมาณที่เป็นการซ้ำซ้อน อาทิ การพัฒนาแหล่งน้ำ โครงข่ายคมนาคม ให้คำนึงถึงความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน การบริหารจัดการงบประมาณในส่วนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อให้มีความเท่าเทียมทั่วถึงในทุกพื้นที่ และให้ท้องถิ่นได้มีส่วนร่วมในการวางแผนการใช้จ่ายงบประมาณอย่างแท้จริง เพื่อประโยชน์ของชุมชนนั้น ๆ โดยได้มีการตัดลดงบประมาณที่ตั้งไว้โดยไม่มีแผนงานโครงการรองรับ และให้ท้องถิ่นได้นำเสนอแผนงานโครงการ ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณเพื่อความมีประสิทธิภาพ ตอบสนองความต้องการแท้จริงของชุมชน และลดการใช้จ่ายที่ซ้ำซ้อน
การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ จากการประชุมของคณะกรรมการนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษ ในวันอังคารที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมานั้น ได้เร่งรัดให้ส่งเสริมสนับสนุนการพัฒนาพื้นที่ชายแดนเป้าหมายรวมทั้งสิ้น 12 พื้นที่ โดยกำหนดเป็นระยะเร่งด่วน ดำเนินการทันทีในปี 2558 ใน 5 พื้นที่ ได้แก่ พื้นที่ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก พื้นที่ชายแดน จังหวัดมุกดาหาร อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว พื้นที่ชายแดน จังหวัดตราด พื้นที่ด่านศุลกากรสะเดา และปาดังเบซาร์ ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมการค้าชายแดนและการเตรียมความพร้อมเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียนให้ทันเวลา โดยการส่งเสริมการลงทุน การสร้างโรงงาน ธุรกิจบริการ สร้างงานสร้างอาชีพ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ถนน ระบบราง คลังสินค้า ช่องทางเข้า - ออกด่านศุลกากรให้มีความพร้อม ระบบการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าว ที่มีประสิทธิภาพ และศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงาน ที่จะคัดแยกแรงงานที่มีคุณภาพเข้ามาในพื้นที่ตอนไหนได้บ้าง ในอนาคตการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษนี้ นอกเหนือจากการให้มีการเจริญเติบโตทางด้านเศรษฐกิจแล้ว ที่สำคัญควบคู่กัน ที่ คสช. ให้มุ่งเน้นเป็นพิเศษ คือการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนที่อยู่ตามแนวชายแดน พื้นที่ห่างไกล ที่มีความเดือดร้อน ทำการเกษตรมักประสบปัญหาขาดทุน และต้องละทิ้งถิ่นฐานเข้ามาหางานทำในเมืองใหญ่นั้น จะส่งผลต่อวิถีชีวิต ต่อครอบครัว ต่อชุมชนและวิถีชีวิตชาวบ้านที่มีความสุข
การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษนี้ มุ่งเน้นให้ประชาชนเหล่านั้นมีงาน มีอาชีพ เพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาชายแดนต่าง ๆ ที่เป็นปัญหาเรื้อรังมาเป็นเวลานาน เช่น การลักลอบนำเข้าสินค้าการเกษตรจากเพื่อนบ้านเพื่อมาสวมสิทธิ์มาค้าขาย การโจรกรรมส่งออกรถจักรยานยนต์ รถยนต์ การลักลอบนำเข้าสินค้าเลี่ยงภาษี สินค้าผิดกฎหมาย ยาเสพติด แรงงานเถื่อน โดยให้ทุกส่วนราชการพิจารณาปัจจัยในสภาพความเป็นจริง เช่น เรื่องสินค้าเกษตรจากประเทศเพื่อนบ้านที่ยากต่อการป้องกันการลักลอบนำเข้า อาจพิจารณาให้ผ่อนปรน ให้นำเข้ามาในเฉพาะพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ พื้นที่ควบคุมและมีอุตสาหกรรมต่อเนื่องในการแปรรูป สร้างมูลค่าเพิ่มก่อนนำส่งออกสู่ประเทศที่สามหรือที่ใดที่หนึ่งที่เป็นตลาดที่จะเปิดขึ้นมาใหม่
