1 เม.ย.2557 นายศุภชัย สมเจริญ ประธานกกต. เปิดเผยภายหลังการประชุม กกต.นานกว่า 4 ชั่วโมง ว่า ที่ประชุม กกต.มีมติให้เชิญผู้นำเหล่าทัพทั้ง 4 เหล่าทัพ ประกอบด้วย กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด รวมทั้งหน่วยงานความมั่นคง อาทิ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ปลัดกระทรวงกลาโหม ปลัดกระทรวงมหาดไทย แม่ทัพภาค 4 และผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8,9 ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) มาหารือเพื่อประเมินสถานการณ์ว่าจะสามารถจัดการเลือกตั้ง ส.ส. ใหม่ได้เมื่อใด ในวันที่ 8 เม.ย. เวลา 14.00 น. ที่สำนักงาน กกต.
ทั้งนี้ที่ประชุม กกต.ได้เน้นย้ำว่า อยากให้ผู้บังคับบัญชาของแต่ละหน่วยงานมาเข้าร่วมหารือกับ กกต.ด้วยตัวเอง เนื่องจากจะได้รับทราบและสะท้อนปัญหาให้ กกต.ทราบข้อเท็จจริงได้ อีกทั้งคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญได้มีการระบุถึงสถานการณ์ความไม่สงบเรียบร้อยในประเทศ ดังนั้นจึงต้องมีการหารือเพื่อเตรียมการในประเด็นดังกล่าวป้องกันไม่ให้การเลือกตั้งต้องสูญไปและเสียงบประมาณที่มาจากภาษีประชาชน
นายศุภชัย กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันที่ประชุม กกต.ยังได้มีมติเชิญพรรคการเมืองจำนวน 73 พรรค ที่ กกต.รับรองเป็นพรรคการเมืองมาหารือ เพื่อกำหนดกรอบวันเลือกตั้ง ส.ส. ในวันที่ 22 เม.ย. เวลา 14.00 น. แต่ยังไม่มีการกำหนดสถานที่ในการหารือ แต่กรอบเวลาที่ต้องจัดการเลือกตั้งใหม่ภายใน 45-60 วัน นับแต่วันที่คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 ก.พ. ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญถูกประกาศในราชกิจจานุเบกษานั้นคงเป็นไปไม่ได้
เมื่อถามถึงกรณีที่ประชาชนจำนวนหนึ่งได้ไปฟ้องดำเนินคดีกับ กกต.และศาลรัฐธรรมนูญเนื่องจากไม่สามารถจัดการเลือกตั้ง ส.ส. ได้นั้น นายศุภชัยกล่าวว่า ไม่เป็นไร ถ้าเขาอยากฟ้องก็ให้เขาฟ้อง ถ้าเราคิดว่าไม่ได้ทำอะไรผิดหรือไปกลั่นแกล้งใคร แต่ กกต.ทำหน้าที่อย่างสุจริตและเป็นกลาง สิ่งนั้นก็เหมือนเป็นเกราะคุ้มกัน จึงไม่ได้รู้สึกกดดันกับเรื่องดังกล่าว เพราะการกระทำที่ผ่านก็อาจจะไม่ถูกใจฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งถือเป็นเรื่องปกติ
เมื่อถามว่า กรณีที่พรรคเพื่อไทย (พท.) เตรียมล่ารายชื่อมาถอดถอนนายสมชัย ศรีสุทธิยากร คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง ออกจากตำแหน่งหรือให้มีการเปลี่ยนตำแหน่งด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้งนั้น นายศุภชัย กล่าวว่า ถ้าหากเรื่องนี้มีการยื่นเข้ามา กกต.ก็จะพิจารณาด้วยความรอบคอบ กกต.แต่ละคนมีวิจารญาณเป็นของตัวเอง ไม่ใช่ใครมาจี้แล้ว กกต.จะทำตามเสียทั้งหมด อย่างไรก็ตาม กกต.ก็จะเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายสามารถแสดงความเห็นในการทำงานของ กกต.ได้ เพราะถ้าหากมีใครบอกว่าเรื่องใด กกต.ทำไม่ถูกก็จะต้องนำมาปรับปรุงให้ดีขึ้น
ที่มา: เว็บไต์กรุงเทพธุรกิจ และ มติชนออนไลน์