ด่านความมั่นคงตำรวจจับ 2 นายสิบลพบุรีขนอาวุธและเครื่องกระสุนเข้าใกล้เวที กปปส.ลุมพินี ผบ.กองพล 1 ยอมรับมีทหารแอบรับจ็อบ แต่ยืนยันทำผิดจะไม่ปกป้อง ขอให้เป็นหน้าที่ตำรวจและทหารพระธรรมนูญ
ที่มาของภาพ: เพจโฆษกตำรวจ
จับ 2 นายสิบลพบุรี พร้อมอาวุธปืนและเครื่องกระสุนใกล้ที่ชุมนุม กปปส.สวนลุมพินี
10 มี.ค. 2557 - สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์รายงานว่า พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยผลการตั้งด่านตรวจความมั่นคงตลอดคืนที่ผ่านมา (9 มี.ค.) ว่า ยังคงมีการจับกุมอาวุธปืนและยาเสพติดหลายราย รายสำคัญ ขณะเจ้าหน้าที่ตั้งด่านความมั่นคง บริเวณกลางซอยหลังสวน เขตปทุมวัน พบรถกระบะต้องสงสัย จึงเรียกตรวจสอบพบ ส.ต.ณัฐวุฒิ เชิดสูงเนิน อายุ 23 ปี และ ส.อ.พิษณุ เฟื่องรุ้ง อายุ 25 ปี สังกัดกรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ จังหวัดลพบุรี พร้อมอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนจำนวนมาก จึงแจ้งข้อหาร่วมกันมียุทธภัณฑ์โดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านโดยไม่มีเหตุอันควร พร้อมส่งตัวให้สถานีตำรวจนครบาลลุมพินี และประสานนายทหารพระธรรมนูญ สืบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นอกจากนี้ ยังมีการเผยแพร่ภาพสเก็ตคนร้าย เป็นชาย 5 คน ตามหมายจับศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ข้อหาพยายามฆ่า ซึ่งเกี่ยวพันกับกรณีนายอิสสระ สมชัย แกนนำ กปปส.ถูกออกหมายจับในข้อเดียวกัน คดีพยายามฆ่าถ่วงแม่น้ำบางปะกง พนักงานรักษาความปลอดภัย ซึ่งเข้าร่วมชุมนุม กปปส.
ผบ.พล.1 ให้ตำรวจสอบเต็มที่ ยอมรับมีทหารรับจ็อบ แต่ยืนยันทำผิดจะไม่ปกป้อง
ล่าสุดวันนี้ (10 มี.ค.) สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์พล.ต.วราห์ บุญญะสิทธิ์ ผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ จับกุม ส.อ.พิษณุ และ ส.ต.ณัฐวุฒิ เทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 31 กองพันทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ จ.ลพบุรี พร้อมเครื่องกระสุนและอาวุธสงคราม บริเวณถนนหลังสวน จากแยกชิดลมมุ่งหน้าแยกสารสินว่า ต้องให้ตำรวจสอบสวนตามกระบวนการ แต่สาเหตุจะเป็นการรับจ้างส่วนตัวหรือไม่ ต้องรอผลการสอบสวนอีกครั้ง ส่วนตัวยอมรับว่าหนักใจ ที่มีทหารรับจ้างงานลักษณะนี้ ซึ่งที่ผ่านมา มีการกวดขันเรื่องการปฏิบัติตัวของทหารมาโดยตลอด ยืนยัน หากทำผิดจริงจะไม่ปกป้อง อย่างไรก็ตาม ต้องส่งนายทหารพระธรรมนูญ ไปร่วมสอบสวนกับตำรวจ ตามระเบียบกระทรวงกลาโหม
ด้าน พล.ท.เฉลิมชัย สิทธิสารท ผู้บัญชาการ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ กล่าวว่า ยังไม่ทราบรายละเอียด โดยเฉพาะอาวุธปืนชนิดเอ็ม 4 เอ 1 ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยึดเป็นของกลาง ยังไม่ชัดเจนว่า เป็นของหน่วยรบพิเศษหรือไม่ ซึ่งต้องตรวจสอบรายละเอียดกับผู้เกี่ยวข้องอีกครั้ง