กสท.ลงมติ 3:2 ออกหนังสือเชิญชวน แทนประกาศคัดเลือกทีวีดิจิตอลช่องสาธารณะ ด้าน 'สุภิญญา'ชี้กำหนดคุณสมบัติกว้างไป ไร้หลักเกณฑ์คัดเลือก ไม่มีตัวชี้วัด เตรียมรวบรวมความเห็นนักวิชาการ เสนอบอร์ด 29 เม.ย.นี้
วันนี้ (22 เม.ย.56) ที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธาน กสทช.และประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม กสท. ได้มีการพิจารณาข้อเสนอจากสภาวิชาชีพและโทรทัศน์ สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และเวทีรับฟังความคิดเห็นภาคสาธารณะ ที่ขอให้เลื่อนกรอบเวลาในกระบวนการยื่นขอใบอนุญาตทีวีดิจิตอลช่องสาธารณะจำนวน 12 ช่อง โดยผู้ร้องได้ตั้งข้อสงสัยถึงเกณฑ์การพิจารณาผู้ยื่นขอช่องรายการ ซึ่งจะใช้วิธีการพิจารณาตามความเหมาะสม พร้อมขอให้มีการนำเกณฑ์ดังกล่าวไปทำการประชาพิจารณ์
โดยที่ประชุม กสท. มีมติเห็นชอบแนวทางของสำนักงาน กสทช.ออกประกาศเชิญชวนหรือ ไอเอ็ม สำหรับให้ผู้สนใจยื่นใบอนุญาตทีวีดิจิตอลเพื่อบริการสาธารณะเข้ามายื่นขอรับใบอนุญาต แทนการออกหลักเกณฑ์หรือประกาศคัดเลือกผู้ที่มีสิทธิ์ได้รับการจัดสรรคลื่นความถี่เพื่อให้บริการสาธารณะ เนื่องจาก กสท. มีประกาศ กสทช.เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตการให้บริการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ พ.ศ.2555 ที่ครบถ้วนเพียงพอ อาทิ กระบวนการ กรอบแนวทาง การจัดสรรนโยบาย คุณสมบัติผู้ขอรับใบอนุญาต ลักษณะผังรายการ และการหารายได้ จึงไม่ต้องออกกฎ กติกาใหม่
สำหรับหนังสือเชิญชวนคาดว่าจะใช้ระยะเวลาประมาณ 2 เดือนเพื่อเปิดให้ประชาชน หรือภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ร่วมแสดงความคิดเห็น ในขณะเดียวกันหนังสือเชิญชวนดังกล่าว จะระบุประกาศทั้งหมดของ กสท. รายละเอียดของบริการและช่องรายการ แต่ละประเภทที่มีความแตกต่างกันออกไป แต่จะไม่ส่งผลกระทบต่อกรอบระยะเวลาในการให้ใบอนุญาตทีวีดิจิตอลช่องสาธารณะช่วงเดือน พ.ค.-มิ.ย. 56
นอกจากนี้แล้ว กสท.ยังได้มีประกาศ กสทช.เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการขอรับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับการให้บริการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอล พ.ศ.2556 ที่ได้กำหนดกรอบระยะเวลา แนวทางและระยะเวลาการพิจารณาใบอนุญาต โดยพิจารณาข้อมูล เอกสารหลักฐานการยื่นคำขอตาม พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551 ที่กำหนดให้บริการสาธารณะต้องคำนึงกฎหมายที่จำเป็นเพื่อการให้บริการสาธารณะให้กับภาครัฐ
ด้าน สุภิญญา กลางณรงค์ กสทช.และ กสท.ด้านคุ้มครองผู้บริโภค เปิดเผยถึงกรณีมติบอร์ดดังกล่าวว่า วันนี้มติ 3:2 ส่วนตัวมองว่าแม้ กสท.จะมีประกาศออกมารองรับ แต่เป็นการกำหนดคุณสมบัติกว้างเกินไป ไม่มีความชัดเจนของเกณฑ์การคัดเลือกคุณสมบัติ ทั้งนี้ หากมีผู้ประกอบการเข้ามาขอยื่นมากกว่าที่กำหนด กสท. จะใช้เกณฑ์อะไรตัดสิน โดยเบื้องต้นเตรียมจะนำเอาความคิดเห็นนักวิชาการที่จะมีการจัดสัมมนาเรื่อง ทีวีดิจิตอล จุดเปลี่ยนประเทศไทย ตอน ทีวีดิจิตอลสาธารณะ กลับเข้ามาเสนอที่ประชุมในวันจันทร์ที่ 29 เม.ย.56 อีกครั้ง
สุภิญญา กล่าวว่า สำหรับบอร์ด กสท.ให้มีการออกหนังสือเชิญชวนนั้น มองคล้ายกับประกาศรับสมัครงาน หรือจัดสัมมนาของระดับสำนักงาน ไม่ใช่การออกประกาศเพื่อจะนำไปสู่การมีผลบังคับทางปกครอง ซึ่งการคัดเลือกการให้คะแนนต่างๆ ไม่มีตัวชี้วัดใดๆ จึงมองเป็นการลดระดับฐานะการจัดสรรคลื่นความถี่
ที่มา:เดลินิวส์และมติชนออนไลน์