ชี้ไม่ใช่เรื่องพิจารณาเร่งด่วน แนะควรชะลอรอสภาฯ มาพิจารณากฎหมาย พร้อมติงกระทรวงสาธารณสุขอย่าลักไก่ผลักดันช่วงเศรษฐกิจ-การเมืองวุ่น
5 มิ.ย. 2557 สมาคมการค้ายาสูบไทย ระบุถึงกรณีที่ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข และกลุ่ม NGO ต่อต้านยาสูบได้ออกมาระบุว่า จะเสนอร่าง พ.ร.บ.ควบคุมการบริโภคยาสูบ เพื่อนำเสนอให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.อนุมัติ ว่าร่างกฎหมายดังกล่าวจะซ้ำเติมเรื่องรายได้และชีวิตความเป็นอยู่ของร้านค้าปลีกทั่วประเทศกว่า 500, 000 ราย และชาวไร่ยาสูบทั่วประเทศกว่า 52,000 ครัวเรือน ซึ่งชาวไร่ยาสูบกลุ่มนี้ปลูกข้าวด้วยและเพิ่งจะฟื้นตัวจากปัญหานโยบายจำนำข้าว ดังนั้น ร้านค้าปลีกและชาวไร่เห็นพ้องว่า คสช.ไม่ควรรับร่างกฎหมายนี้ และควรเน้นการทำงานในประเด็นเร่งด่วนอื่นๆ ที่จะช่วยแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ โดยชาวไร่และร้านค้าต่างประสบปัญหาเศรษฐกิจถดถอยอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา
“พวกเราขอขอบคุณ คสช. ที่เร่งดำเนินการให้ชาวนาทั่วประเทศได้รับเงินจำนำข้าวที่ติดค้างมานานและทำให้ชาวนาต้องเผชิญภาวะกดดันจากหนี้สินมาตลอดในช่วงที่ผ่านมา ขณะนี้ปัญหาดังกล่าวได้เบาบางลงบ้างแล้ว พวกเราหวังว่า คสช. จะไม่ออกร่างกฎหมายใดๆ ที่ไม่ได้ผ่านการพิจารณาอย่างรอบคอบถึงผลกระทบรอบด้านมาซ้ำเติมชีวิตความเป็นอยู่และรายได้ของชาวไร่ ทั้งนี้สมาคมฯ ยินดีที่จะเข้าพบ คสช.เพื่อชี้แจงผลกระทบที่กระทรวงสาธารณสุขไม่ได้คำนึงให้ทาง คสช.ได้รับทราบ หวังว่าคสช. จะพิจารณาให้โอกาสพวกเรา” นายสมนึก ยิ้มปิ่น ผู้จัดการสมาคมชาวไร่ยาสูบเบอร์เลย์ จ.สุโขทัย กล่าว
ส่วน นายสงกรานต์ ภักดีจิตร นายกสมาคมชาวไร่ยาสูบเบอร์เลย์ จังหวัดเพชรบูรณ์กล่าวว่า ชาวไร่ยาสูบคัดค้านร่างกฎหมายฉบับนี้มาโดยตลอด กระทรวงการคลังและกรมสรรพสามิตซึ่งดูแลชาวไร่ยาสูบก็ไม่เห็นด้วยในหลายประเด็นและกังวลกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้น
“ขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องเร่งรีบออกกฎหมายนี้ เพราะ คสช. ยังมีเรื่องเร่งด่วนที่ต้องทำอีกเป็นจำนวนมาก กฎหมายที่กระทบต่อคนจำนวนมากควรจะพิจารณาอย่างรอบด้าน กฎหมายนี้ควรชะลอไว้จนกว่าจะมีสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาที่เป็นตัวแทนของประชาชนมาพิจารณากฎหมาย” นายสงกรานต์กล่าว