เรื่องการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางด้านคมนาคม นั้น ได้มอบหมายให้ หัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเร่งพิจารณาโครงการสำคัญ เพื่อให้สามารถดำเนินการได้ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2558 ส่วนใดที่มีความพร้อมให้เริ่มดำเนินการไปก่อน ในส่วนโครงการรถไฟทางคู่นั้นให้พิจารณาถึงอนาคตที่จะต้องรองรับการเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคอาเซียน รวมทั้งการเชื่อมต่อกับประเทศจีน ที่ต้องใช้เทคโนโลยีใหม่ ที่มีรางขนาด 1.435 เมตร เพื่อจะรองรับการวิ่งของขบวนรถที่ความเร็วสูงถึง 160 - 180 กม. ต่อ ชม. การพัฒนาจุดเชื่อมต่อทางลอดต่าง ๆ เพื่อให้ขบวนรถไฟวิ่งได้อย่างต่อเนื่อง
ระบบรางของไทยที่ใช้อยู่ปัจจุบันนั้น มีความกว้าง 1 เมตร เพื่อรองรับการวิ่งของขบวนรถที่ความเร็วประมาณไม่เกิน 90 กม. ต่อ ชม. ซึ่งในอนาคตนั้น จะมีปัญหาในเรื่องการจัดหาอะไหล่ และการซ่อมบำรุงที่ทั่วโลกมีแนวโน้มไปใช้งานระบบรางแบบใหม่ แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการใช้จ่ายงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพและไม่เสียโอกาสในเรื่องการพัฒนาการค้า การขนส่งคมนาคม เราสามารถพัฒนาปรับปรุงให้ระบบเดิมใช้ในเรื่องการเพิ่มปริมาณการขนส่งสินค้า การลดต้นทุนการขนส่ง โดยระยะแรกให้มีการวางรางขนาด 1 เมตร เพิ่มเติมในเฉพาะเส้นทางที่มีการจราจรหนาแน่นและเป็นเส้นหลักในการขนส่งสินค้า ซึ่งปัจจุบันกระทรวงคมนาคมได้มีแผนในการก่อสร้างไว้แล้วใน 5 เส้นทางตามความเร่งด่วน ดังนี้ เส้นแรก คือ ฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า–แก่งคอย เส้นที่สอง ลพบุรี -ปากน้ำโพ เส้นที่สาม มาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ เส้นที่สี่ นครปฐม-ชุมทางหนองปลาดุก-หัวหิน เส้นที่ห้าประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร
การส่งเสริมเรื่องของการท่องเที่ยว คสช. ได้มอบหมายให้กระทรวงการคลังไปร่วมหารือกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้พิจารณาจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือนักท่องเที่ยวต่างชาติ หากเกิดความเดือดร้อนขึ้นในระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทย เพิ่มเติมจากความคุ้มครองจากการประกันซึ่งอาจจะมีปัญหาอยู่บ้างในปัจจุบัน ในการเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย ทั้งนี้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยในโอกาสต่อไป
การขับเคลื่อนเศรษฐกิจร่วมระหว่างภาครัฐและเอกชน เมื่อวันพุธที่ 16 กรกฎาคม ที่ผ่านมานั้น ได้มีการประชุมของคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ (กรอ.) ได้ร่วมพิจารณาและรับฟังข้อเสนอแนะต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อภาคเอกชน ต่อรัฐ ในประเด็นการส่งเสริมการค้าการลงทุนในประเทศ การส่งเสริมอุตสาหกรรม การส่งเสริมการท่องเที่ยว การพัฒนาโครงข่ายคมนาคมโลจิสติกส์ การแก้ไขกฎระเบียบที่เป็นปัญหาอุปสรรคต่อการประกอบธุรกิจ เพราะมีประเด็นที่น่าสนใจที่ทั้งภาครัฐและเอกชน เห็นพ้องต้องกันในหลายๆด้านที่จะร่วมกันเร่งผลักดันให้เกิดผลเป็นรูปธรรมต่อไป เช่น การส่งเสริมการค้าชายแดน การจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนและพื้นที่ห่างไกล
การพัฒนาโครงข่ายคมนาคม โครงสร้างพื้นฐานถนน ระบบราง ศูนย์กระจายสินค้า ช่องทางเข้า-ออก ด่านศุลกากร การจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานทางด้านคมนาคม (infrastructure fund) และแนวทางการดูแลเกษตรกรชาวนา ซึ่งมี 5 หัวข้อ ดังนี้ คือ ในเรื่องการพัฒนาข้าวและชาวนาไทย การเกษตรสมัยใหม่ เขตเกษตรเศรษฐกิจทางเลือก การวิจัยและพัฒนาพันธุ์ข้าว และการตลาดข้าวไทย ซึ่งจะสอดคล้องกับการดำเนินงานของคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว ซึ่ง คสช. ได้สั่งการให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปพิจารณารายละเอียดอื่น ๆ นั้น ได้เพิ่มเติมเพื่อปรับปรุงการดำเนินงานในการดูแลชาวนาให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป รวมไปถึง ภาคการเกษตรอื่น ๆ ด้วย
