Quantcast
Channel: พันศักดิ์ วิญญรัตน์
Viewing all articles
Browse latest Browse all 14385

กรุงเทพโพลล์เผยนักเศรษฐศาสตร์ชี้ 1 เดือน คสช. แค่แก้ปัญหาประเทศระยะสั้น

$
0
0
นักเศรษฐศาสตร์ 62.6% ชี้ผลงาน 1 เดือน คสช. ช่วยแก้ปัญหาประเทศได้เพียงระยะสั้น แนะการทำงานในช่วงปฏิรูปประเทศระยะที่ 2 ต้องวางยุทธศาสตร์การปฏิรูปที่ชัดเจน มุ่งแก้ทุกปัญหาอย่างยั่งยืน และ 51.7% เชื่อ จีดีพีปีนี้ขยายตัวไม่ถึง 3%
 
26 มิ.ย. 2557 ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) ร่วมกับคณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เปิดเผยผลสำรวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์จากองค์กรชั้นนำ 27 แห่ง จำนวน 60 คน เรื่อง “ครบ 1 เดือน คสช. : ผลงานในมุมมองนักเศรษฐศาสตร์” โดยเก็บข้อมูลระหว่างวันที่ 18 – 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา ผลสำรวจมีดังนี้
 
การบริหารประเทศภายใต้ คสช. ในรอบหนึ่งเดือนที่ผ่านมาที่มีนโยบายมาตรการต่างๆ ที่ออกมามากมายนั้น นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คิดเป็นร้อยละ 62.6 เห็นว่าการดำเนินงานดังกล่าวสามารถแก้ปัญหาได้เพียงระยะสั้นเท่านั้น มีเพียงร้อยละ 18.5 ที่เห็นว่าสามารถแก้ปัญหาได้ในระยะยาว ขณะที่ร้อยละ 10.6 มองว่าการดำเนินการดังกล่าวไม่ได้ผลและไม่สามารถช่วยแก้ปัญหาได้
 
เมื่อพิจารณาการดำเนินงานในแต่ละเรื่องพบว่า เรื่องที่กำลังดำเนินการอยู่และมีแนวโน้มที่จะแก้ปัญหาได้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาวคือเรื่อง การจัดระเบียบรัฐวิสาหกิจ และการจัดระเบียบแรงงานต่างด้าว
 
ส่วนเรื่องที่นักเศรษฐศาสตร์มองว่าไม่ได้ผลหรือได้ผลแค่ในระยะสั้นเท่านั้นคือเรื่อง การปราบปรามการพนัน / บ่อน / หวย
 
สำหรับเรื่องการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ / ไม่มีสีเสื้อ นักเศรษฐศาสตร์ร้อยละ 53.3 มองว่าสามารถแก้ปัญหาได้ในระยะสั้นเท่านั้น และมีถึงร้อยละ 20.0 ที่มองว่าการแก้ปัญหาดังกล่าวไม่ได้ผล เช่นเดียวกับกิจกรรมคืนความสุขให้กับคนไทยที่ร้อยละ 78.3 เห็นว่าได้ผลเพียงในระยะสั้นเท่านั้น
 
นอกจากนี้นักเศรษฐศาสตร์ยังเห็นว่าการดำเนินงานของ คสช. ในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมายังขาดยุทธศาสตร์ ขาดกลยุทธ์ ขาดความเป็นรูปธรรมในการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน และขาดที่ปรึกษาที่เยี่ยมยอดจึงอาจทำให้ปัญหาที่กำลังแก้อยู่ในปัจจุบันจะกลับมาอีกในอนาคต ดังนั้น การทำงานในช่วงแผนปฏิรูปประเทศระยะที่ 2 คสช. จึงควรวางยุทธศาสตร์การปฏิรูปที่ชัดเจน มุ่งแก้ทุกปัญหาอย่างยั่งยืนเพื่อให้การปฏิรูปสำเร็จตามที่ประชาชนคาดหวัง
 
สุดท้ายเมื่อถามว่า จีดีพี ในปีนี้จะขยายตัวร้อยละ 3 ได้หรือไม่ นักเศรษฐศาสตร์กว่าครึ่งคิดเป็น
ร้อยละ 51.7 คิดว่าไม่ได้ มีเพียงร้อยละ 25.0 ที่คิดว่าได้
           
 
หมายเหตุ: รายงานผลสำรวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์ฉบับนี้ เป็นการสำรวจความเห็นส่วนตัวของนักเศรษฐศาสตร์ซึ่งมิได้สื่อถึงแนวนโยบายขององค์กรที่นักเศรษฐศาสตร์สังกัดอยู่แต่อย่างใด
 
