สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีเสนอ ผบ.ตร. ดำเนินการกับผู้กระทำผิดคดีหมิ่นสถาบันอย่างเด็ดขาด และไม่ให้มีการละเว้นฝ่ายใด จ่อเอาผิด "สุเทพ ประกาศรัฏฐาธิปัตย์ ผิด ม.112 ลั่น พร้อมล่า “โกตี๋” ทุกประเทศที่มีข้อตกลงส่งผู้ร้ายข้ามแดน
11 เม.ย. 2557 ไทยรัฐออนไลน์รายงานว่าที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.การต่างประเทศ ในฐานะประธานที่ปรึกษาศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) กล่าวถึงกรณี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ประกาศตนเป็นองค์รัฏฐาธิปัตย์ ว่า กรณีนายสุเทพถือเป็นการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพเหมือนกับ นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ "โกตี๋"ตนในฐานะประธานที่ปรึกษา ศอ.รส. จะต้องเร่งดำเนินคดีด้วย เพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ไม่เช่นนั้น ศอ.รส.อาจถูกกล่าวหาได้ว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ดังนั้น นายสุเทพจากเดิมที่มีข้อหากบฏอยู่แล้ว จึงจะเพิ่มความผิดในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพไปอีกหนึ่งข้อหา
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีคนเสื้อแดงติดป้ายแบ่งแยกดินแดนก่อนหน้านี้ มีความคืบหน้าอย่างไร นายสุรพงษ์ กล่าวว่า กรณีเสื้อแดงเป็นการประชดประชัน ที่มองว่าเขาไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงขึ้นไปติดป้าย โดยตำรวจได้ดำเนินการตามที่ทหารได้มาแจ้งความไว้ ซึ่งจะต้องติดตามจับกุมคนกระทำความผิดมาสอบสวนหาข้อเท็จจริง
เมื่อถามว่า ข้อหาของกลุ่มคนเสื้อแดงจะเหมือนข้อหากบฏของนายสุเทพ ที่ประกาศตั้งรัฏฐาธิปัตย์ หรือไม่ นายสุรพงษ์ กล่าวว่า นายสุเทพค่อนข้างจะชัดกว่า เพราะมีการประกาศบนเวทีปราศรัย แต่กลุ่มที่มาติดป้ายของคนเสื้อแดง ยังตามหาคนติดป้ายไม่ได้ และไม่รู้ว่าเป็นมือที่สามนำมาติดหรือไม่ จึงต้องสืบสวนหาข้อเท็จจริงกันต่อไป
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่นายสุเทพประกาศ จะเห็นว่า พรรคประชาธิปัตย์ทุกคนถอยหนีกันหมด เพราะเห็นว่าผิดจริง แม้นายสุเทพจะแก้เกี้ยวว่าเป็นการตั้งสมมติฐาน แต่ใครที่ฟังนายสุเทพพูด จะชัดเจนว่าไม่ได้เป็นการตั้งสมมติฐานเลย แต่พูดด้วยความจริงจังและน้ำตานองหน้า จะดีใจหรือเสียใจตนไม่ทราบ แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้สังคมกระจ่าง คือ นายสุเทพต้องการเป็นใหญ่ในแผ่นดิน
ส่วนกรณีกองทัพระบุว่า นายสุเทพยังไม่ได้ปฏิบัติจึงยังไม่มีความผิดนั้น ไม่จริง เพราะถือว่าประกาศชัดเจน แต่ไม่ว่าจะแก้ตัวอย่างไร จะต้องจับตัวนายสุเทพมาให้ได้เสียก่อน เนื่องจากมีความผิดชัดเจน นายสุเทพต้องรับในสิ่งที่ตนเองพูด เป็นลูกผู้ชาย พูดอะไรแล้วต้องรับ ถ้าไม่รับในสิ่งที่ตนเองพูดไม่ใช่ลูกผู้ชาย