เรื่องการส่งเสริมการท่องเที่ยว ที่ คสช. ได้อนุมัติให้ยกเลิกการเก็บค่าธรรมเนียมวีซ่านักท่องเที่ยวชาวจีน เป็นระยะเวลา 3 เดือน ในโอกาสที่จะครบ 40 ปีของความสัมพันธ์ไทย - จีน เพื่อยืนยันมิตรภาพระหว่างของทั้งสองประเทศ และส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวชาวจีนได้เดินทางมาเที่ยวประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น ในห้วง high season ที่กำลังมาถึง จะเริ่มตั้งแต่เดือนสิงหาคมนี้ เป็นต้นไป
ความคืบหน้าการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ได้กำหนดโรดแมปไว้ 3 ระยะ คือ
ระยะแรก จัดทำโครงสร้างแผนงานโครงการความรับผิดชอบของอนุกรรมการทั้ง 5 กลุ่มประกอบด้วย พื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก พื้นที่ที่สองคือ พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ เรื่องที่สาม คือ ระบบข้อมูลสนับสนุนการตัดสินใจ เรื่องที่สี่คือ การจัดองค์กรข้อกำหนดกฎหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เรื่องที่ห้า การประชาสัมพันธ์ ซึ่งขณะนี้ได้กำหนดให้ทำแผนแล้วเสร็จภายใน เดือน กรกฎาคม 2557
ระยะที่ 2 การจัดทำรายละเอียดแผนงานโครงการโดยให้แล้วเสร็จภายใน 45 วัน
ระยะที่ 3 จัดทำแผนบริหารจัดการทรัพยากรน้ำฉบับสมบูรณ์ ซึ่งทุกขั้นตอนจะเสร็จสิ้นภายใน ตุลาคม 2557 ในระหว่างการดำเนินการตามขั้นตอนของโรดแมปนั้น จะมีการดำเนินการในลักษณะคู่ขนาน โดยในปีงบประมาณ 2557 จะจัดสรรงบประมาณแบบบูรณาการจากกระทรวงต่าง ๆ ในกรอบวงเงินประมาณ 13,000 ล้านบาท เพื่อมาดำเนินการในการฟื้นฟูแหล่งน้ำ ขุดลอกคูคลอง เพิ่มประสิทธิภาพการกักเก็บน้ำ และการระบายน้ำให้ดียิ่งขึ้น
เรื่องการส่งออก มูลค่าการส่งออก เดือนมิถุนายน 2557 ได้ขยายตัวอย่างต่อเนื่องที่ร้อยละ 7.2 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการส่งออกไปยังประเทศคู่ค้าสำคัญที่ขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มประเทศในสหภาพยุโรปและภูมิภาคอาเซียน ส่วนมูลค่าการนำเข้าเดือนมิถุนายน 2557 กลับมาขยายตัวที่ร้อยละ 5.5 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนหนึ่งจากปัจจัยพื้นฐานในปีก่อนหน้าเป็นสำคัญ ส่งผลให้ดุลการค้าในเดือนดังกล่าว เกินดุลมูลค่า 31.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ผลการปฏิบัติงานในห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
ด้านความมั่นคง
การรักษาความสงบเรียบร้อย ได้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ การสร้างความปลอดภัยในชีวิต ทรัพย์สินให้กับประชาชน ซึ่งเป็นภารกิจที่ คสช. ให้ความสำคัญและจะดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สังคมสงบสุข เอื้อต่อการพัฒนาประเทศในด้านต่าง ๆ สร้างบรรยากาศ ที่เอื้อต่อการปฏิรูป การพัฒนาประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อย่างยั่งยืน
ในห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการติดตามดำเนินคดี จับกุมอาวุธสงครามเพิ่มเติมเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจพบหลักฐานสำคัญ ได้แก่ กลุ่มบุคคลและเครือข่ายของผู้ก่อความไม่สงบ ที่ก่อคดีความรุนแรงทำให้ผู้บริสุทธิ์บาดเจ็บล้มตาย มีผู้ต้องหายอมรับสารภาพ และให้การเป็นพยาน ซึ่งในเหตุการณ์การยิงเครื่องยิงลูกระเบิด เอ็ม 79 ใส่ผู้ชุมนุมและแหล่งชุมชนต่าง ๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งดำเนินการในเรื่องดังกล่าว ถ้าใครไม่ผิดก็ไม่ต้องกลัว เนื่องจากทุกอย่างจะต้องขึ้นอยู่ที่หลักฐาน และยึดถือตามหลักกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมอย่างเคร่งครัด
เรื่องการชี้แจงทำความเข้าใจกับมิตรประเทศและองค์กรระหว่างประเทศ ในสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองหัวหน้า คสช. และ หัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจได้ให้การต้อนรับ นางคริสตี เคนนีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยและคณะ ในการเข้าเยี่ยมคารวะเพื่อหารือเกี่ยวกับด้นเศรษฐกิจของไทย และความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างไทยและสหรัฐอเมริกา โดยมีผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศเข้าร่วมหารือด้วย ทั้งนี้ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย กล่าวยืนยันความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสหรัฐอเมริกา ยังคงดำเนินการต่อไปอย่างราบรื่น
ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ปฏิบัติหน้าที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ได้เดินทางไปเยือนจีน อย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 11-12 กรกฎาคม ณ กรุงปักกิ่ง โดยได้เข้าเยี่ยมคารวะ มนตรีแห่งรัฐ และ รมว.ต่างประเทศจีน เพื่อยืนยันความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทย - จีน ทั้งนี้ จีนแจ้งว่าจะไม่แทรกแซงกิจการภายในของไทย และอยากให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน เพื่อหาทางออกให้กับไทย โดยสิ่งที่จีนให้ความสำคัญคือความมั่นคงและเสถียรภาพของไทย เพราะเชื่อมั่นว่าไทยมีความสำคัญต่อเสถียรภาพและความมั่นคงของภูมิภาคโดยรวม และมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนอาเซียน
สำหรับมาตรการในการแก้ไขแรงงานต่างด้าว และการค้ามนุษย์ที่ได้ดำเนินการเพิ่มเติมในสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ได้แก่ การจัดตั้งศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ (one stoop service) เพิ่มเติมในกรุงเทพมหานครอีก 6 แห่ง คือ 1) ศูนย์กีฬารามอินทรา เขตบางเขน 2) ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) เขตดินแดง 3) ศาลาประชาคมเมืองมีนถิ่นทอง เขตมีนบุรี 4) ศูนย์เยาวชนลุมพินี เขตปทุมวัน 5) ศูนย์เยาวชนทวีวัฒนา เขตทวีวัฒนา 6) ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา (บางบอน) เขตบางบอน โดยให้กระทรวงมหาดไทยและกรุงเทพมหานครมีหน้าที่รับผิดชอบในการอำนวยความสะดวก ในการดำเนินการของศูนย์และปฏิบัติงานร่วมกับกระทรวงแรงงาน กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จังหวัดอื่นนั้น ทั้งนี้ คสช. จะเร่งดำเนินการให้ครบ 77 จังหวัดโดยเร็ว
ด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม
จากการประชุม คสช .วันอังคารที่ผ่านมา ได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทย โดยผู้ว่าราชการจังหวัด ได้ไปจัดตั้งศูนย์บริการประชาชน ในลักษณะ one stop service เพื่อให้สามารถบริการประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพในทุกๆ เรื่อง ให้รวมเป็นศูนย์เดียวเพื่อจะลดปัญหาที่ประชาชนจะต้องไปติดต่อเรื่องเดียวกันจากหลาย ๆ หน่วยงาน และต้องเดินทางไปในหลายพื้นที่ สิ้นเปลืองเวลาและค่าใช้จ่ายของประชาชน ศูนย์ one stop service ดังกล่าว จะต้องบริการประชาชนให้ได้ในทุกเรื่องที่ประชาชนติดต่ออยู่เป็นประจำ เช่น การติดต่อขอรับความช่วยเหลือ ขอข้อมูลในเรื่องการทำการเกษตร การสาธารณสุข ทะเบียนราษฎร์ การรับเรื่องร้องเรียนต่าง ๆ และเป็นศูนย์ข้อมูลความรู้ที่จำเป็น เป็นต้น โดยใช้ศูนย์ดำรงธรรมที่มีการจัดตั้งอยู่แล้วในทุกจังหวัด
จากการสำรวจปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนพบว่า ประชาชนจำนวนมากยังมีปัญหาเรื่องปากท้อง ปัญหาหนี้นอกระบบที่สะสมมายาวนาน เป็นช่องว่างให้ผู้มีอิทธิพล เข้ามาข่มขู่ เข้ามาหาผลประโยชน์ ในเรื่องการทวงหนี้ ได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายไปพิจารณาเสนอร่าง พ.ร.บ. ทวงถามหนี้ เพื่อแก้ปัญหาการทวงถามหนี้ที่ไม่เหมาะสม แต่อย่างไรก็ต้องใช้ ในการทวงถามหนี้นั้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้ถ้อยคำละเมิดสิทธิส่วนบุคคลอย่างรุนแรง การใช้กำลังประทุษร้าย รวมถึงการให้ข้อมูลเท็จสร้างความเดือดร้อนให้กับบุคคลอื่น ซึ่ง คสช. จะนำเสนอร่างกฎหมายดังกล่าว ได้ทันทีหลังจากที่มีสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
ช่วงนี้ประเทศไทยเข้าสู่หน้าฝนมาระยะหนึ่งแล้ว หลายพื้นที่มีฝนตกหนัก ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน รวมถึงน้ำป่าไหลหลาก ฝนแล้ง น้ำในเขื่อนมีปริมาณน้อย พื้นที่แห้งแล้งได้มีการสั่งการในเรื่องการจัดทำฝนเทียม ในพื้นที่เสี่ยงทางตอนเหนือ กำลังเร่งดำเนินการอยู่ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและความชื้นในอากาศด้วย และได้สั่งการให้ทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อม ที่จะเข้าช่วยเหลือประชาชนได้ในทันที ปัจจุบันกองทัพภาคที่ 4 จัดกำลังพลเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วม ในพื้นที่ จ.ระนอง เมื่อ 12 - 13 ก.ค. 57 ที่ผ่านมา
เรื่องข้าว และผลิตผลการเกษตรอื่น ๆ
ได้พิจารณามาตรการสำรองไว้เผื่อแล้ว สำหรับชาวนา ชาวไร่ และผลิตผลการเกษตรอื่น ๆ หากมีความจำเป็นในระยะต่อไป
ในกรณีข้าวขายในประเทศ ต้องพิจารณาหน่วยงานรับผิดชอบให้ชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีข้าวธงฟ้า หรือผลิตผลการเกษตรอื่น ๆ เพื่อให้ประชาชนได้ประโยชน์อย่างแท้จริง เกษตรกรได้ประโยชน์จากราคาสินค้าที่เป็นธรรม
การจัดหาตลาดต่างประเทศ ได้กำหนดให้มีความชัดเจนขึ้นในเรื่องการกำหนดมาตรฐาน เช่น ข้าวมาตรฐานสูง กลาง หรือข้าวที่อยู่ในเกรดต่ำลง เพื่อไม่ให้ราคาสินค้าตกต่ำ ทั้งระบบ โดยสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจกับตลาดต่างประเทศ บริษัทใดหากไม่ทำตามกติกาจะถูกขึ้นบัญชีห้ามซื้อขายอีกต่อไป และจะประกาศให้สังคมรับรู้โดยทั่วกัน
การตรวจสอบข้าวตามโกดังสินค้า และการตรวจสอบข้อเท็จจริงของบริษัทต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งการระบายข้าวในประเทศและต่างประเทศ ได้ตรวจสอบความถูกต้อง และได้พบว่ามีความไม่ชอบมาพากลอยู่หลายเรื่องด้วยกัน ตั้งแต่จำนวนข้าวไม่ครบในบางโกดัง คุณภาพข้าวเสียหายจากการเก็บรักษา การขายข้าวและรับซื้อข้าวจากบริษัทที่ไม่มีมาตรฐาน หรือไม่มีความโปร่งใส Surveyor ไม่ได้มาตรฐาน หรืออื่น ๆ เหล่านี้ คสช. กำลังนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ไม่ว่าจะเป็นแพ่ง หรืออาญา ซึ่งแล้วแต่ ป.ป.ช. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป สำหรับข้าวที่มีคุณภาพก็จะทยอยระบายทั้งในและต่างประเทศ ในจำนวนที่เหมาะสม ไม่ให้ราคาตกต่ำและให้มีการแข่งขันโดยเสรี ขอให้ติดตามการระบายข้าวในโอกาสต่อไป