*************************************
 
1. การทำงานในรอบ 1 เดือนของ คสช. นักเศรษฐศาสตร์มีความเชื่อมั่นเพียงใดว่าการแก้ปัญหาที่กำลังดำเนินการอยู่จะนำไปสู่การแก้ปัญหาได้ในระยะยาว
การทำงานในรอบ 1 เดือนของ คสช.
เชื่อว่าจะสามารถแก้ปัญหา...
ไม่ตอบ/
ไม่แน่ใจ
ไม่ได้ผล/
แก้ไม่ได้
ได้ผล
ในระยะสั้น
ได้ผล
ในระยะยาว
1.การจัดระเบียบรัฐวิสาหกิจ
6.7
46.7
38.3
8.3
2.การจัดระเบียบแรงงานต่างด้าว
13.3
46.7
30.0
10.0
3.การปรับโครงสร้างราคาพลังงานให้เป็นธรรม และสะท้อนกลไกตลาด
25.0
28.3
33.3
13.4
4.การติดตาม ตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ และแก้ปัญหาคอร์รัปชั่น
11.7
61.7
20.0
6.6
5.การปราบปรามอาวุธสงคราม / มือปืน
0.0
75.0
18.3
6.7
6.มาตรการลดต้นทุนการผลิตที่จะใช้ช่วยเหลือชาวนา
6.7
71.7
18.3
3.3
7. การสร้างความปรองดองสมานฉันท์ / ไม่มีสีเสื้อ
20.0
53.3
15.0
11.7
8. การคืนความสุขให้กับคนไทย
3.3
78.3
13.3
5.1
9. การปราบปรามเครือข่ายยาเสพติด
3.3
73.3
11.7
11.7
10. การจัดระเบียบวินมอเตอร์ไซต์/รถตู้/แท็กซี่
11.7
68.3
11.7
8.3
11.การดูแลค่าครองชีพ
16.7
66.7
8.3
8.3
12.การปราบปรามการพนัน / บ่อน / หวย
8.3
81.7
3.3
6.7
ภาพรวม
10.6
62.6
18.5
8.3
หมายเหตุ : รวบรวมและคัดเลือกโดยกรุงเทพโพลล์
 
2. การทำงานในรอบ 1 เดือนของ คสช. โดยสังเขปตามการประเมินข้างต้น มีจุดอ่อนตรงไหนที่ต้องรีบแก้ไขหรือแนะนำเพิ่มเติมสำหรับการทำงานอีก 2 เดือนที่เหลือของแผนปฏิรูปประเทศระยะที่ 1 (เป็นคำถามปลายเปิด)
อันดับ 1 การดำเนินงานยังขาดยุทธศาสตร์ ขาดกลยุทธ์ ขาดความเป็นรูปธรรมในการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน และขาดที่ปรึกษาที่เยี่ยมยอดจึงอาจทำให้ปัญหาที่กำลังแก้อยู่ในปัจจุบันจะกลับมาอีกในอนาคต
อันดับ 2 เพิ่มความจริงจังเด็ดขาด เข้มงวด ในการบังคับใช้กฏหมาย ไม่ต้องเกรงกลัวผู้ใด ต้องปฏิบัติอย่างเท่าเทียม โดยความเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมายยังต้องมีอยู่เมื่อการบริหารประเทศกลับสู่ภาวะปกติ
อันดับ 3 เพิ่มการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าใจสิ่งที่ทำว่ามีความจำเป็นและมีเป้าหมายอย่างไรในการแก้ปัญหาต่างๆ มีการสร้างความเชื่อมั่นกับชาวต่างชาติ และนักลงทุน
อันดับ 4 อื่นๆ ได้แก่ เน้นแก้ปัญหาของคนหมู่มาก(เช่นราคาพลังงาน ค่าครองชีพ) เร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ แก้ปัญหาจราจร
หมายเหตุ: มีนักเศรษฐศาสตร์แสดงความคิดเห็นในประเด็นนี้จำนวน 32 คน
 
3. การทำงานในช่วงแผนปฏิรูปประเทศระยะที่ 2 ภายใต้การดูแลและรักษาความสงบของ คสช. มีสิ่งที่ต้องการเสนอแนะการทำงานอะไรบ้าง เพื่อให้การปฏิรูปสำเร็จ (เป็นคำถามปลายเปิด)
อันดับ 1 วางยุทธศาสตร์การปฏิรูปที่ชัดเจน มุ่งแก้ทุกปัญหาอย่างยั่งยืน
อันดับ 2 แก้กฏหมายเพื่อรองรับการปฏิรูป ปฏิรูปการบังคับใช้กฎหมายให้เข้มข้นในทุกยุคสมัยไม่ว่าใครมาบริหารประเทศ เพิ่มบทลงโทษให้รุนแรงขึ้น
อันดับ 3 ปฏิรูปเศรษฐกิจ การเกษตร พลังงาน แรงงาน การคอร์รัปชั่น เพื่อประชาชนจะได้อยู่ดีกินดี พร้อมๆ กับการปฏิรูปสังคมด้วยการสร้างสังคมที่มีวินัย ยึดถือคุณธรรม ความซื่อสัตย์เป็นบรรทัดฐานในการอยู่ร่วมกันในสังคม
อันดับ 4 สื่อสารกับประชาชนอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ประชาชนทราบความก้าวหน้าในการปฏิรูปประเทศ
อันดับ 5 ให้ประชาชน นักวิชาการ มีส่วนร่วมในการปฏิรูป
อันดับ 6 อื่นๆ ตรวจสอบความก้าวหน้าของการปฏิรูปเป็นระยะๆ / มอบอำนาจเต็มให้กับรัฐบาลใหม่ในช่วงที่ 2 ที่จะปฏิรูป / สร้างกลไกตรวจสอบการทำงานของ คสช.
หมายเหตุ: มีนักเศรษฐศาสตร์แสดงความคิดเห็นในประเด็นนี้จำนวน 31 คน
 