ขณะที่ นายอรุณ โปธิตา ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 6 บ้านแม่ผาแหน ต.ออนใต้ อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ตัวแทนชาวไร่บ่มเองภาคเหนือกล่าวว่า พวกเราตระหนักดีว่า คสช. ต้องทำงานอย่างหนักและพิจารณากฎหมายหลายด้านเพื่อการปฏิรูปประเทศ อย่างไรก็ตามชาวไร่ยาสูบ ขอร้องให้ คสช. คำนึงถึงผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนที่เป็นรากหญ้าในต่างจังหวัดทั่วประเทศ เนื่องจากชาวไร่ยาสูบจะได้รับผลกระทบจากร่างกฎหมายนี้
นางวราภรณ์ นะมาตร์ ผู้อำนวยการบริหาร สมาคมการค้ายาสูบไทย กล่าวเสริมว่า ร่างพ.ร.บ.ฯ นี้ เพิ่มภาระและความลำบาก อีกทั้งลิดรอนสิทธิในการค้าขายของร้านค้า ซึ่งมีหลายมาตราไม่มีเหตุผลและไม่ช่วยเรื่องการลดการบริโภคแต่อย่างใด สมาคมฯ เห็นว่า คสช. ควรให้ความสำคัญกับปัญหาเศรษฐกิจและปากท้องของประชาชนเป็นอันดับแรก กฎหมายฉบับนี้ยังมีปัญหาหลายส่วนที่ต้องแก้ไขทบทวนซึ่งควรรอให้มีการชลอไว้ ในขณะนี้ควรบังคับใช้กฎหมายปัจจุบันอย่างเข้มงวดจริงจังและเน้นให้ความรู้มากกว่าจะมาออกกฎหมายฉบับใหม่
ข้อมูลจากสมาคมการค้ายาสูบไทย ระบุด้วยว่า นับตั้งแต่ปี 2555 ที่มีการผลักดันร่างกฎหมายนี้ ชาวไร่ยาสูบในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สมาคมชาวไร่ยาสูบทั้ง 7 จังหวัด สมาคมการค้ายาสูบไทย บริษัทยาสูบ ตลอดจนสหภาพแรงงานของโรงงานยาสูบ กระทรวงการคลัง และอีกหลายหน่วยงาน ได้ให้ความเห็นคัดค้านร่างกฎหมายนี้ในการทำประชาพิจารณ์ในภาคต่างๆ อีกทั้ง มีการส่งหนังสือถึงกระทรวงสาธารณสุขและส่วนราชการต่างๆ เพื่อให้แก้ไข ทบทวน และยกเลิกร่างกฎหมายดังกล่าว แต่กระทรวงสาธารณสุขก็ยังคงเดินหน้าผลักดันร่างกฎหมายโดยไม่สนใจต่อเสียงคัดค้านแต่อย่างใด
อีกทั้งยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขและกลุ่มต่อต้านยาสูบกำลังถือโอกาสใช้ประโยชน์จาก คสช. และผลักดันร่างพ.ร.บ. ควบคุมการบริโภคยาสูบในช่วงที่เหตุการณ์กำลังวุ่นวาย ซึ่งการกระทำเช่นนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วในช่วงภาวะบ้านเมืองไม่ปกติ โดยได้มีการขออนุมัติผ่านกฎหมายต่างๆ ซึ่งไม่มีการทบทวนและไม่รับฟังข้อโต้แย้งจากทุกฝ่ายที่ได้รับผลกระทบ ดังนั้นทางชาวไร่ยาสูบและร้านค้าปลีกทั่วประเทศจึงรวมตัวกันวิงวอนให้ คสช.ไม่เร่งรีบผ่านกฎหมายมาซ้ำเติมชาวไร่ยาสูบและร้านค้าที่เป็นรากหญ้าทั่วประเทศ
ติดตามความเคลื่อนไหวของ ประชาไท ทางอีเมล คลิกอ่าน http://goo.gl/8xIcV หรือเฟซบุ๊ค http://fb.me/Prachatai