คสช.รื้อเกณฑ์โยกย้ายตร.นับอาวุโสสกัดวิ่งเต้น ให้สิทธิเฉพาะรองผบ.ตร.-จเรตร.รับเลือกเป็นผบ.ตร.คนใหม่
14 กรกฎาคม 2557 เว็บไซต์คมชัดลึกรายงานว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ออกประกาศ 3 ฉบับ ได้แก่ ฉบับที่ 87/2557, 88/2557 และ 89/2557 แก้ไขเพิ่มเติมผู้รักษาการตามกฎหมายที่เกี่ยวกับตำรวจบางฉบับ และแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 ในส่วนที่เกี่ยวกับการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจระดับสูง และการจัดลำดับอาวุโส
ทั้งนี้ ประกาศฉบับที่ 87ระบุให้นายกรัฐมนตรีเป็นผู้รักษาการตามกฎหมายและมีอำนาจแต่งตั้งเจ้าพนักงานเข้าไปปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับ พ.ร.บ.ตรวจคนเข้าเมือง พ.ร.บ.จราจรทางบก และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ในบางเรื่องได้ ซึ่งตามกฎหมายเดิมไม่ได้กำหนดให้เป็นอำนาจของนายกฯ
ส่วนประกาศฉบับที่ 88เป็นเรื่องการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยตำรวจแห่งชาติ (พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ) โดยมีสาระสำคัญ คือ 1.รื้อโครงสร้างของคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ซึ่งมีอำนาจในการพิจารณาแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) โดยเพิ่มตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหมเข้าไปเป็นกรรมการ ก.ต.ช. จากเดิมที่ไม่มีปลัดกระทรวงกลาโหม และตัดตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยออกไป
2.กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใน ก.ต.ช.จากเดิม 4 คน ให้เหลือ 2 คน และให้ผ่านการคัดเลือกจากวุฒิสภา
3.ให้ ก.ต.ช.พิจารณาดำเนินการคัดเลือกข้าราชการตำรวจเพื่อแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ ตามที่ ผบ.ตร.เสนอ
4.แก้ไขมาตรา 53 (1) ว่าด้วยการแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ ให้ ผบ.ตร.เป็นผู้คัดเลือกรายชื่อข้าราชการตำรวจที่ดำรงตำแหน่งจเรตำรวจแห่งชาติ และ รองผบ.ตร. แล้วเสนอ ก.ต.ช.พิจารณาให้ความเห็นชอบเป็น ผบ.ตร.คนใหม่ จากนั้นให้นายกรัฐมนตรีกราบบังคับทูล เพื่อโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง
ทั้งนี้ จากเดิมกฎหมายกำหนดให้นายกรัฐมนตรีเป็นผู้เลือกข้าราชการตำรวจยศพลตำรวจเอกคนใดก็ได้ (รองผบ.ตร. จเรตำรวจแห่งชาติ ที่ปรึกษา สบ10 และตำแหน่งเฉพาะตัวอื่นๆ เทียบเท่ารอง ผบ.ตร.) ฉะนั้นตามประกาศ คสช.ที่แก้ไขใหม่ ผู้ที่อยู่ในข่ายได้รับเลือกเป็น ผบ.ตร.คนใหม่ จะเหลือเพียง รองผบ.ตร. กับจเรตำรวจแห่งชาติเท่านั้น
5.รื้อโครงสร้างคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.)
รื้อเกณฑ์นับอาวุโสสกัดวิ่งเต้น
ประกาศ คสช.ฉบับที่ 89 เป็นเรื่องหลักเกณฑ์การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ โดยมีการวางหลักเกณฑ์การนับอาวุโสใหม่ โดยให้เหตุผลว่า เพื่อเป็นไปตามระบบคุณธรรมและคำนึงถึงพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคล ดังนี้
1.ผู้มียศสูงกว่า (ไม่รวมถึงยศที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นกรณีพิเศษ) เป็นผู้มีลำดับอาวุโสสูงกว่า 2.ยศเท่ากัน ผู้ที่ดำรงตำแหน่งระดับนั้นนานกว่า เป็นผู้มีอาวุโสสูงกว่า 3.ถ้าข้อ 2 เท่ากัน ให้ผู้ที่ดำรงตำแหน่งระดับถัดลงไปนานกว่าตามลำดับจนถึงตำแหน่งระดับรองสารวัตร เป็นผู้มีลำดับอาวุโสสูงกว่า 4.ถ้าดำรงตำแหน่งลำดับถัดลงไปนานเท่ากัน ให้ผู้มีระยะเวลาดำรงตำแหน่งชั้นสัญญาบัตรนานกว่า อาวุโสสูงกว่า และ 5.ถ้าระยะเวลาดำรงตำแหน่งชั้นสัญญาบัตรเท่ากัน ให้ผู้ที่มีอายุมากกว่าเป็นผู้มีลำดับอาวุโสสูงกว่า
ทั้งนี้ เดิมสำนักงานตำรวจแห่งชาติยึดหลักเกณฑ์นับอาวุโสด้วยการพิจารณาว่าข้าราชการตำรวจคนใดขึ้นดำรงตำแหน่งในระดับก่อนก็จะถือว่ามีอาวุโสสูงกว่า ทำให้เกิดการวิ่งเต้นกับฝ่ายการเมือง เพื่อให้มีการแต่งตั้งนอกฤดู หรือแต่งตั้งเป็นกรณีพิเศษ ช่วงชิงความได้เปรียบในการนับอาวุโส
ติดตามความเคลื่อนไหวของ ประชาไท ทางอีเมล คลิกอ่าน http://goo.gl/8xIcV หรือเฟซบุ๊ค http://fb.me/Prachatai