"สมชาย ลิขิตวรสิริ"แกนนำ กปปส.โคราช สวมเสื้อเหลืองพิมพ์รูปสุเทพ ถูกชาวเดนมาร์กสวมเสื้อแดงชี้หน้าด่าว่าทำลายประชาธิปไตย จึงฟ้องกลับด้วย ม.112 หาว่าชาวเดนมาร์กชี้สร้อยล็อกเก็ตรูปในหลวง ขณะที่ชาวเดนมาร์กยืนยันว่าชี้ไปที่รูปสุเทพ ด้านตำรวจจะฟ้องข้อหาดูหมิ่นซึ่งหน้า ส่วนข้อหาหมิ่น จะรวบรวมหลักฐานเพื่อสอบถามอัยการก่อน
1 พ.ค. 2557 - คดีฟ้องร้องกันด้วยมาตรา 112 ตามประมวลกฎหมายอาญานั้น ล่าสุดหนังสือพิมพ์ข่าวสด รายงานวันนี้ (1 พ.ค.) ว่า ที่ สภ.เมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา พ.ต.ท.เอกราช อาจมนตรี พนักงานสอบสวนเวรเจ้าของคดีสอบปากคำนายสมชาย ลิขิตวรสิริ หรือ "ชัย กองเมือง"แกนนำกลุ่ม กปปส.โคราช อายุ 56 ปี ภูมิลำเนาอยู่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ผู้กล่าวหา นายแยน น็อคแคนเฮ้าท์ เยอเคนเซน อายุ 47 ปี ชาวเดนมาร์ก มีถิ่นพำนักอยู่ที่ ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น ว่าหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ
ทั้งนี้นายสมชาย กล่าวหานายแยนว่า เมื่อวันที่ 16 มี.ค. ที่ผ่านมา ได้แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมเนื่องจากชี้รูปล็อกเก็ตสร้อยคอที่เขาสวมใส่ ซึ่งเป็นภาพบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 9 พร้อมส่งเสียงอาเจียน และยังด่าแม่ของเขา ทำให้มีปากเสียง ทะเลาะวิวาท แต่ไม่ถึงขั้นใช้กำลังทำร้าย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ ได้แจ้งข้อกล่าวหานายแยนว่าดูหมิ่นผู้อื่นซึ่งหน้า
อย่างไรก็ตามเกิดเหตุชุลมุน โดย ข่าวสด รายงานว่า ในวันที่มีการสอบปากคำ นายแยน ผู้ถูกกล่าวหา และหญิงสาวชาวไทย อายุประมาณ 30 ปี ระบุว่าเป็นภรรยานายแยนและทำหน้าที่เป็นล่าม ได้มานั่งรอก่อนแล้ว จากนั้นนายสมชายได้ตามเข้ามาภายหลัง และพามวลชน กปปส.โคราช นับสิบคนมาที่โต๊ะพนักงานสอบสวน โดยอ้างมาให้กำลังใจ และมาดูหน้าชาวต่างชาติที่บังอาจหมิ่นเบื้องสูง
ทำให้ต่อมาคู่กรณีได้ส่งเสียงด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคายดังลั่นห้อง และมีหญิงสูงวัยฝั่ง กปปส. ใช้มือดันหน้าหญิงสาวที่มากับนายแยน ทำให้หวิดจะใช้กำลังกัน อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แยกคู่กรณีออกจากกัน
ทั้งนี้ พ.ต.ท.เอกราช ระบุว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค. แล้ว โดยนายสมชาย ผู้กล่าวหากำลังเดินเล่นอยู่หน้าเสาธง สภ.เมือง ได้เห็นนายแยนคู่กรณี ซึ่งเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนท้าย ได้เดินทางมาลงบันทึกประจำวันที่ สภ.เมือง เพื่อแจ้งบริษัทประกันภัย จากนั้น นายสมชาย เห็นนายแยนสวมเสื้อสีแดง จึงเดินเข้ามามอง ทำให้ทั้งสองมีปากเสียง ด่าทอ
เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหานายแยน ซึ่งได้ให้การภาคเสธ รับสารภาพไม่ได้แสดงความอาฆาต หรือไม่เคารพสถาบันแต่อย่างใด แต่ด่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ว่าเป็นผู้ที่ทำลายประชาธิปไตย เนื่องจากเสื้อยืดที่นายสมชายสวมใส่ในวันเกิดเหตุ มีภาพนายสุเทพ ติดอยู่บนเสื้อ และด่าทอนายสมชายด้วย จึงแจ้งข้อกล่าวหาดูหมิ่นซึ่งหน้า
ส่วนข้อกล่าวหาตามที่นายสมชาย ระบุว่านายแยนทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 นั้น เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยไม่มีประจักษ์พยาน รวมทั้งไม่มีใครพบเห็นเป็นข้อกล่าวหา เขาจึงออกหมายเรียกคู่กรณีมาสอบสวนเพิ่มเติมเป็นครั้งที่ 2 อย่างไรก็ตาม พฤติการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน เป็นข้อกล่าวอ้างถึงสถาบันเบื้องสูง การดำเนินการต้องเป็นไปตามพยาน หลักฐานที่ปรากฏ และให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ซึ่งจะได้สอบปากคำผู้เกี่ยวข้องตามที่คู่กรณีอ้างถึง พร้อมรวบรวมพยาน หลักฐาน ให้ได้มากที่สุด เพื่อนำเสนอต่ออัยการ จ.นครราชสีมา ให้ลงความเห็นจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
ด้านนายสมชาย กล่าวยืนยันว่า สิ่งที่ชาวต่างชาติกระทำการลงไป จะอ้างรู้เท่าไม่ถึงการณ์ไม่ได้ ในวันเกิดเหตุเขาสวมเสื้อสีเหลืองที่มีภาพนายสุเทพ ติดอยู่ด้านบน และสวมสร้อยล็อกเก็ตรูปในหลวง นายแยนมีกิริยาไม่สุภาพ ไม่เคารพ ดังนั้นยืนยันว่าจะดำเนินการให้ถึงที่สุด เพื่อมิให้คนอื่นเอาเป็นเยี่ยงอย่าง
ด้านนายแยน ผู้ถูกกล่าวหา ได้พูดผ่านล่าม ซึ่งเป็นภรรยาชาวไทยว่า เขามีความจงรักภักดี ในหลวง ที่บ้านก็มีภาพพระองค์ติดอยู่ ไม่เข้าใจทำไมคนไทยบางคน แสดงความไม่พอใจคนสวมเสื้อสีแดง เมื่อเห็นเขาสวมเสื้อสีแดงก็เดินมามองลักษณะหาเรื่อง จึงเกิดปัญหาบานปลายดังกล่าว
นายสมชาย ลิขิตวรสิริ ถ่ายรูปคู่กับป้ายรณรงค์โหวตโน ช่วงการเลือกตั้งทั่วไปปี 2554 (แฟ้มภาพ/เอเอสทีวีผู้จัดการ)
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวประชาไท รายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับนายสมชาย เป็นแกนนำ กปปส. ในจังหวัด เดิมเคลื่อนไหวกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) และกลุ่มนักรบเมืองย่า โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. 2554 ในการเลือกตั้งทั่วไปปี 2554 ได้รณรงค์โหวตโน แล้วถูกคนร้ายใช้ก้อนหินปาเข้าใส่บ้านของเขาซึ่งเปิดเป็นโรงเรียนสอนขับรถย่าน ถ.สรรพสิทธิ์ ใน อ.เมือง จ.นครราชสีมา โดยทำให้กระจกประตูด้านหน้าบ้านแตกเสียหาย