4. จีดีพี (ณ ราคาคงที่) ปีนี้จะขยายตัวร้อยละ 3 ได้หรือไม่เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา
ร้อยละ 51.7 คิดว่าไม่ได้
ร้อยละ 25.0 คิดว่าได้
ร้อยละ 23.3 ไม่แน่ใจ/ไม่ตอบ
 
 
รายละเอียดในการสำรวจ
 
วัตถุประสงค์
เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญทางด้านเศรษฐศาสตร์ที่มีต่อการทำงาน การบริหารราชการแผ่นดินของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา
 
กลุ่มตัวอย่าง
เป็นนักเศรษฐศาสตร์ที่สำเร็จการศึกษาทั้งระดับปริญญาตรีและปริญญาโทในสาขาเศรษฐศาสตร์ (กรณีสำเร็จการศึกษาด้านเศรษฐศาสตร์เฉพาะปริญญาตรี หรือปริญญาโท หรือปริญญาเอก อย่างใดอย่างหนึ่ง จะต้องมีประสบการณ์ในการทำงานด้านวิเคราะห์/วิจัย/หรืองานที่เกี่ยวข้องที่ต้องใช้ความรู้ความสามารถด้านเศรษฐศาสตร์อย่างน้อย 5 ปีจนถึงปัจจุบัน) ที่ทำงานอยู่ในหน่วยงานด้านการวิเคราะห์ วิจัยเศรษฐกิจระดับชั้นนำของประเทศ จำนวน 27 แห่ง ได้แก่ ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร สำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้ากระทรวงพาณิชย์ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย(TDRI) ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ธนาคารกรุงไทย ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย ธนาคารธนชาต ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารทหารไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ บริษัทหลักทรัพย์เคจีไอ บริษัทหลักทรัพย์ภัทร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกรุงไทย บริษัททิพยประกันชีวิต คณะเศรษฐศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยทักษิณ  คณะวิทยาการจัดการและสารสนเทศศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวร สำนักวิชาเศรษฐศาสตร์และนโยบายสาธารณะมหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ คณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยรามคำแหง และคณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยกรุงเทพ 
 
วิธีการรวบรวมข้อมูล
การสำรวจนี้เป็นการวิจัยโดยการเลือกตัวอย่างประชากรโดยไม่อาศัยหลักความน่าจะเป็น (Non-probability sampling) แต่ละหน่วยตัวอย่างที่จะได้รับการเลือก จึงเป็นการเลือกตัวอย่างประชากรแบบเจาะจง (Purposive sampling) และดำเนินการรวบรวมข้อมูลโดยการส่งแบบสอบถามออนไลน์ไปยังนักเศรษฐศาสตร์ในหน่วยงานที่กำหนดภายในระยะเวลาที่กำหนด
 
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล          : 18 – 25 มิถุนายน 2557
 
วันที่เผยแพร่ผลสำรวจ    : 26 มิถุนายน 2557
 
ข้อมูลรายละเอียดของกลุ่มตัวอย่าง
 
 
จำนวน
ร้อยละ
ประเภทของหน่วยงานที่กลุ่มตัวอย่างทำงานอยู่
 
 
หน่วยงานภาครัฐ
26
43.3
หน่วยงานภาคเอกชน
21
35.0
สถาบันการศึกษา
13
21.7
รวม
60
100.0
เพศ         
 
 
ชาย
36
60.0
หญิง
24
40.0
รวม
60
100.0
อายุ          
 
 
                18 – 25 ปี
1
1.7
26 – 35 ปี
14
23.3
36 – 45 ปี
27
45.0
46 ปีขึ้นไป
18
30.0
รวม
60
100.0
การศึกษา  
 
 
ปริญญาตรี
5
8.4
ปริญญาโท
38
63.3
ปริญญาเอก
17
28.3
รวม
60
100.0
ประสบการณ์ทำงานรวม
 
 
1-5 ปี
9
15.0
6-10 ปี
18
30.0
11-15 ปี
11
18.3
16-20 ปี
8
13.3
ตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป
14
23.4
รวม
60
100.0
 
 
ติดตามความเคลื่อนไหวของ ประชาไท ทางอีเมล คลิกอ่าน http://goo.gl/8xIcV หรือเฟซบุ๊ค http://fb.me/Prachatai

Viewing all articles
Browse latest Browse all 14385

Trending Articles