ความคืบหน้าการตรวจสอบคลังสินค้าโกดังข้าว ระหว่างวันที่ 3 - 8 ก.ค. ที่ผ่านมา ในพื้นที่ภาคกลางตรวจสอบไปแล้ว 48 แห่ง จาก 653 คลัง ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 194 จาก 309 ภาคเหนือ 92 จาก 767 ภาคใต้ 9 จาก 58 จะเห็นได้ว่าโกดังข้าวมีจำนวนมาก เราใช้ชุดในการตรวจสอบ 100 กว่าชุด ปัจจุบันเร่งดำเนินการอยู่ตามลำดับ จากการตรวจสอบด้วยตาเปล่าพบสภาพข้าวปกติ 262 แห่ง และข้าวผิดปกติ 65 แห่ง จาก 5 สาเหตุหลัก ได้แก่ ข้าวเสื่อม 20 แห่ง ข้าวเป็นสีเหลืองขุ่น 17 ข้าวไม่ตรงตามบัญชี 6 แห่ง ข้าวปลอมปนอีก 10 แห่งมีมอดไรสิ่งเจือปน 12 แห่ง ก็ยังมีเป็นจำนวนมากที่ต้องตรวจสอบในระยะต่อไป
เรื่องการแอบอ้าง คสช. ในการเข้ามาจัดซื้อจัดจ้างในโครงการของรัฐ เช่น เรื่องบริหารจัดการน้ำ การขุดลอกคูคลอง หรือการทำกิจการอื่นใดก็ดีของทุกกระทรวง ทบวง กรม ทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น คสช. ยืนยันว่า ไม่ได้มอบหมายใครไปดำเนินการทั้งสิ้น อย่าให้ใครไปแอบอ้างผลประโยชน์โดยเด็ดขาด ให้แจ้ง คสช. ทันทีเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยเฉพาะปัจจุบันมีข่าวว่าการก่อสร้างในท้องถิ่นนั้น มีนายหน้าไป เพื่อจะเรียกร้องผลประโยชน์ และบวกให้ คสช. ด้วย คสช. ไม่ได้ต้องการเงินแม้แต่บาทเดียว เพราะฉะนั้นอย่าไปเชื่อ ให้กระทรวงมหาดไทยจัดเจ้าหน้าที่ ผู้ตรวจสอบอะไรต่าง ๆ ไปดำเนินการตรวจสอบ และให้มีผู้รับผิดชอบอย่างชัดเจนในทุกจังหวัด ทุกอำเภอ
การดำเนินการในเรื่องของการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น ในส่วนที่เป็นคดีความนั้นให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม แต่เนื่องจากมีคดีที่คงค้างอยู่ในกระบวนการยุติธรรมเป็นจำนวนมาก คสช. ได้มอบหมายให้ส่วนที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการต่อคดีความการทุจริตให้ได้ก่อนที่จะสิ้นสุดอายุคดีความ เพื่อป้องกันผู้ที่ทุจริตหลุดพ้นจากกระบวนการยุติธรรม ในส่วนของการวางแนวทางแก้ไขปัญหาการทุจริตในเรื่องการจัดซื้อจัดจ้าง ได้มอบหมายให้คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) ร่วมกับองค์การต่อต้านคอร์รัปชั่นแห่งประเทศไทย ได้พิจารณานำมาตรฐานการตรวจสอบการทุจริตคอร์รัปชั่นสากลมาใช้ในโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจ เช่น Cost โดยจะให้เริ่มจากโครงการการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิระยะที่ 2
นอกจากนี้ คตร. ได้ทำการตรวจสอบโครงการต่างๆ และได้พิจาณาทบทวนถึงความคุ้มค่า ความจำเป็นในการใช้งบประมาณที่มาจากภาษีของประชาชน เช่น การจ่ายเงินตอบแทนในการประชุมของส่วนราชการ (รัฐสภา) คณะกรรมการของคณะกรรมาธิการต่าง ๆ สิทธิประโยชน์ของข้าราชการการเมือง การก่อสร้างอาคารของรัฐที่อาจไม่ได้ใช้งานอย่างคุ้มค่า ซึ่งการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นนั้น เป็นหนึ่งในหัวข้อที่จะนำเข้าไปพิจารณาในสภาปฏิรูปเพื่อให้ประเทศไทยปราศจากการทุจริตคอร์รัปชั่นอย่างถาวรต่อไป
การดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ป่าไม้ สัตว์ป่า เป็นเรื่องที่สำคัญยิ่ง ปัจจุบันได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการดูแลรักษาป่า ป้องกันการบุกรุกเพิ่มเติม ฟื้นฟูป่าเสื่อมโทรม ป้องกันการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า การล่าสัตว์ป่า การลักลอบค้าซากสัตว์ป่า งาช้าง และกำหนดมาตรการต่าง ๆ ที่จำเป็น รวมทั้งปฏิบัติตามพันธกรณีระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด เช่น อนุสัญญาไซเตส (CITES) ซึ่งที่ผ่านมา กรมป่าไม้ ได้ดำเนินการในการตรวจสอบพื้นที่ป่าที่มีการบุกรุกของนายทุน เพื่อนำผืนป่า พื้นที่ที่ถูกบุกรุกกลับมาเป็นของประชาชนคนไทยทั้งประเทศ โดยได้กำชับให้ดำเนินการโดยคำนึงถึงสภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนที่อาจมีการตั้งถิ่นฐานในพื้นที่มาเป็นเวลานานก่อนจะมีการประกาศเขตพื้นที่ป่า จะต้องมีวิธีการในการแก้ปัญหา และจะต้องพิจารณาดำเนินการอย่างรอบคอบไม่ให้กระทบต่อประชาชนผู้ยากจน
สำหรับเรื่องการปรับปรุงทำเนียบรัฐบาลนั้น ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงห์แก้ว หัวหน้าฝ่ายกิจการพิเศษ ร่วมกับปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เสนอแผนในการปรับปรุงในภาพรวม ทั้งบริเวณทำเนียบรัฐบาล ตึกสันติไมตรี อาคารในพื้นที่ของทำเนียบรัฐบาลทั้งหมด รวมทั้งบริเวณบ้านพิษณุโลก ซึ่งมีอาคารโบราณสถานอันงดงาม ที่มีความชำรุดทรุดโทรม ทั้งนี้ได้ใช้งบประมาณของ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) ในงบประมาณปี 2557 ซึ่งมีอยู่แล้วเดิม เพื่อให้เป็นอาคารโบราณสถานที่สวยงาม และใช้ประโยชน์ในหลายภารกิจด้วยกัน โดยร่วมกับหน่วยงานของกรมศิลปากร หน่วยงานของกรุงเทพมหานคร มิใช่เป็นการปรับปรุงฮวงจุ้ยหรืออะไรก็แล้วแต่ตามที่ทุกคนได้พูดกัน หรือวิจารณ์กันในปัจจุบัน และจะใช้งบประมาณเท่าที่จำเป็น
เรื่องการปฏิรูปตำรวจ ยังไม่ได้มีการดำเนินการใด ๆ ทั้งสิ้น ปัจจุบันยังคงทำงานในกรอบโครงสร้างเดิมอยู่ และจะนำไปสู่การปฏิรูปในระยะที่ 2 ซึ่งจะต้องรับฟังความคิดเห็นจากหลาย ๆ ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง สิ่งนี้อย่าพึ่งมาพูดกันเวลานี้ สำหรับการปรับ คณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ต.ร.) เป็นการชั่วคราวเท่านั้น เพื่อดำรงไว้ซึ่งศักดิ์ศรีเกียรติยศของตำรวจ กรณีที่มีคำครหาที่ไม่ให้ความเป็นธรรมในการแต่งตั้ง ผู้บังคับบัญชาโดยตรง ได้มีโอกาสแต่งตั้งคนดี มีความสามารถเข้ามาทำหน้าที่ ทั้งนี้ คสช. จะไม่เข้าไปก้าวก่าย หรือแต่งตั้งใด ๆ ทั้งสิ้น ให้เป็นเรื่องของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นผู้ดำเนินการ เช่นเดียวกับทหารที่มี พ.ร.บ. กลาโหม
เรื่อง การแต่งตั้งคณะกรรมการตำรวจใหม่ เพื่อให้เกิดการปฏิรูปตำรวจในอนาคต และทำให้การแต่งตั้งที่เป็นธรรมในช่วงเวลานี้ ผู้บังคับบัญชาตำรวจเองควรจะต้องรับผิดชอบในการแต่งตั้งผู้ใต้บังคับบัญชา เพราะต้องเป็นผู้ที่รู้จักผู้ใต้บังคับบัญชาของตนเองเป็นอย่างดี ช่วงนี้เป็นยุคเปลี่ยนผ่าน และ คสช. ให้ความสำคัญกับหน่วยงานด้านความมั่นคงเป็นกรณีพิเศษ มิได้มุ่งหวังไปทำลายเกียรติยศ ชื่อเสียง หรือทำลายองค์กรตำรวจแต่อย่างใด หลักการก็ใช้หลักการเดียวกันกับการแต่งตั้งข้าราชการทหาร ที่ผู้บังคับบัญชาต้องแต่งตั้งขึ้นมาตามลำดับชั้น และ ผบ.ตร. จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบกับผลดีและผลเสียกับการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ หากไม่มีประสิทธิภาพขึ้นมาปกครองในลำดับที่ต่ำลงไป กรณีที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม (ปล.กห.) เข้าไปอยู่ในคณะนั้น เพื่อจะตรวจสอบความโปร่งใสและเป็นประจักษ์พยานเท่านั้น และในฐานะตำรวจ มีตำรวจตระเวนชายแดน ตชด. ซึ่งเป็นหน่วยงานความมั่นคงของตำรวจที่ปฏิบัติงานร่วมกับทหารมาโดยตลอดอย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้นตำรวจอื่น ๆ ยังคงต้องทำงานด้านความมั่นคงร่วมกันอยู่ ถือว่าไปช่วยกันในการทำให้องค์กรโปร่งใสขึ้น และสร้างความเชื่อมั่น เชื่อถือให้กับประชาชนในการขับเคลื่อนกฎหมายต่อไปในอนาคต
เรื่องการเลือกตั้งขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น คสช. ได้พิจารณาแล้วเห็นว่าหากให้มีการเลือกตั้งดังกล่าว เราอาจยังไม่ได้ข้อสรุปในเรื่องการปฏิรูปการเมืองที่ชัดเจน อาจเป็นประเด็นไปสู่ความขัดแย้งขึ้นมาอีก เพื่อรักษาบรรยากาศที่เอื้อต่อการปฏิรูป ขอร้องขอความร่วมมือสักระยะหนึ่ง เพราะได้มีคำสั่งให้ชะลอการจัดการเลือกตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นออกไปก่อน จนกว่าจะมีรัฐธรรมนูญฉบับถาวร ในระหว่างนี้หากมีสมาชิกสภาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ครบวาระ จะใช้กระบวนการสรรหาสมาชิกสภาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทดแทนไปพลางก่อน เพื่อให้สภาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีจำนวนสมาชิกเพียงพอที่สามารถปฏิบัติงานได้ โดยบุคคลที่จะได้รับการสรรหาจะต้องมีความเกี่ยวข้องในทางการเมืองน้อยที่สุด จะต้องมีความจำเป็นที่ต้องคัดเลือกบางส่วนมากจากข้าราชการ
เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหา มหาราชินี ที่จะมาถึงในเดือนหน้าสิงหาคมนี้ เป็นโอกาสที่ประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่าจะได้ร่วมแรงร่วมใจกัน เพื่อถวายความจงรักภักดีแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทั้งนี้ คสช. ได้จัดเตรียมจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติต่าง ๆ หลายกิจกรรม ระหว่างวันที่ 8 - 13 สิงหาคม 2557 ณ บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้าและท้องสนามหลวง โดยในวันที่ 12 สิงหาคมจะมีพิธีจุดเทียนชัยถวายพระพร บริเวณท้องสนามหลวง และในพื้นที่ของทุกจังหวัด มีการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติอื่น ๆ อีกเป็นจำนวนมาก ขอให้พี่น้องประชาชนคนไทยได้ร่วมกันแสดงความจงรักภักดีในโอกาสมหามงคลนี้
เรื่องศาสนานั้นทุกคนต้องช่วยกัน เราจะใช้กลไกทุกกลไกได้ช่วยกันเร่งรัดตรวจสอบขจัดมารศาสนาออกไป และส่งเสริมพระพุทธศาสนา และทุกศาสนา ให้เป็นที่เคารพนับถือของประชาชนคนไทยทั้งประเทศตลอดไป ด้วยความเชื่อมั่นและศรัทธาอย่างแท้จริง
โดยสรุปแล้ววันนี้ คสช. ทราบดีถึงความห่วงใย ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ทั้งสนับสนุนและไม่สนับสนุน การปฏิบัติของ คสช. แต่อยากจะพูดให้ทุกคนได้เข้าใจ และขอให้ทุกคนได้ร่วมมือกัน ในการแก้ปัญหาของประเทศชาติให้ลุล่วงในระยะเวลาอันรวดเร็ว ย่อมจะดีกว่าไม่ทำอะไรเลย ถ้าเราปล่อยปะละเลยกัน ไม่ร่วมมือกัน หรือปล่อยให้ทุกอย่างกลับไปเหมือนเดิม ก็จะแก้ไขอะไรไม่ได้อีก ทำให้ทะเลาะเบาะแว้งขัดแย้งกันไปอีก เพราะฉะนั้นหากใครก็ตามที่ไม่เห็นด้วย อย่าพึ่งคัดค้าน บางคนก็ไม่รู้ข้อมูลอย่างแท้จริงทั้งหมด ก็พยายามจะโต้แย้งในทุกประเด็นที่ คสช. ทำอยู่ หรือทุกประเด็นที่ผมพูดออกไป บางทีก็ไม่ได้ฟังว่าพูดอะไรเลย บางทีก็ฟังบ้าง ไม่ฟังบ้าง แล้วก็เอาความคิดของตนเองเป็นหลัก
ผมคิดว่าสิ่งที่ทำวันนี้ ผมกลั่นกรองมาจากหลายภาค หลายส่วนด้วยกัน ฉะนั้นประชาชนทั้งประเทศ ส่วนใหญ่เป็นกำลังใจให้กับเราในการทำหน้าที่ในขณะนี้ ลองไปตัดสินใจดูอีกครั้ง ผู้ที่ยังอยู่ต่างประเทศก็กลับมาเถิด คสช. จะให้ความเป็นธรรม เราจะต่อสู้กันไปทำไม ถ้าเรากลับมาร่วมมือกัน ผมคิดว่าคนไทยต้องให้อภัยกันอยู่แล้ว กรุณากลับมา เราจะขัดแย้งกันต่อไปไม่ได้ ต้องร่วมมือร่วมใจกัน นำพาประเทศชาติไปสู่อนาคตที่ดีในวันข้างหน้า ขอบพระคุณอีกครั้งในการตั้งใจ ในการรับฟังผม ผมอาจรบกวนเวลาท่านพอสมควร แต่ต้องการพูดให้พวกเราได้เข้าใจซึ่งกันและกัน และแก้ปัญหาให้ได้โดยเร็ว
พบกันใหม่ในสัปดาห์หน้า ขอบคุณ สวัสดี