คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) ตรวจสอบโครงการวงเงินเกิน 1,000 ล้านบาท สั่งยกเลิก 2 โครงการ "จัดหารถจักร รฟท.-แท็บเล็ตเพื่อการศึกษา"ทบทวน 4 โครงการใหญ่ "หารถรุ่นใหม่ รฟท.- คัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้า-พัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ-กองทุนเพื่อการส่งเสริมอนุรักษ์พลังงาน"
27 มิ.ย. 2557 สำนักข่าวไทยรายงานว่า พล.ท.อนันตพร กาญจนรัตน์ ประธานคณะกรรมการติดตาม และตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) แถลงความคืบหน้าการตรวจสอบโครงการขนาดใหญ่ที่มีวงเงินเกิน 1,000 ล้านบาท ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.ให้มีการตรวจสอบ ว่า เบื้องต้น คตร. มีมติยกเลิก 2 โครงการ คือ โครงการจัดหารถจักรของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และโครงการแท็บเล็ตเพื่อการศึกษา เนื่องจากมองว่าไม่คุ้มค่า
“คตร.ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปศึกษาโครงการที่เกิดประโยชน์และคุ้มค่า แต่ยังคงวัตถุประสงค์เดิมของโครงการมาเสนอใหม่ ทดแทนโครงการที่ถูกยกเลิกไปเพื่อให้การทำงานต่อเนื่องและเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาและส่วนรวม” พล.ท.อนันตพร กล่าว
พล.ท.อนันตพร กล่าวว่า คตร.ยังมีมติให้ทบทวนอีก 4 โครงการ ประกอบด้วย โครงการจัดหารถรุ่นใหม่ สำหรับบริการเชิงพาณิชย์ของ รฟท.โครงการตรวตสอบและคัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้า โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และโครงการกองทุนเพื่อการส่งเสริมอนุรักษ์พลังงาน เนื่องจากมีการกำหนดราคากลางที่สูงเกินไป จึงจำเป็นต้องคำนึงถึงความคุ้มทุน
สำหรับโครงการสนับสนุนประชาชนในการเปลี่ยนผ่านไปสู่การรับชมโทรทัศน์ภาพพื้นดินในระบบดิจิตอลของ กสทช. พล.ท.อนันตพร กล่าวว่า ที่ประชุมได้เปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม ที่เคยให้ชะลอไปก่อน เป็นการให้ไปพิจารณาทบทวนใหม่ให้คุ้มทุน หลังจากฟังคำชี้แจงของ กสทช.เห็นว่า โครงการดังกล่าวมีความจำเป็นต้องเดินหน้า โดยให้เวลา 15 วันในการไปปรับการดำเนินโครงการให้เกิดประโยชน์สุงสุด
พล.ต.อนันตพร กล่าวว่า ที่ประชุม คตร.ยังเพิ่มการตรวจสอบ อีก 4 โครงการ ประกอบด้วย โครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ที่ยังมีความล่าช้าทั้งเรื่องการก่อสร้างการเวนคืนที่ดิน การใช้งบประมาณที่สูง และเพิ่มการตรวจสอบการก่อสร้างที่พักของเจ้าหน้าที่และ สมาชิกรัฐสภา จำนวน 2,600 ห้อง ซึ่ง คตร.เห็นว่า ทั้งจำนวนและความจำเป็น อาจไม่คุ้มทุนกับการก่อสร้าง และเตรียมจะตรวจสอบโครงการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพรัฐสภา ที่ยังมีหลักเกณฑ์ไม่เหมาะสมเพื่อให้เกิดความชัดเจน
พล.ท.อนันตพร ยังแถลงเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตรวจสอบการค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคาว่า จากการตรวจสอบผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล พบว่าผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลยังขายเกินในราคา 80 บาทอยู่ คสช.จะเร่งดำเนินการให้มีการขายสลากในราคาที่เหมาะสม และหลังจากมีการจัดระเบียบแล้ว หากยังมีการฝ่าฝืน อาจจะต้องมีการยกเลิกโควต้าสำหรับผู้ค้ารายใหญ่ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม
“แต่ในช่วงนี้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคม เป็นต้นไป ผู้ค้าบริเวณหน้ากองสลาก สนามบินน้ำ ประมาณ 50 ซุ้ม จะขายสลากในราคา 80 บาท เพื่อเป็นการนำร่องก่อน” พล.ท.อนันตพร กล่าว
ติดตามความเคลื่อนไหวของ ประชาไท ทางอีเมล คลิกอ่าน http://goo.gl/8xIcV หรือเฟซบุ๊ค http://fb.me/Prachatai