ชี้เป็นเรื่องของ “สงครามตัวแทน” ระหว่างกลุ่มอำนาจเก่า-ใหม่ ประกอบกับการขึ้นมาของคนชายขอบทางการเมือง และการเปลี่ยนรัชสมัยทำให้เกิดวิกฤติในปัจจุบัน
เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2557 กลุ่มคนไทยในนครนิวยอร์คได้จัดงานเสวนาเรื่อง “วิกฤตการเมืองไทยในปัจจุบัน” โดยได้เชิญ ศ.ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ รศ.ดร.ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ จากมหาวิทยาลัยเกียวโต เข้าร่วมการเสวนาดังกล่าว ที่มีขึ้น ณ ร้านอาหารไทย “พงษ์ศรี” ในนครนิวยอร์ค และมีผู้เข้าร่วมรับฟังกว่า 60 คน
ชาญวิทย์ได้กล่าวว่า ปัญหาการเมืองไทยในปัจจุบันอาจกล่าวได้ว่าเป็นเรื่องของ “สงครามตัวแทน” ระหว่างกลุ่มอำนาจเก่า บารมีเก่า เงินเก่า สื่อเก่า กับกลุ่มอำนาจใหม่ บารมีใหม่ เงินใหม่ และสื่อใหม่ โดยส่วนตัวนั้น ชาญวิทย์เชื่อว่าโอกาสของการปรองดองของกลุ่มที่มีความขัดแย้งทางการเมืองนั้นเหลือน้อยมาก และอาจลงเอยด้วยการใช้ความรุนแรงทางการเมือง ซึ่งฝ่ายที่เป็นปฏิปักษ์ต่อประชาธิปไตยนั้น ยังคงใช้เครื่องมือนานาประเภทในการทำลายล้างรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งหากทำสำเร็จ โอกาสที่ฝ่ายที่สนับสนุนรัฐบาลอาจจะออกมาต่อต้าน ความรุนแรงอาจตามมา
นอกจากนี้ เขายังได้กล่าวถึงปัญหาที่เกิดจากการใช้กฏหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพอย่างพร่ำเพรื่อ การฟ้องร้องกันได้อย่างเสรีและโทษที่รุนแรงมากที่สุดในโลก จึงจำเป็นต้องมีการปฏิรูปกฏหมายฉบับนี้อย่างเร่งด่วน หากฝ่ายรอยัลลิสต์ต้องการจะปกป้องสถาบันกษัตริย์ต่อไป
ด้านปวิน ขอให้ทุกฝ่ายมองปัญหาวิกฤตการเมืองไทยในมุมกว้างมากขึ้น แทนที่จะเน้นเรื่องปัญหาคอร์รัปชั่นที่เกิดจากระบอบทักษิณ โดยเขามองว่าเป็นปัญหาสำคัญ แต่ได้ถูกมาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองในการล้มล้างหลักการทางประชาธิปไตย
ปวินตั้งสมมติฐานว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้น่าจะมาจากปัจจัยสำคัญ 2 ประการ ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงของสังคมไทยในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา ทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมืองและสังคม ทำให้กลุ่มที่เคยถูกมองว่าเป็นคนชายขอบทางการเมือง ไต่เต้าขึ้นมามีบทบาทในสังคมมากขึ้น กลุ่มเหล่านี้ต้องการเรียกร้องความเป็นธรรมทางการเมืองมากขึ้น และประการที่ 2 เป็นเรื่องเกี่ยวกับความกังวลใจของกลุ่มชนชั้นนำเกี่ยวกับการเปลี่ยนผ่านของรัชสมัย ซึ่งกลายมาเป็นประเด็นที่ขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือดเพื่อการได้มาซึ่งการควบคุมการเปลี่ยนผ่านนั้นๆ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของกลุ่มตนเอง
ปวินย้ำว่า ถึงเวลาแล้วที่สถาบันจะต้องปฏิรูปตัวเอง และต้องเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับประชาธิปไตย เพราะหากสถาบันกษัตริย์ยังคงเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมือง โดยเฉพาะในรัชสมัยหน้า ก็จะนำพาไปสู่ปัญหาที่อาจจะรุนแรงมากขึ้น เมื่อความต้องการประชาธิปไตยมีมากและความต้องการให้สถาบันกษัตริย์อยู่เหนือการเมืองอย่างแท้จริง
ติดตามความเคลื่อนไหวของ ประชาไท ทางอีเมล คลิกอ่าน http://goo.gl/8xIcV หรือเฟซบุ๊ค http://fb.me/Prachatai