ฝากขังครั้งที่ 3 'บก.ลายจุด'ศาลทหารอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว ขณะที่เจ้าตัวยืนยันยุติการเคลื่อนไหวทางการเมืองตามเงื่อนไขในการประกันตัว เผยขณะที่อยู่ในเรือนจำ ได้เรียนรู้จากฝ่ายที่เห็นต่าง ทำให้มีความเข้าใจมากขึ้น หวังผู้ที่ยังถูกคุมขังอยู่จะได้รับการประกันตัว เพื่อสู้คดีในกระบวนการยุติธรรม
4 ก.ค. 2557 สำนักข่าวไทยรายงานว่าเวลา 08.30 น. วันนี้ นายสมบัติ บุญงามอนงค์ ผู้ต้องหาคดีขัดคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไม่เข้ารายงานตัว, กระทำผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (3) กระทบต่อความมั่นคง และกระทำการยุยง ปลุกปั่นให้เกิดความไม่สงบ หรือละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ได้เดินทางมาศาลทหารกรุงเทพ กรมพระธรรมนูญ เพื่อรายงานตัวตามนัด โดยวันนี้พนักงานสอบสวนได้ยื่นคำร้องขอฝากขังครั้งที่ 3 เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 6 - 17 ก.ค. 57
ต่อมา เวลา 10.00 น. องค์คณะผู้พิพากษาศาลทหารออกนั่งบัลลังก์ พิจารณาคำร้องของพนักงานสอบสวน ว่า ขั้นตอนการสอบสวนยังไม่เสร็จเรียบร้อย จะต้องสอบพยานอีก 1 ปาก ต้องตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของผู้ต้องหา และทำสำนวนเสนอผู้บังคับบัญชาจึงอนุญาตให้ฝากขังต่ออีก 12 วันตั้งแต่วันที่ 6 - 17 ก.ค. 57 โดยให้มารายงานตัวตามนัด
ต่อมาเวลา 10.45 น. นายสมบัติ ให้สัมภาษณ์ภายหลังเสร็จสิ้นกระบวนพิจารณาคำร้องแล้ว ว่า การเล่าประสบการณ์ในเรือนจำผ่านทวิตเตอร์ เป็นการถ่ายทอดให้เห็นว่า ในเรือนจำไม่มีปัญหาเรื่องสีเสื้อ คนที่มาจากคนละสีเสื้อสามารถคุยกันได้ และช่วยเหลือกันหลายครั้ง อย่างไรก็ตาม จะหยุดเคลื่อนไหวทางการเมืองจนกว่าคดีจะสิ้นสุด เพราะติดเงื่อนไขในการประกันตัว และดูว่า บรรยากาศทางการเมืองขณะนั้นเป็นอย่างไร
“ผมคิดว่าการใช้สิทธิในการแสดงออก เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานในสังคมประชาธิปไตย แต่การเมืองแบบไทยๆ ยังคงมีความยืดหยุดอยู่มาก การที่ผมได้สิทธิในการประกันตัว เป็นการส่งสัญญาณว่าบรรยากาศทางการเมืองที่เคร่งเครียด หลังการยึดอำนาจโดย คสช.ได้คลี่คลายลง คสช.ก็มีความยืดหยุ่นขึ้นมาก เหล่านี้เป็นการสะท้อนถึงสัญญาณที่ดี” นายสมบัติ กล่าว
นายสมบัติ กล่าวว่า ถ้าบรรยากาศสถานการณ์คลี่คลายกว่านี้ คือต้องให้ทั้งภาครัฐและประชาชนช่วยกันประคับประคองสถานการณ์ จะทำให้พื้นที่ในการพูดคุยกันเปิดกว้างมากขึ้น บรรยากาศที่เปิดกว้างเท่านั้น ที่จะทำให้ขบวนการปรองดองและการปฏิรูปเกิดขึ้นได้ และจะนำไปสู่การฟื้นฟูประชาธิปไตยของประเทศไทย หวังว่าเราจะช่วยสร้างบรรยากาศและร่วมฟื้นฟูประชาธิปไตยร่วมกัน
เมื่อถามว่า การเข้าไปอยู่ในเรือนจำ ทำให้ปรับทัศนคติทางการเมืองหรือไม่ นายสมบัติ กล่าวว่า ทัศนคติคงปรับไม่ได้ในบางเรื่อง เพราะเป็นเรื่องของหลักการ แต่การได้พูดคุยกันหลายฝ่าย ทั้งทหารและคนเสื้อเหลือง ทำให้ได้ฟังอีกมิติหนึ่ง เป็นการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน เรียนรู้ในอีกมิติหนึ่ง ขณะที่หลักการเดิมยังคงอยู่ แต่เข้าใจคนที่แตกต่างได้มากขึ้น คือ กระบวนการเรียนรู้
“ผมเชื่อมั่นว่า เมื่อได้คุยกับฝ่ายที่เห็นแตกต่าง เขาก็ได้เรียนรู้ ผมได้รู้มากขึ้น สังคมเราต้องการเรียนรู้ และเข้าใจความหลากหลาย และมิติที่แตกต่างกันในสังคม ส่วนคนที่ยังดำเนินกิจกรรมทางการเมืองอยู่ ผมเคารพในการตัดสินใจและเข้าใจ แต่ผมได้ยุติการเคลื่อนไหวทางการเมือง และหวังว่าผู้ที่ยังคงถูกควบคุมตัวอยู่จะได้รับสิทธิในการประกันตัว เพื่อสู้คดีตามกระบวนยุติธรรมด้วย” นายสมบัติ กล่าว
ติดตามความเคลื่อนไหวของ ประชาไท ทางอีเมล คลิกอ่าน http://goo.gl/8xIcV หรือเฟซบุ๊ค http://fb.me/Prachatai