ตามที่ได้มีการจัดงานโครงการโรงเรียนอาสาสมัครพิทักษ์ประชาธิปไตยแห่งชาติ เพื่อส่งเสริมและพัฒนาประชาธิปไตยสำหรับประชาชน รุ่นที่ 1 หรือเรียกกันง่ายๆว่า โครงการอบรมซุปเปอร์การ์ด (ซึ่งนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ เป็นคนเรียกนั้น) มีขึ้นที่ บริเวณอาณาจักรคนเสื้อแดง จังหวัดอุดรธานี งานนี้ใช้เวลาฝึกระยะเวลาสองวันติดกัน ระหว่าง วันที่ 3 ถึงวันที่ 4 เมษายน 2557 ของกลุ่ม อพปช.หรือ อาสาสมัครพิทักษ์ประชาธิปไตยแห่งชาติซึ่งเป็นอีกแขนงหนึ่งที่แตกออกมาจาก นปช. ซึ่งมีสมาชิกเข้าร่วมเช้านี้ วันที่ 3 เมษายน ประมาณ 24,000 คนทั่วภาคอีสาน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชายอายุเริ่มจากยี่สิบปีต้นๆ จนถึงราวๆ หกสิบปี มีผู้หญิงประปรายซึ่งร่วมสมัครด้วย แกนนำเสื้อแดงอ้างว่า การรวมตัวของอาสาสมัครนี้เพื่อเป็นการป้องกันประชาธิปไตย ชาวบ้านที่มาเข้าร่วมส่วนใหญ่ดูไปแล้วประกอบอาชีพเกี่ยวกับกสิกรรม รับจ้าง ดูค่อนข้างอิดโรย ไม่กระตือรือร้น ถ้าเทียบกับท่าทีของผู้ให้สัมภาษณ์ อย่างแกนนำนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือ แรมโบ้ นายอดิสร วัฒนบุตร เลขาชมรมคนรักอีสานและนายขวัญชัย ไพรพนา ที่ปรึกษา ของ อพปช. ในงานมีการเดินสวนสนาม รับฟังคำบรรยายในหัวข้อต่างๆ เช่นกิจกรรมฝึกภาคพื้นสนาม แนวทางการเตรียมความพร้อมเมื่อเกิดการปฏิวัติ รัฐประหารของแต่ละจังหวัด กฏหมายกับ อพปช. เป็นต้น
หัวหน้าการ์ดของคนเสื้อแดงคัดเลือกคนเหล่านี้มาจากจังหวัดในภาคอีสาน จังหวัดละประมาณ 50 คน มีทั้งหมด 20 จังหวัดรวมทั้งสิ้นประมาณ 24,000 คนตามที่นายอดิสร วัฒนบุตร กล่าวไว้ เพื่อเตรียมความพร้อมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน สร้างความเข้าใจให้แก่ผู้เข้าชุมนุมว่าตนต้องปฏิบัติตนอย่างไร อีกทั้งมีการแจกเสื้อฝึก หมวกแก๊ป และป้ายชื่อของตน พร้อมโลโก้ที่เป็นตราประทับไว้บนสิ่งของเหล่านี้ ในวันที่ 5 เมษายนที่จะถึงนี้ ระหว่างที่เดินทางเข้าไปสังเกตุการณ์ วิทยากรคนหนึ่ง กล่าวสโลแกนบนเวทีซึ่งออกอากาศทางวิทยุชุมชนคนเสื้อแดงที่ช่อง 97.5 เมืองอุดรธานีว่า ถ้าธงหาย ป้ายหาย เบี้ยหาย ซึ่งหมายความว่าถ้า อาสาสมัครหรือซุปเปอร์การ์ดทำสิ่งของเหล่านี้หาย เงินก็จะหายไปด้วย เมื่อสอบถามกับหัวหน้าการ์ดคนหนึ่งว่า จริงหรือไม่ถ้าสมาชิกทำสิ่งของเหล่านี้หายจะไม่ได้รับเบี้ยเลี้ยง การ์ดบอกว่าเขาพูดเล่น
ทั้งนี้ผู้เขียนได้สอบถามแกนนำทั้งสามว่า จะไม่มีการถอยหลังกลับมาเพื่อพูดคุยเจรจากันแล้วหรือ พวกเขาตอบเหมือนกันว่า เขาอยากคุยและทำความตกลง แต่แกนนำอีกฝ่าย (พาดพิงถึง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำกลุ่ม กปปส.) ฝ่ายนั้นไม่ยอมเปิดโอกาสเจรจากับฝ่ายตน อีกทั้งอ้างว่ากลุ่มเสื้อเหลืองใช้อำนาจนอกกฏหมายที่ไม่เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย ที่สามารถทำให้การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 และเสียงของคนราว 20 ล้านคน เป็นโมฆะ พร้อมทั้งการจัดตั้งองค์กรอิสระ การเสนอนายกรัฐมนตรีมาตรา หรือนายกคนกลาง เพื่อเข้าแทรกแซงการทำงานของรัฐบาลปัจจุบัน ทำให้เกิดสภาวะการแช่แข็งทางการเมือง
