การไฟฟ้าฝ่ายผลิตเผยภาคใต้มีความต้องการใช้ไฟเพิ่มทุกปีร้อยละ 6 ขณะที่ความต้องการไฟฟ้าสูงสุดมากกว่ากำลังการผลิต ขณะที่ช่วง 13 มิ.ย. - 10 ก.ค. นี้ จะมีการปิดซ่อมแหล่งก๊าซไทย-มาเลเซียจึงได้เตรียมแผนรองรับให้ผู้ใช้ไฟกระทบน้อยที่สุด ขณะที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเล็งประชาสัมพันธ์ลดใช้ไฟฟ้าช่วง 18.30-22.30 น.
8 มิ.ย. 2557 - สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยรายงานวันนี้ (8 มิ.ย.) ว่า นายสมชัย ชัยโรจน์นิพัฒน์ หัวหน้ากองควบคุมระบบ ฝ่ายปฏิบัติการภาคใต้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวถึงความต้องการใช้ไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้ว่า มีปริมาณสูงขึ้นทุกปี เนื่องจากภาคใต้มีอุตสาหกรรมทางด้านการประมง อุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับยางพารา และอุตสาหกรรมท่องเที่ยว มีแนวโน้มการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 6 ต่อปี
ปัจจุบันพื้นที่ภาคใต้มีความต้องการพลังงานไฟฟ้าสูงสุดอยู่ที่ 2,468 เมกะวัตต์ ขณะที่ภาคใต้มีกำลังผลิตไฟฟ้าอยู่เพียง 2,359 เมกะวัตต์ จากโรงไฟฟ้าในพื้นที่ อาทิ โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมจะนะ โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมขนอม โรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนรัชชประภา ส่วนที่เหลือต้องพึ่งพาการส่งกระแสไฟฟ้าจากภาคกลาง โดยปัจจุบันได้ควบคุมการส่งพลังงานไฟฟ้าผ่านสายส่งไม่เกิน 700 เมกะวัตต์ เพื่อให้เหมาะสมกับกำลังสายส่งที่สามารถรองรับได้ หากเกินขีดความสามารถของสายส่ง หรือสายส่งจากภาคกลางที่ส่งกระแสไฟฟ้ามายังภาคใต้เกิดขัดข้อง อาจส่งผลให้เกิดไฟฟ้าดับในภาคใต้ได้ เช่นเหตุการณ์ไฟฟ้าดับในพื้นที่ภาคใต้ทั้ง 14 จังหวัดเป็นเวลายาวนานถึง 4 ชั่วโมง เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2556
ทั้งนี้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ได้เตรียมมาตรการรองรับทั้ง การปรับแผนตรวจสอบและบำรุงรักษาโรงไฟฟ้าภาคใต้ ไม่ให้มีการหยุดบำรุงรักษาช่วงที่ปิดซ่อมแหล่งก๊าซในพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย หรือเจดีเอ และเตรียมพร้อมโรงไฟฟ้าภาคใต้ทุกเครื่อง พร้อมตรวจสอบอุปกรณ์ระบบส่ง และระบบป้องกันให้พร้อมใช้งาน โดยจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนพฤษภาคมนี้ และได้มีการซักซ้อมแผนกู้คืนระบบหากเกิดเหตุฉุกเฉิน เพื่อกระทบต่อผู้ใช้ไฟให้น้อยที่สุด
กฟภ.เตรียมมาตรการรองรับ-ประชาสัมพันธ์ภาคใต้ลดใช้ไฟช่วง 18.30-22.30 น.
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยรายงานด้วยว่า นายสาคร พยัคฆเรือง ผู้ช่วยผู้ว่าการควบคุมระบบไฟฟ้า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) กล่าวถึงกรณีหยุดซ่อมบำรุงแหล่งก๊าซเจดีเอว่า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เตรียมมาตรการรองรับผลกระทบในพื้นที่ที่รับผิดชอบทุกด้าน ทั้งด้านความพร้อมเสริมความมั่นคงด้านการให้บริการ การป้องกันเสริมความมั่นคงด้านพลังานไฟฟ้า การแก้ไขเพื่อลดผลกระทบกรณีเกิดวิกฤต และการแก้ไขปัญหากรณีเกิดไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้างในพื้นที่ภาคใต้
ทั้งนี้ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้ซักซ้อมและจัดเตรียมแผนด้านการบริหารจัดการสภาวะวิกฤตระหว่างศูนย์ควบคุมการจ่ายไฟฟ้า มีการจัดประชุมชี้แจง และประชาสัมพันธ์ภายในองค์กรให้กับการไฟฟ้าในเขตพื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ รวมถึงได้สนับสนุนข้อมูลการรณรงค์และประชาสัมพันธ์เพื่อลดความต้องการใช้ไฟฟ้าช่วงเวลา 18.30 ถึง 22.30 น. ที่คาดว่าเป็นช่วงความต้องการใช้ไฟฟ้าภาคใต้สูงสุดให้กับประชาชน หากทุกฝ่ายให้ความร่วมมือ เชื่อว่าพื้นที่ภาคใต้จะไม่เกิดวิกฤติไฟฟ้าแน่นอน