กทค.ปัดสั่งปิดเฟซบุ๊ก จวกเทเลนอร์ไร้มารยาท เล็งตรวจสัดส่วนถือหุ้นของต่างชาติ ดีแทคอาจหมดสิทธิประมูล 4G
จากกรณีที่นายทอร์ ออดแลนด์ หัวหน้าฝ่ายสื่อสารของเทเลนอร์ เอเชีย บริษัทแม่ของ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค ออกมาให้สัมภาษณ์ยอมรับว่า เมื่อวันที่ 28 พ.ค.2557 ที่ผ่านมา เทเลนอร์ได้รับคำสั่งจากรัฐบาลทหารให้ปิดกั้นการเข้าถึงเฟชบุ๊กในประเทศไทยเป็นเวลา 1 ชั่วโมง ซึ่งอาจส่งผลกระทบกับผู้ใช้งานเฟชบุ๊กราว 10 ล้านราย
พันเอกเศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และประธานกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ปฏิเสธว่าเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง โดยระบุว่า แถลงการณ์ดังกล่าวของดีแทค เป็นเรื่องที่ไม่สมควรและไม่เคารพในกฎกติกามารยาท ของการกำกับดูแลในช่วงเวลาสถานการณ์แบบนี้ ดังนั้น กทค.เห็นชัดว่า ควรจะทบทวนสัดส่วนการถือหุ้นของต่างชาติ ซึ่งจะต้องไม่ควรถือหุ้นเกิน 49% ในกิจการโทรคมนาคม
พันเอกเศรษฐพงค์ กล่าวอีกว่าหลังจากนี้ กทค.จะต้องเข้มงวดและตรวจสอบการถือครองหุ้นของบริษัทดีแทคมากขึ้น และหากพบว่าสัดสัดการถือครองหุ้นของต่างชาติในดีแทค ชี้ชัดว่าควรแก่การสงสัยเรื่องการละเมิดกฎหมายการถือครองหุ้นของต่างชาติ กทค.อาจจะตัดสิทธิ์ไม่ให้ ดีแทคเข้าร่วมประมูลคลื่นความถี่ 4G บนย่านความถี่ 1800 MHz
"ขณะนี้ได้ตั้งกรรมการตรวจสอบการถือครองหุ้นในบริษัทดีแทค ในสัดส่วนของเทเลนอร์ แล้ว ซึ่งหากพบว่าเกินกว่ากฎหมายกำหนดก็จะดำเนินการตามกฎหมายทันที ไม่ใช่แค่ไม่มีสิทธิประมูลคลื่น 4 จี เท่านั้น"พันเอกเศรษฐพงค์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ไทยรัฐรายงานเพิ่มเติมว่า จากกรณีที่ผู้ถือหุ้นดีแทคได้ให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศว่า กทค.ได้สั่งปิดเฟซบุ๊กนั้น ทำให้กรรมการ กสทช.ไม่พอใจเป็นอย่างมาก จึงคาดว่าน่าจะเป็นมูลเหตุทำให้ กทค.เตรียมตอบโต้กลับด้วยการตั้งคณะอนุกรรมการตรวจสอบการถือหุ้นของต่างชาติอย่างเข้มงวด โดยจะเริ่มตรวจสอบการถือหุ้นของดีแทคก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นก็จะตรวจสอบเอไอเอสและทรูเป็นรายต่อไป
ที่มา:เว็บไซต์แนวหน้าและไทยรัฐ