แกนนำบางคนได้พาดพิงถึงประวัติศาสตร์การเมืองตั้งแต่เริ่มมีการเปลี่ยนการปกครองว่ากลุ่มอำนาจเก่ายังไม่ยอมให้ประชาชนมีสิทธิ์เสียงที่แท้จริง ด้วยสาเหตุเหล่านี้แกนนำกลุ่ม อพปช. คนหนึ่ง กล่าวว่ามันเป็นการกระทำที่เกินควร พวกเขาจึงจำเป็นที่จะต้องทวงถามหาความยุติธรรมโดยการระดมพลจากทั่วประเทศให้ไปรวมตัวกันที่ถนน อักษะ พระพุทธมณฑล (จากการสัมภาษณ์ของหัวหน้าการ์ดคนหนึ่ง เหตุที่เลือกจุดยุทธศาสตร์นี้ เพราะเป็นพื้นที่ราบ ไม่มีตึกระฟ้าที่เป็นที่ซุ่มยิงของ สไนเปอรส์ snipers ได้ง่าย) และหากมีความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นในวันเสาร์นี้ พวกเขาก็จะตอบโต้จนถึงที่สุด การคาดคะเนถึงความรุนแรงมีความเป็นไปได้สูงและดูเหมือนแกนนำเหล่านี้เตรียมตัวพร้อมรับมือความรุนแรง อย่างไรก็ดี ไม่มีแกนนำคนไหนที่กล่าวถึงแผนสำรองในเรื่องความปรองดองทั้งก่อนและหลังการปะทะกันกับฝ่ายตรงข้ามในอนาคตอันใกล้นี้ ผู้เขียนยังถามไปอีกถึงการครอบครองอาวุธที่กลุ่ม อพปช. อาจจะแจกจ่ายให้กับสมาชิก อพปช. แกนนำทุกคนปฏิเสธถึงการมีอาวุธครอบครอง หัวหน้าการ์ดคนหนึ่งบอกว่า ทุกบ้านมีอาวุธหมด เช่นมีดในครัว ไม้หน้าสาม หรืออุปกรณ์ก่อสร้าง งานช่างต่างๆ และนั่นคืออาวุธของพวกเขา
ทั้งนี้การติตด่อสื่อสารในการระดมพลครั้งนี้เริ่มมาจากแนวระดับผู้ใหญ่ ติดต่อผ่านทางโทรศัพท์หรือในไลน์กลุ่ม LINE chat closed groups ไปยังแกนนำระดับจังหวัด หลังจากนั้น แกนนำจังหวัดนั้นๆ จะโทรศัพท์ไปยังหัวหน้าการ์ด รวมทั้งการแจ้งสถานีวิทยุชุมชนที่สนับสนุนคนเสื้อแดง ผ่านหัวคะแนนแบบปากต่อปาก เพื่อกระจายแก่ชาวบ้านทราบข่าวเรื่องการรับสมัคร แรมโบ้อีสานกล่าวว่าในอนาคตจะมีการระดมพลเพิ่มมากขึ้น และวันนี้เป็นเพียงการทดสอบเท่านั้น
สมาชิก อพปช. นั่งรอเพื่อนสมาชิกและวิทยากรหลังจากพักรับประทานอาหารกลางวัน พร้อมเปลี่ยนชุดฝึก หลายๆ คนตื่นตั้งแต่เช้าและรอขึ้นรถบัสมาที่จ.อุดรธานี เวลาประมาณ ตีห้าของวันที่ 3 เมษายน 2557
ธง อพปช. ประจำแต่ละจังหวัด สมาชิกทุกคนต้องรักษาไว้ ห้ามทำหาย
คอมพิวเตอร์พร้อมเครื่องพิมพ์เอกสาร เพื่อผลิตบัตรประจำตัวพร้อมชื่อของสมาชิกที่นำมาจากแฟ้มสมาชิก มีการนับจำนวนตามความเป็นจริง ห้ามทำหายเช่นกัน
ตัวอย่างแฟ้มจัดเก็บรายชื่อของสมาชิกการ์ดผู้ซึ่งลงรายชื่อและเลขที่บัตรประชาชนเพื่อเข้าร่วมการอบรมนี้ รายชื่อได้รับการบันทึกลงใน ฐานข้อมูลในคอมพิวเตอร์เพื่อการสืบค้นในภายหลัง นี้เป็นครั้งแรกที่มีการจัดเก็บข้อมูลเป็นระบบแบบนี้ แตกต่างจากการสลายการชุมนุมเมื่อปี 2553 แกนนำคนหนึ่งให้สัมภาษณ์
นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือ แรมโบ้อีสาน
นักข่าวจากต่างประเทศกำลังสัมภาษณ์ นายขวัญชัย ไพรพนา ที่ปรึกษา ของ อพปช. ยังมีอาการบาดเจ็บจากเหตุลอบทำร้ายล่าสุด ขณะให้สัมภาษณ์กับผู้เขียนเขายังรู้สึกขวัญเสียและร้องไห้เล็กน้อยเมื่อเล่าถึงอาการบาดเจ็บของตัวเอง
หัวหน้าการ์ด อพปช. จังหวัดขอนแก่นนำพร้อมสมาชิกซุปเปอร์การ์ด ให้สังเกตุที่ผ้าพันคอสีขาวเป็นจุดโดดเด่นบ่งบอกว่าเขาเป็นหัวหน้าและแตกต่างจากการ์ดคนอื่นๆ