กลางดึกคืนนี้เกิดเหตุชายฉกรรจ์อำพรางใบหน้า-อาวุธครบมือนับร้อย เข้าพื้นที่บ้านนาหนองบง จ.เลย ปิดล้อมจุดตรวจชุมชนและควบคุมตัวแกนนำต่อต้านเหมืองทอง ทำลายแนวกั้นของชุมชนเพื่อใช้รถบรรทุกขนแร่ออกจากพื้นที่กลางดึก มีรายงานเสียงปืนดังขึ้นเป็นระยะ ตะลุมบอนชาวบ้านบาดเจ็บเพียบ
ภาพกลุ่มชายฉกรรจ์ที่บุกเข้าชาร์จยามและรื้อกำแพง
16 พ.ค. 2557 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์เมื่อเวลา 05.00 น.จากในพื้นที่บ้านนาหนองบง ต.เขาหลวง อ.วังสะพุง จ.เลย ว่า ตั้งแต่ 22.00 น.ที่ผ่านมา ชายชุดดำติ
เวลา 3.45 น. มีรายงานว่า ชาวบ้านที่ถูกจับกุมไว้บางส่วนถูกปล่อยตัวแล้ว โดยชาวบ้านได้สำรวจพบว่ามีอี
ชาวบ้านที่ถูกปล่อยตัวออกมาเล่
เวลา 4.30 น. ชาวบ้านได้รับการปล่อยตัว ชายฉกรรจ์สลายตัวออกจากพื้นที่
สรุปยอดคนเจ็บไปโรงพยาบาลอย่
ทั้งนี้ ในระหว่างเกิดเหตุ ชาวบ้านโทรแจ้งตำรวจเพื่
ผู้บาดเจ็บจากการถูกควบคุมตั
จากกรณีเมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 15 พ.ค. 2557 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดเขาหลวง จ.เลย ว่าเกิดเหตุที่บ้านนาหนองบง ต.เขาหลวง อ.วังสะพุง จ.เลย มีกลุ่มชายฉกรรจ์คลุมผ้าปกปิดใบหน้านับร้อยคน พร้อมอาวุธคือท่อไม้ บุกเข้าชาร์จชาวบ้านซึ่งเป็นยามอาสาเฝ้าบริเวณป้อมยามหมู่บ้าน หรือ ‘กำแพงใจ’ ทั้ง 3 จุด ซึ่งเป็นจุดที่ใช้ดูแลกำแพงที่สำหรับขวางรถบรรทุกที่จะผ่านหมู่บ้านเพื่อเข้าเหมืองแร่ทองคำ
กลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวเข้ารือกำแพงและมีการยิงปืนขึ้นฟ้าเป็นระยะ พร้อมทั้งจับตัวนายสุรพันธ์ รุจิไชยวัฒน์ และนายสมัย ภักมี ซึ่งเป็นแกนนำชาวบ้านกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดไว้ด้วย
ต่อมาเมื่อเวลา 01.30 น.(16 พ.ค.) นางวิรอน รุจิไชยวัฒน์ อายุ 43 ปี แกนนำชาวบ้าน เล่าว่า ขณะนี้ยังมีการตะลุมบอนกันอยู่ระหว่างชาวบ้านกับกลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าว ซึ่งจุดที่เธออยู่มีกลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวประมาณ 50 คน โดยมีการใช้ไม้และยิงปืนขู่ และจับชาวบ้านไปด้วย พร้อมทั้งมีการนำรถบรรทุกขนแร่ออกไปแล้ว 3-4 คัน
นางวิรอน กล่าวด้วยว่า ได้แจ้งตำรวจและนายอำเภอ ตั้งแต่เกิดเหตุเวลา 22.00 น. ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีเจ้าหน้าที่เข้ามาดูแลในพื้นที่เกิดเหตุเลย
เมื่อเวลา 02.00 น. ของวันที่ 16 พ.ค. 2557 นักข่าวพลเมืองไทยพีบีเอส รายงานด้วยว่าภายในชุมชนมีเสียงปืนดังเป็นระยะ มีชาวบ้านได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย ได้นำส่งโรงพยาบาลไม่ได้เนื่องจากถูกชายฉกรรจ์ปิดล้อม ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามเข้าพื้นที่ แต่ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์อีกกลุ่มขวางไว้
