องค์กรภาคประชาชนหลายกลุ่มออกแถลงการณ์ประณามการใช้ความรุนแรงกับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากเหมืองทองคำ อ.วังสะพุง จ.เลย เมื่อกลางดึกและรุ่งเช้าของคืนวันที่ 16 พฤษภาคม 2557 ที่ผ่านมา
16 พ.ค. 2557 เครือข่ายคณาจารย์ นิสิต นักศึกษา และประชาชนเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ออกแถลงการณ์ด่วนที่สุด กรณีการใช้ความรุนแรงกับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากเหมืองทองคำ อ.วังสะพุง จ.เลย โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
แถลงการณ์ด่วนที่สุด
กรณีการใช้ความรุนแรงกับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากเหมืองทองคำ อ.วังสะพุง จ.เลย
เนื่องด้วยเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับชาวบ้านเมื่อกลางดึกและรุ่งเช้าของคืนวันที่ 16 พฤษภาคม 2557 ที่บ้านนาหนองบง ต.เขาหลวง อ.วังสะพุง จ.เลย โดยชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากเมืองแร่ทองคำได้ถูกชายฉกรรจ์บุกจับ รุมทำร้าย ทุบตี และแทง ทำให้มีผู้บาดเจ็บ รวมถึงอาการสาหัสจำนวนมาก เพื่อขนทองแดงและทองคำออกไป
เครือข่ายคณาจารย์ นิสิต นักศึกษา และประชาชนเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมเห็นว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนและสิทธิชุมชนขั้นร้ายแรง จึงขอประณามกลุ่มผู้กระทำการดังกล่าว และขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วงานภาครัฐ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องรักษากฎหมาย โดยเร่งรัดนำตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายบ้านเมืองโดยเร่งด่วน และปกป้องชีวิตของชาวบ้านซึ่งเป็นหน้าที่ที่จะละเว้นการปฏิบัติไม่ได้
เครือข่ายคณาจารย์ นิสิต นักศึกษา และประชาชนเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ขอวิงวอนต่อองค์กรชาวบ้าน องค์กรภาคประชาสังคม และสื่อมวลชน ให้เคลื่อนไหวสนับสนุนชาวบ้าน รวมทั้งเข้าดูแลช่วยเหลือชาวบ้านอย่างเร่งด่วนที่สุดตามกำลังความสามารถ เนื่องจากประเด็นนี้เป็นความไม่ยุติธรรมทางสังคม และการละเมินสิทธิมนุษยชนและสิทธิชุมชนซึ่งเป็นปัญหาร่วมของสังคมไทย
ด้วความสมานฉันท์
เครือข่ายคณาจารย์ นิสิต นักศึกษา และประชาชนเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
วันที่ 16 พฤษภาคม 2557 เวลา 10.00 น.
นอกจากนี้ยังมีแถลงการณ์ของมูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม (EnLAW), สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน (HRLA),สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน, มูลนิธิผสานวัฒนธรรม (CrCF), ศูนย์พิทักษ์และฟื้นฟูสิทธิชุมชนท้องถิ่น, ศูนย์ข้อมูลชุมชน (CRC), มูลนิธิบูรณะนิเวศ (EARTH), กรีนพีซเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (GreenPeace SEA) และสถาบันพัฒนานักกฎหมายและสิทธิมนุษยชน ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
ประณามการใช้ความรุนแรงข่มขู่คุกคามทำร้ายชาวบ้านนักต่อสู้
เพื่อสิ่งแวดล้อม “กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิด” จ.เลย
เผยแพร่วันที่ 16 พฤษภาคม 2557
ตามที่ปรากฏรายงานข่าวว่าเมื่อช่วงกลางดึกคืนวันที่ 15 พฤษภาคม 2557 ต่อเนื่องจนถึงเช้ามืดวันที่ 16 พฤษภาคม มีกลุ่มชายฉกรรจ์ปิดคลุมใบหน้าจำนวนประมาณ 100 กว่าคนพร้อมอาวุธปืนและไม้ บุกเข้าใช้กำลังควบคุมตัวและทำร้ายชาวบ้าน “กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิด” ที่กำลังเฝ้าเวรยามดูแลไม่ให้รถบรรทุกใช้เส้นทางหมู่บ้านเข้าไปขนแร่จากเหมืองแร่ทองคำ บ้านนาหนองบง ตำบลเขาหลวง อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย เป็นเหตุให้ชาวบ้านได้รับบาดเจ็บต้องเข้าโรงพยาบาลอย่างน้อย 7 คน และบาดเจ็บเล็กน้อยอีกไม่ต่ำกว่า 20 คน โดยมีรายงานเบื้องต้นว่าชายฉกรรจ์กลุ่มดังกล่าวได้เข้าปิดล้อมจับชาวบ้านบางส่วนมัดมือ คว่ำหน้า ทำร้ายร่างกาย ใช้ปืนยิงข่มขู่ และขัดขวางไม่ให้มีการนำตัวชาวบ้านที่บาดเจ็บสาหัสส่งโรงพยาบาล ทั้งนี้ เพื่อให้สามารถเข้าไปดำเนินการขนแร่ออกมาจากเหมืองแร่ทองคำได้ ดังปรากฏข้อเท็จจริงในเวลาต่อมาว่ามีการใช้รถบรรทุกขนแร่ออกไปจากพื้นที่จำนวนหลายคันรถนั้น
มูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม (EnLAW) และองค์กรดังมีรายชื่อข้างท้าย ขอประณามการใช้กำลังและความรุนแรงข่มขู่คุกคามทำร้ายชาวบ้าน “กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิด” นี้อย่างถึงที่สุด โดยถือเป็นการกระทำที่ไม่เคารพยำเกรงต่อกฎหมายของบ้านเมือง เป็นการละเมิดสิทธิในชีวิตร่างกายและเสรีภาพของประชาชนอันเป็นสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง และเป็นการข่มขู่คุกคามชาวบ้านในฐานะนักปกป้องสิทธิมนุษยชน (Human Rights Defenders) ที่ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อปกป้องสิทธิในสิ่งแวดล้อมทรัพยากรธรรมชาติ สุขภาพและวิถีชีวิตของชุมชน
เพื่อสร้างบรรทัดฐานที่ถูกต้องในสังคมไทยและเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก มูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม (EnLAW) และองค์กรดังมีรายชื่อข้างท้าย จึงมีข้อเรียกร้องดังนี้
1. ให้ตำรวจและหน่วยงานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เร่งดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินคดีและนำตัวผู้กระทำความผิดและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องมาดำเนินการลงโทษตามกฎหมายให้ถึงที่สุด
2. ให้หน่วยงานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าดำเนินการเยียวยาความเสียหายแก่ชาวบ้านผู้ได้รับความเสียหายโดยเร็ว
3. ให้ตำรวจและหน่วยงานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกำหนดมาตรการเพื่อคุ้มครองความปลอดภัยของชุมชนและป้องปรามไม่ให้เกิดเหตุการณ์ข่มขู่คุกคามและละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนโดยไม่ยำเกรงต่อกฎหมายเช่นนี้ซ้ำอีก
4. ให้รัฐบาลและหน่วยงานด้านการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวข้องกำหนดให้มีกลไกมาตรการการคุ้มครองนักปกป้องสิทธิมนุษยชน (Human Rights Defenders) อย่างเป็นระบบ
ด้วยความเคารพต่อสิทธิชุมชนและสิ่งแวดล้อม
มูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม (EnLAW)
สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน (HRLA)
สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน
มูลนิธิผสานวัฒนธรรม (CrCF)
ศูนย์พิทักษ์และฟื้นฟูสิทธิชุมชนท้องถิ่น
ศูนย์ข้อมูลชุมชน (CRC)
มูลนิธิบูรณะนิเวศ (EARTH)
กรีนพีซเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (GreenPeace SEA)
สถาบันพัฒนานักกฎหมายและสิทธิมนุษยชน
แถลงการณ์ขอประณามพฤติกรรมป่าเถื่อนของบริษัทเหมืองทอง จ.เลย ผู้ว่าฯ ต้องคุ้มครองนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน
เมื่อกลางดึก (เวลาประมาณ 22.00 น.- 05.00 น.) ของวันที่ 15 พ.ค. 2557 มีกลุ่มชายฉกรรจ์คลุมผ้าปกปิดใบหน้านับร้อยคน พร้อมอาวุธครบมือ บุกทำร้ายชาวบ้านที่เป็นอาสาสมัครเฝ้าป้อมยามหน้าหมู่บ้าน ซึ่งเป็นจุดที่ใช้ดูแลกำแพงที่สร้างขวางรถบรรทุกที่ผ่านกลางหมู่บ้านเข้าไปในเหมืองแร่ทองคำ จ.เลย โดยกลุ่มชายฉกรรจ์ได้เข้ารื้อกำแพงและมีการยิงปืนขึ้นฟ้าข่มขู่เป็นระยะๆ พร้อมทั้งจับตัวแกนนำชาวบ้านกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดไป จนมีผู้ได้บาดเจ็บสาหัส 3 ราย บาดเจ็บเล็กน้อย 30 ราย ทั้งนี้กลุ่มชายฉกรรจ์ได้มีพฤติกรรม เตะ ทุบตี รุมซ้อม จนบางคนหัวแตก ฟกช้ำ มีบางคนถูกกดหน้าลงพื้นแล้วเหยียบ ซึ่งเป็นการกระทำที่โหดร้าย ป่าเถื่อนรุนแรง และเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง
จากการกระทำดังกล่าวกลุ่มชาวบ้านจึงได้ไปแจ้งความที่ สภ.อ วังสะพุง จ.เลย แต่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาสังเกตการณ์เพียง 2 นาย และหนำซ้ำตำรวจไม่ได้ห้ามปรามให้กลุ่มชายฉกรรจ์หยุดพฤติกรรมดังกล่าวแต่อย่างใด แต่กลับเพิกเฉยโดยอ้างว่าเข้าพื้นที่ไม่ได้และต้องรอให้สว่างเสียก่อนเพื่อความปลอดภัยของทุกคน
จากสภาพปัญหาความขัดแย้งที่ผ่านมาระหว่างชาวบ้านและบริษัทฯ ที่ทำเหมืองทองคำในพื้นที่ ยังไม่ได้รับการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม กลุ่มชาวบ้านพยายามปกป้องชุมชนตามสิทธิในรัฐธรรมนูญ มาตรา 66 และ67 อย่างโดดเดี่ยว ในขณะที่กลุ่มทุนพยายามดึงดันที่จะดำเนินการทำเหมือง โดยได้ว่าจ้างกลุ่มชายฉกรรจ์ที่มีนายทหารนอกราชการมาบงการ และกระทำการรุนแรงดังกล่าว ดังนั้นเราเห็นว่าในเขตพื้นที่ขอประทานบัตรเหมืองทองคำ อ.วังสะพุง จ.เลย เป็นพื้นที่เสี่ยงที่จะเกิดการใช้ความรุนแรงมากกว่านี้ จนอาจจะมีการล้มตายหรือทำให้หายตัวไปของชาวบ้านผู้ปกป้องสิทธิมนุษยชนได้ในอนาคต จึงมีข้อเรียกร้องดังนี้
1. ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเลยกำกับดูแลเจ้าหน้าที่รัฐทุกภาคส่วน ให้ปฏิบัติงานตามหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา แก้ไขปัญหาที่เป็นสาเหตุ เร่งหาผู้กระทำความผิดมาลงโทษ และปกป้องคุ้มครองนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน
2. ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งดำเนินการสอบสวนหาผู้กระทำความผิด และดำเนินการตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด
3. ขอให้รัฐบาลและองค์กรหน่วยงานที่ทำงานด้านสิทธิมนุษยชนร่วมมือกันติดตามปัญหาพื้นที่เหมืองทองคำ จ.เลย และร่วมกันวางมาตรการคุ้มครองพื้นที่เพื่อเป็นการปกป้องคุ้มครองนักสิทธิมนุษยชน (Human Rights Defenders)
ด้วยจิตคารวะ
นายสันติภาพ ศิริวัฒนไพบูลย์ อาจารย์โปรแกรมวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี
ชมรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี
ศูนย์ข้อมูลชุมชน(CRC)
ศูนย์กฎหมายสิทธิมนุษยชนเพื่อสังคม
เครือข่ายประชาชนผู้เป็นเจ้าของทรัพยากรแร่ประเทศไทย
กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี
ศูนย์ข้อมูลสิทธิมนุษยชนและสันติภาพอีสาน (ศศส.)
ศูนย์สื่อชุมชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ศสธ.)
คณะกรรมการประสานงานองค์พัฒนาเอกชน ภาคอีสาน(กป.อพช.)
กลุ่มอนุรักษ์และฟื้นฟูลุ่มน้ำลำพะเนียง จ.หนองบัวลำภู
ศูนย์พิทักษ์สิทธิการจัดการทรัพยากรลุ่มน้ำชี ตอนล่าง
กลุ่มชาวบ้านอนุรักษ์และฟื้นฟูลุ่มน้ำชีตอนล่าง
Protection International (PI) ประเทศไทย
ชมรมนักศึกษาเพื่อการพัฒนา มหาวิทยาลัยขอนแก่น
กลุ่มลุ่มน้ำโขงศึกษา
ติดตามความเคลื่อนไหวของ ประชาไท ทางอีเมล คลิกอ่าน http://goo.gl/8xIcV หรือเฟซบุ๊ค http://fb.me/Prachatai