Quantcast
Channel: พันศักดิ์ วิญญรัตน์
Viewing all articles
Browse latest Browse all 14385

ศาลรธน.เกาหลีใต้ ฟันคำสั่ง 'ปักจุงฮี'ละเมิดสิทธิเสรีภาพประชาชน

$
0
0

ศาลรัฐธรรมนูญเกาหลีใต้ออกคำวินิจฉัยครั้งประวัติศาสตร์ ชี้กฤษฎีกาของประธานาธิบดีปักจุงฮีเมื่อ 39 ปีก่อนขัดรัฐธรรมนูญ ปูทางสู่การลบล้างคำพิพากษาที่เคยตัดสินคดีการเมืองด้วยกฎหมายเผด็จการทั้งหมด

เมื่อวันพฤหัสบดี ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยด้วยเสียงเอกฉันท์ ว่า กฤษฎีกาฉุกเฉินของประธานาธิบดี ฉบับที่ 1, ฉบับที่ 2, และฉบับที่ 9 ซึ่งออกเมื่อปี 2517 และปี 2518 มีเนื้อหา "ไม่สอดคล้องกับหลักการพื้นฐานของประชาธิปไตย"

โดยศาลมีมติเอกฉันท์ 8-0 ระบุว่ากฤษฎีกาฉุกเฉินดังกล่าว "จำกัดสิทธิและละเมิดสิทธิพื้นฐานของประชาชนอย่างเกินเหตุ"
 
ปักจุงฮี บิดาของประธานาธิบดีเกาหลีใต้คนปัจจุบัน ปักกึนเฮ ได้ปกครองประเทศระหว่างปี 2504-2522 ก่อนที่เขาจะถูกลอบสังหาร
 
ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า กฤษฎีกาฉบับที่ 1 และที่ 2 ได้ "ห้ามวิจารณ์รัฐบาล"และ "ใช้อำนาจตุลาการในทางที่ผิด รวมทั้งละเมิดเสรีภาพในการแสดงออก และสิทธิทางการเมืองของพลเมือง"
 
คำวินิจฉัยครั้งประวัติศาสตร์นี้จะส่งผลให้บรรดาคำพิพากษาในอดีต ที่ได้ตัดสินคดีโดยใช้กฤษฎีกาซึ่งอาศัยอำนาจตามความในรัฐธรรมนูญยูชิน ปี 2515 เป็นโมฆะทั้งหมด
 
ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกคำวินิจฉัยดังกล่าวหลังจากอดีตนักโทษการเมือง โอจองซัง อายุ 71 ปี กับพวกอีก 5 คน ได้ยื่นคำร้องต่อศาลแห่งนี้เมื่อปี 2553
 
เมื่อปี 2517 โอได้ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานละเมิดกฤษฎีกาฉุกเฉินของประธานาธิบดี ฉบับที่ 1 และกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ เขาถูกซ้อมทรมานและถูกจำคุกเป็นเวลา 3 ปี ฐานวิพากษ์วิจารณ์ปักจุงฮีกับเด็กหญิงมัธยมบนรถบัส
 
ในปี 2550 โอได้ขอให้ศาลตัดสินคดีของเขาใหม่ตามคำแนะนำของคณะกรรมการแสวงหาความจริงเพื่อความสมานฉันท์ ต่อมาในปี 2553 ศาลฎีกาได้กลับคำพิพากษาดังกล่าว และประกาศให้เขาพ้นผิดในทุกข้อหา
 
ปักจุงฮีประกาศใช้รัฐธรรมนูญยูชินในปี 2515 เพื่อให้ตนสามารถครองอำนาจได้โดยไม่มีกำหนด เขาได้ออกกฤษฎีกาหลายฉบับ โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 53 ของรัฐธรรมนูญยูชิน ซึ่งเปิดทางให้เขาใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดต่างๆผ่านหน่วยงานรัฐ เช่น องค์การข่าวกรองกลางเกาหลี ในการปราบปรามสื่อมวลชนและพลเมือง
 
กฤษฎีกาฉุกเฉินของประธานาธิบดีฉบับที่ 1 ซึ่งออกในเดือนมกราคม 2517 ได้ห้ามมิให้ผู้ใดแสดงความเห็นคัดค้านรัฐธรรมนูญยูชิน และฉบับที่ 2 ได้อนุญาตให้คุมขังบุคคลที่ละเมิดกฤษฎีกาฉบับที่ 1 ได้โดยไม่ต้องมีหมายจับ และกำหนดโทษจำคุกสูงสุด 15 ปี
 
ในปี 2518 ปักจุงฮีได้ออกกฤษฎีกาฉบับที่ 9 สั่งห้ามการชุมนุมทางการเมืองทุกรูปแบบ เพื่อปราบปรามการประท้วงของนักศึกษา
 
ปักจุงฮีได้ทำรัฐประหารยึดอำนาจเมื่อปี 2504 แล้วเข้าปกครองประเทศในฐานะผู้นำทหาร จนกระทั่งได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีคนที่สามของเกาหลีใต้ในปี 2506 และอยู่ในตำแหน่งจนถึงปี 2522
 

 

ติดตามความเคลื่อนไหวของ ประชาไท ทางอีเมล คลิกอ่าน http://goo.gl/8xIcV หรือเฟซบุ๊ค http://fb.me/Prachatai

Viewing all articles
Browse latest Browse all 14385

Trending Articles