เวลา 02.00 น. ยังมีเสียงปืนดังเป็นระยะๆ มีชาวบ้านได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย นำส่ง รพ.ไม่ได้ เนื่องจากหมู่บ้านถูกล้อมโดยกลุ่มชายฉกรรจ์
— นักข่าวพลเมือง (@CitizenTHAIPBS) 15 พฤษภาคม 2014
ทั้งนี้ในพื้นที่ดังกล่าวข้อพิพาทระหว่างกลุ่มชาวบ้านในพื้นที่กับบริษัท ทุ่งคำ จำกัด ซึ่งเป็นผู้รับสัมปทานทำเหมืองแร่ทองคำดังกล่าว โดยชาวบ้านได้สร้างกำแพงขึ้นมาขวางทางรถบรรทุกหลังจากที่ชาวบ้าน 6 หมู่บ้านใน ต.เขาหลวง ทำประชาคมหมู่บ้านเมื่อวันที่ 6 ก.ย.56 และได้มี ‘ระเบียบชุมชนว่าด้วยการใช้ถนนชุมชนและการควบคุมน้ำหนักบรรทุก’ ซึ่งมีข้อห้ามที่ตกลงกันว่า ห้ามรถบรรทุกหนักเกิน 15 ตัน และการขนสารเคมีอันตรายเข้ามาในชุมชน เพื่อป้องกันสุขภาพและความปลอดภัยของคนในชุมชน และหลังจากออกระเบียบชุมชนดังกล่าวชาวบ้านจึงร่วมกันสร้างแนวกำแพงเพื่อป้องกันไม่ให้รถบรรทุกผ่านทางสาธารณะบริเวณสี่แยกที่ตัดกับทางเข้าเหมือง
หลังจากนั้น บริษัท ทุ่งคำ จำกัด แจ้งความดำเนินคดีกับแกนนำกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดจำนวน 14 คน ว่าการสร้างกำแพงของชาวบ้านทำให้เกิดความเสียหายต่อการประกอบการของบริษัทฯ โดยเรียกร้องค่าเสียหายเป็นเงิน 10 ล้านบาทต่อวัน อย่างไรก็ตาม คดีความดังกล่าวยังอยู่ในชั้นศาล
ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนเมษายน พล.ท.ปรเมษฐ์ ป้อมนาค พร้อมผู้ติดตามเข้ามาเจรจากับนายสุรพันธ์ รุจิไชยวัฒน์ แกนนำกลุ่ม "ฅนรักษ์บ้านเกิด"อ้างว่าเป็นตัวแทนของนายธนาวุธ ทิมสุวรรณ นายก อบจ.เลยผู้ซื้อแร่ทองแดงจากบริษัท ทุ่งคำ จำกัด ระบุว่ามีการทำสัญญาซื้อ-ขายกันแล้ว และได้ขอใบอนุญาตขนแร่แล้ว แต่ไม่สามารถขนแร่ออกจากเหมืองได้ เนื่องจากการคัดค้านของกลุ่มคนรักษ์บ้านเกิดและประชาชนในพื้นที่ และมีระเบียบชุมชนห้ามรถบรรทุกน้ำหนักเกิน 15 ตันใช้ทาง นอกจากนี้ชาวบ้านยังทำกำแพงคอนกรีตกั้นถนนสาธารณะภายในชุมชนด้วย
อย่างไรก็ตามการเจรจาเมื่อเดือนเมษายน แกนนำชาวบ้านไม่สามารถตกลงได้ โดยนายสุรพันธ์กล่าวว่าการเจรจาจะเกิดขึ้นได้จะต้องมีการประชุมชาวบ้านกลุ่ม "ฅนรักษ์บ้านเกิด"ทั้ง 6 หมู่บ้านก่อน เนื่องจากการตัดสินใจทั้งหมดจะผ่านที่ประชุม และเป็นมติของที่ประชุม (อ่านข่าวก่อนหน้านี้)
ทั้งนี้ภายหลังเหตุการณ์เมื่อเดือนเมษายนดังกล่าว ทำให้ชาวบ้านมีความกังวลเรื่องความปลอดภัย จึงมีการทำหนังสือร้องเรียนคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติให้สอบสวนการละเมิดสิทธิที่เกิดขึ้น ขอให้ผู้บัญชาการทหารบกสอบวินัยกลุ่มนายทหารดังกล่าว ให้ ผบ.ตร.สอบสวนการปฏิบัติงานของตำรวจในท้องที่ และขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอสอบสวนการซื้อ-ขาย-ขนแร่ และดำเนินการด้านความปลอดภัยของแกนนำชาวบ้านเป็นคดีพิเศษด้วย