คสช.สั่งปลด 'ประภัสร์'พ้นผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท. มีผลทันที

คสช.ออกคำสั่งฉบับที่ 89/2557 ให้นายประภัสร์ จงสงวน พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย เพื่อให้การปฏิบัติการของ ร.ฟ.ท.เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และเหมาะสมยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

 

10 ก.ค. 2557 เมื่อเวลา 18.49 น.ที่ผ่านมา โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ได้เผยแพร่คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ที่ 89/2557 ลงนามโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.ลงวันที่ 10 ก.ค.2557 ให้นายประภัสร์ จงสงวน พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

 

 

 

 

ก่อนหน้านี้ไทยรัฐออนไลน์รายงานเมื่อวันที่ 9 ก.ค. 57 ว่า นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า กรณีที่มีกระแสเรียกร้องให้ผู้ว่า รฟท.ลาออก เพื่อแสดงความรับผิดชอบนั้น หากลาออกแล้วจะแก้ปัญหาได้หรือไม่ และอาจถูกมองว่าหนีปัญหา ดังนั้น จะขออยู่เพื่อแก้ไขปัญหาหลังจากนี้ เพื่อจะได้มีคนสั่งการ และหามาตรการป้องกัน โดยเฉพาะการเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมา

"ขอความเห็นใจ เพราะเข้ามาทำงานเพียงปีเศษ อาจจะไม่ทราบเรื่องภายในการรถไฟฯ ทั้งหมด ที่พูดไปว่าคดีฆ่าข่มขืนบนรถไฟเป็นคดีอาชญากรรมคดีแรก ทั้งที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่ง พูดไปเพราะไม่รู้ข้อมูล โดยส่วนตัวเข้าใจความรู้สึกญาติเพราะตัวเองก็มีลูกสาว"นายประภัสร์ กล่าว

ทั้งนี้ อันดับแรกจะต้องดูแลเรื่องความปลอดภัยของผู้โดยสาร โดยเฉพาะผู้โดยสารที่เป็นเด็ก และผู้หญิง เป็นไปได้ว่าจะจัดทำขบวนรถสำหรับผู้หญิง หรือเลดี้โบกี้ เพื่อเป็นทางเลือกตามความสมัครใจ แม้จะไม่มีผู้สนใจ แต่ รฟท. ก็ต้องจัดการให้มี ขณะเดียวกัน ได้ให้ฝ่ายอาณาบาล (ฝ่ายกฎหมาย) พิจารณาจัดทำร่างเพื่อออกประกาศห้ามจำหน่ายสุราบนตู้โดยสารของรถไฟ และผู้โดยสาร หากพกพามาเองก็ห้ามนำมาดื่มบนขบวนรถด้วย จะเร่งออกประกาศให้มีผลบังคับใช้โดยเร็วที่สุด เพราะเป็นอำนาจ รฟท.เอง

นอกจากนี้ ร.ฟ.ท. จะตั้งคณะทำงานขึ้นมาตรวจสอบพนักงานรถนอนกว่า 400 คน เพื่อเร่งตรวจสอบประวัติพนักงาน และลูกจ้างทั้งหมด ที่ทำหน้าที่ให้บริการผู้โดยสารบนขบวนรถ รวมทั้งทบทวนกระบวนการคัดเลือกลูกจ้างชั่วคราว มาเป็นลูกจ้างประจำว่า มีช่องโหว่ในจุดใด เพราะพนักงานที่ก่อเหตุเป็นลูกจ้างประจำ ที่เพิ่งเลื่อนมาจากลูกจ้างชั่วคราว ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม และลายนิ้วมือ โดย รฟท.จะเพิ่มความเข้มงวดด้านมาตรการรักษาความปลอดภัย ด้วยการจัดเจ้าหน้าที่ตรวจหาแอลกอฮอล์ในตัวของผู้ให้บริการบริเวณสถานีหลัก และสุ่มตรวจระหว่างการเดินทาง รวมทั้งเพิ่มเจ้าหน้าที่ตรวจตราบนขบวนรถระหว่างการเดินทางให้มากขึ้น เพราะที่ผ่านมามีเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ

อย่างไรก็ตาม กรณีการติดกล้องวงจรปิด จะติดตั้งกล้องวงจรปิด 2 ด้าน ในโบกี้รถไฟ ขบวนใหม่ที่สั่งซื้อเข้ามา เพื่อรักษาความปลอดภัยให้ผู้โดยสาร และไม่อยากให้ผู้โดยสารมองว่าเป็นการรุกล้ำพื้นที่ส่วนตัว

 

 

ด้าน Nation TVรายงานว่า กรณีที่มีกระแสจากสื่อสังคมออนไลน์เรียกร้องให้ผู้ว่า ร.ฟ.ท.ประภัสร์ จงสงวน แสดงความรับผิดชอบลาออกจากกรณีเหตุฆาตกรรมเด็กหญิงอายุ 13 ปีบนรถไฟ วันนี้ (10 ก.ค. 2557) ปลัดกระทรวงคมนาคม นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ได้ออกมาพูดกรณีนี้ว่า มองว่ากรณีนี้เป็นจิตสำนึกของผู้บริหาร ส่วนการจะให้ออกจากตำแหน่งนั้นจะต้องพิจารณาในขั้นตอนของกฎหมายด้วย เนื่องจากผู้ว่าการ ร.ฟ.ท.เข้ามาทำงานโดยสัญญาจ้าง ดังนั้นขั้นตอนหลังจากนี้ จึงอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการ ร.ฟ.ท. ซึ่งบอร์ดที่เหลืออยู่มีอำนาจในการพิจารณาข้อกำหนดในสัญญาเรื่องการเลิกจ้างได้ ซึ่งเห็นว่าบอร์ดการรถไฟฯควรเรียกประชุมกรณีนี้โดยด่วน เพื่อสอบสวนหาข้อเท็จจริง

ปลัดกระทรวงคมนาคมยังบอกอีกว่า ล่าสุดได้รับรายงานว่า ปัญหาส่วนหนึ่งเกิดจากการปฏิบัติหน้าที่หย่อนยานของ ร.ฟ.ท./ โดยเฉพาะขั้นตอนการคัดเลือกพนักงานเข้ามาทำงาน โดยเฉพาะกรณีของผู้ต้องหาคือนายวันชัย แสงขาว พบว่า มีการใช้เส้นสายในการรับเข้าทำงาน และนายวันชัยยังเป็นคนนำเอกสารหลักฐานผลตรวจประวัติอาชญากรรมมาเอง โดยที่ ร.ฟ.ท.ไม่ได้ตรวจสอบว่าเป็นข้อมูลหลักฐานที่ถูกต้องหรือไม่ จึงถือเป็นช่องโหว่ในการทำงานอย่างมาก และเป็นอุทาหรณ์ของการรถไฟ ที่เห็นถึงความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง