พบกับ ‘หมายเหตุประเพทไทย’ กับ ‘คำ ผกา’ และ ‘อรรถ บุนนาค’ สัปดาห์นี้คุยกันถึงส่วนเล็กๆ ของร่างกายมนุษย์ที่มีเรื่องราวไม่เล็ก ที่เรียกว่า ‘ขน’ ซึ่งมีความสำคัญตลอดมาในหน้าประวัติศาสตร์และอารยธรรมของมนุษยชาติ
ขนของมนุษย์ นับตั้งแต่ ผม คิ้ว หนวด เครา ขนหน้าอก ขนแขน ขา หรือกระทั่งขนที่บริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ ล้วนแต่ถูกให้ความสำคัญ หรือถูกกำหนดความหมายในลักษณะที่เลื่อนไหลไปตามบริบทและพัฒนาการทางสังคม ในแต่ละยุคสมัยจะมีค่านิยม หรือบรรทัดฐานเกี่ยวกับการจัดการทรงผมและขนในบริเวณต่างๆ ที่ต่างกัน
ในยุคอียิปต์โบราณ การโกนผมและหนวดเคราของผู้ชาย เป็นการแสดงออกถึงความมีอารยะ, ในเปอร์เซีย การไว้ผมและหนวดเคราของผู้ชายแสดงถึงความเป็นชายและความน่าเกรงขาม, โรมันในยุดอเล็กซานเดอร์มหาราช นักรบนิยมการตัดผมสั้นและโกนหนวดเครา หรือนักบวชในบางศาสนาของอินเดียต้องโกนผม ซึ่งเป็นเครื่องหมายและการแสดงออกถึงการตัดขาดจากกิเลส ในส่วนของผู้หญิง ขน ได้ถูกเชื่อมโยงเข้ากับแรงดึงดูดทางเพศอีกด้วย เช่น ทรงผม ขนแขน ขนรักแร้ ขนบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ นอกจากนี้ การไว้ผมและหนวดเคราของฮิปปี้ในยุคบุปฝาชน ยังเป็นการแสดงออกถึงการต่อต้านค่านิยมและระเบียบสังคมของยุคนั้น และแสดงออกถึงความต้องการแสวงหาทางเลือกใหม่ในการใช้ชีวิตอีกด้วย