ชวนนท์เรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหา เงินจำนำข้าว-ภัยแล้ง-แผ่นดินไหว-ความไม่สงบภาคใต้ และเรียกร้องให้ 'นิวัฒน์ธำรง'เสียสละ เชื่อจะมีช่วง '3 วันอันตราย'ที่คนซีกรัฐบาลจะนำกองกำลังต่างชาติ-และกองกำลังปทุมธานี-สมุทรปราการ ก่อเหตุลอบสังหารแกนนำ กปปส. และฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล
ชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ที่มา: แฟ้มภาพ/พรรคประชาธิปัตย์)
14 พ.ค. 2557 - เว็บไซต์พรรคประชาธิปัตย์รายงานวานนี้ (13 พ.ค.) ว่านายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าปัญหาบ้านเมืองวันนี้ไม่สามารถหาทางออกได้ หากรัฐบาลมุ่งแต่แสวงหาทางเข้าสู่อำนาจ โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบและข้อเรียกร้องประชาชน บ้านเมืองก็เดินห่างจากคำว่าปรองดองเรื่อยๆ โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยมักอ้างกฎหมายเฉพาะที่ตนได้เปรียบ แต่หากไม่ได้ประโยชน์ก็จะเดินเกมดิสเครดิตศาล เพราะพรรคเพื่อไทยเห็นกฎหมายเป็นเพียงเครื่องมืออำนวยความสะดวกเพื่อแสวงหาประโยชน์เท่านั้น แต่สถานการณ์บ้านเมืองวันนี้ต้องการการเสียสละของทุกฝ่าย ไม่ใช่สถานการณ์ที่จะมาใช้ช่องว่างกฎหมายสร้างความชอบธรรมให้ตัวเอง
นอกจากนี้ โฆษกพรรคยังได้กล่าว เรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหา หนึ่ง โครงการจำนำข้าวที่ยังมีชาวนาไม่ได้รับเงินอีกประมาณ 9 หมื่นล้านบาท สอง ปัญหาภัยแล้งเพราะน้ำฝนน้อยกว่าปกติ สาม เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ภาคเหนือซึ่งเป็นฐานเสียงของพรรคเพื่อไทย แต่มีการร้องเรียนมายังนายอัศวิน วิภูศิริ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ว่าไม่ได้รับความช่วยเหลือจากภาครัฐเลย ซึ่งพรรคจะจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูรวมถึงทีมบรรเทาด้านจิตวิทยาลงพื้นทีด้วย และ สี่ เหตุไม่สงบในภาคใต้ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉพาะเดือนเมษายนมีผู้เสียชีวิตกว่า 20 คน สืบเนื่องจากที่รัฐบาลตั้ง พล.ท.ภราภร พัฒนถาบุตร เป็นเลขาสมช. โดยมุ่งแต่เรื่องการตลาด และเมื่อนายถวิล เปลี่ยนศรี กลับมาเป็นเลขา สมช.ก็ถูกตัดอำนาจทำให้ไม่สามารถเข้าถึงการทำงานด้านความมั่นคงอย่างแท้จริง
จึงเรียกร้องให้นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รักษาการแทนนายกรัฐมนตรี ต้องเสียสละเพื่อลดความขัดแย้ง ให้มีการเดินหน้าปฏิรูป แล้วให้มีการเลือกตั้งที่ทุกฝ่ายยอมรับ
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าววิเคราะห์สถานภาพของรัฐบาลในขณะนี้ว่า อยู่ในภาวะจนแต้มทางการเมือง เพราะไม่มีทางออก เนื่องจากคนเสื้อแดงน้อยกว่าเป้าหมายกว่าสิบเท่า ได้รับรายงานว่าการชุมนุมที่ถนนอักษะแทบไม่เหลือคนแล้ว มีการเบี้ยวเงินการชุมนุม แต่สิ่งที่น่ากังวลคือข้อมูลจากฝ่ายความมั่นคงยืนยันว่า มีชายชุดดำกลับเข้ามา กองกำลังปทุมธานีมีการรวมตัวมาปฏิบัติการใน กทม. ลาดกระบังรับอาวุธที่ราชบุรีมาจัดการกับกลุ่ม กปปส. และยังมีกลุ่มสมุทรปราการ ประจำการบางส่วนอยู่ที่พุทธมณฑล ภายใต้การบัญชาการของนักการเมืองใหญ่ในรัฐบาล และยังมีการนำกองกำลังจากประเทศเพื่อนบ้านนำโดยแกนนำเสื้อแดงจากอุดรธานีเข้า กทม. เพื่อก่อเหตุในช่วง 3 วันอันตราย มีเป้าหมายสังหารแกนนำ กปปส.และฝ่ายตรงข้าม
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์อ้างด้วยว่า นอกจากนี้กองกำลังดังกล่าวยังประสานกับตำรวจที่รับใช้การเมืองด้วย หากรัฐบาลเดินหน้าเช่นนี้คิดผิดเพราะประชาชนก้าวข้ามความหวาดกลัวไปแล้ว จึงขอเตือนว่าให้เสียสละไม่เช่นนั้นจะเป็นรัฐบาลทรราชย์อย่างสมบูรณ์ จากการใช้กองกำลังนอกรูปแบบ