ประธาน ทปอ. เผยเป็นโอกาสดีที่ คสช. จะปฏิรูปประเทศ เสนอให้ สกอ.ช่วยปฏิรูปการศึกษาให้มีคุณภาพ-ปลูกฝังจริยธรรม-รับผิดชอบสังคม ไม่ใช่เน้นแต่วิชาการ เพื่อให้เกิดความสมานฉันท์ ที่ผ่านมาปัญหาเกิดจากจริยธรรมบกพร่อง แผนระยะสั้นเสนอให้เร่งพิจารณา พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยในกำกับ-พ.ร.บ.การบริหารจัดการบุคคลระดับอุดมศึกษาที่ค้าง ระยะยาวต้องเปลี่ยนการศึกษาให้เน้นใช้เทคโนโลยี-ใช้ระบบการประเมิน
ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน ประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) (ที่มา: วิกิพีเดีย)
5 มิ.ย. 2557 - สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยรายงานว่า เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. ที่ผ่านมา ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล ในฐานะประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) เปิดเผยหลังการประชุมว่า เป็นโอกาสดีที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะปฏิรูปประเทศ ซึ่งที่ประชุม ทปอ. จะใช้ศักยภาพของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) เข้ามาช่วยพัฒนาเพื่อนำไปสู่การปฏิรูปประเทศโดยเฉพาะการปฏิรูปการศึกษาซึ่งจะต้องเน้นให้การศึกษามีคุณภาพเข้าถึงประชาชนไทยอย่างเท่าเทียมกัน รวมถึงการศึกษาต้องมุ่งเน้นการปลูกฝังจริยธรรม ความรับผิดชอบทางสังคมไม่ใช่มุ่งเน้นทางด้านวิชาการเพียงด้านเดียว ซึ่งจะนำไปสู่การเกิดความสมานฉันท์ในประเทศ เพราะปัญหาของประเทศไทยเกิดมาจากความบกพร่องทางจริยธรรม
อย่างไรก็ตาม มองว่าแผนระยะสั้น เร่งด่วนที่สามารถทำได้ทันทีที่จะเสนอเข้าสภาปฏิรูป คือ 1 เร่งพิจารณากฏหมายที่ค้างอยู่ในสภาเช่น พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐและ พ.ร.บ. การบริหารจัดการบุคคลระดับอุดมศึกษา โดยต้องการให้ผ่านสภานิติบัญญัติ ส่วนแผนระยะยาว จะต้องปรับเปลี่ยนการศึกษาโดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยการเรียนในทุกระดับและใช้ระบบการประเมินมาตรฐานการศึกษาบนพื้นฐานการพัฒนา รวมถึงต้องปรับระบบการศึกษาให้สอดคล้องกับความแตกต่างเชิงพื้นที่
ส่วนแนวคิดการตั้งกระทรวงอุดมศึกษาและการวิจัย โดยให้มหาวิทยาลัยเข้ามาอยู่ในสังกัดนั้นเป็นแผนระยะยาวที่จะต้องบริหารงานบุคคลให้มีความพร้อมซึ่งทั้งหมดต้องสอดคล้องกับแนวทางการปฏิรูปแบบบูรณาการ โดยหลังจากนี้จะนำข้อเสนอในที่ประชุมส่งให้ สกอ. เพื่อหาช่องทางนำเสนอ คสช.ต่อไป