เมื่อถามถึงความคืบหน้าในการจับกุมนายโกตี๋ หลังมีข่าวว่าออกนอกประเทศไปแล้ว นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ขณะนี้ตำรวจยังติดตามอยู่ เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องติดตามจับกุมให้ได้ ที่ผ่านมาได้กำชับมาโดยตลอด ซึ่งรวมถึง “นายตั้ง อาชีวะ” ด้วย หากมีหลักฐานชัดเจนต้องดำเนินการ เพราะนายกฯ กำชับแล้วว่าต้องจับกุมผู้กระทำความผิด ไม่ทำสองมาตรฐาน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กำชับว่าจะต้องดำเนินคดีไปถึงผู้สนับสนุนนายโกตี๋ด้วย นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ต้องหาข้อเท็จจริงทั้งหมด ใครกระทำความผิดต้องจับกุม บ้านเมืองมีกฎหมายทุกคนต้องเคารพ แต่กฎหมายต้องใช้ให้เกิดความเป็นธรรม อย่าใช้กฎหมายแบบสองมาตรฐาน อยากเห็นประเทศไทยเดินด้วยกระบวนการยุติธรรมจริงๆ
เมื่อถามว่า หากนายโกตี๋หนีออกนอกประเทศจะสามารถติดตามจับกุมได้หรือไม่ นายสุรพงษ์ กล่าวว่า จะต้องดำเนินการ โดยเราสามารถประสานกับประเทศ ที่มีข้อตกลงร่วมกันในเรื่องการส่งผู้ร้ายข้ามแดน เมื่อถามว่า หากหนีไปกัมพูชาจะสามารถจับกุมได้หรือไม่ นายสุรพงษ์ กล่าวว่า หากมีข้อตกลงร่วมกัน เรื่องการส่งผู้ร้ายข้ามแดนสามารถทำได้อยู่แล้ว แต่ตอนนี้ต้องติดตามว่า เขาหนีไปที่ไหนให้ได้ก่อน ซึ่งจะดำเนินการโดยเร่งด่วน
นายสุรพงษ์ กล่าวถึงการเรียกประชุมปลัดกระทรวง ในวันที่ 17 เม.ย.นี้ ว่า 5–6 เดือนที่ผ่านมา นายสุเทพไปปิดสถานที่ราชการ จนข้าราชการไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ฉะนั้น ถึงเวลาแล้วที่ข้าราชการจะต้องคิดได้ว่า สิ่งที่ กปปส.ทำนั้นมีจุดมุ่งหมายอะไร โดยเฉพาะการที่นายสุเทพประกาศรัฏฐาธิปัตย์ ดังนั้น วันที่ 17 เม.ย.นี้ จะเป็นการชี้แจงให้ข้าราชการเข้าใจ เพราะบางคนอาจจะยังไม่เข้าใจ จะได้เข้าใจในสิ่งที่นายสุเทพต้องการ โดยจะแกะเทปคำปราศรัยที่นายสุเทพพูด มาแจกให้ข้าราชการได้ฟัง สงกรานต์ถือว่าเป็นปีใหม่ของไทย อยากให้ข้าราชการทำหน้าที่ของตนเอง ให้ประเทศเดินหน้าไปได้ วันนี้จะปล่อยให้กลุ่มคนกลุ่มหนึ่งมาทำความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจและบ้านเมืองไม่ได้ การจะมาทำความเสียหายอย่างนี้ ต้องได้รับการประณาม
ประธานที่ปรึกษา ศอ.รส. กล่าวว่า ข้าราชการที่มาให้การต้อนรับนายสุเทพ หรือมาร่วมขึ้นเวทีปราศรัยก่อนหน้านี้ อาจจะมองได้ว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ เราให้อภัย แต่กรณีคนที่ชัดเจนจะแจ้งให้ทราบว่า การที่ไปชุมนุมนอกเวลาราชการรัฐบาลไม่เคยว่า แต่อย่าเอาเวลาราชการไปร่วมชุมนุม หรือมาสนับสนุนนายสุเทพและพวกจนออกนอกหน้า เพราะนายสุเทพและพวกไม่มีงาน เขามีเงินใช้จ่ายในการชุมนุมประท้วง แต่ข้าราชการทุกคนกินเงินเดือนและภาษีราษฎร ต้องมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตนเอง อยากให้ทุกคนที่คิดไม่ดีให้ทิ้งไปในปีใหม่ไทยนี้ ตอนนี้เราแย่ที่สุดในกลุ่มประเทศอาเซียนแล้ว อยากให้ช่วยกันสร้างประเทศให้กลับมาเหมือนเดิม หวังว่าข้าราชการจะเข้าใจในสิ่งที่ตนชี้แจง และข้าราชการคนไหนทำผิด ก็ต้องถูกลงโทษ
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า การเรียกมาตักเตือน จะเหมือนว่าเป็นการรังแกข้าราชการหรือไม่ นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ตนไม่เคยรังแก และไม่เคยก้าวล่วงข้าราชการ แต่ข้าราชการทุกคนต้องตระหนักในหน้าที่ของตนเอง.
ติดตามความเคลื่อนไหวของ ประชาไท ทางอีเมล คลิกอ่าน http://goo.gl/8xIcV หรือเฟซบุ๊ค http://fb.me/Prachatai