อธิบดีกรมบัญชีกลางชี้นำงบกลาง 2 หมื่นล้านจ่ายจำนำข้าว ต้องรอหารือ กกต.-สำนักงบประมาณ หาก กกต.มีคำตอบชัด ให้ ธ.ก.ส.ตั้งเบิกจ่ายเข้ามา แจงช่วงนี้เงินค้างจ่ายชาวนา มาจากเงินกองทุน-ระบายข้าวไปก่อน “สมชัย” ระบุ กกต.อนุมัติงบ 712 ล้านจ่ายหนี้จำนำข้าวชาวนา ไม่ใช่ว่าจะต้องอนุมัติ 20,000 ล้านตามที่รัฐบาลเสนอ เหตุวงเงิน 2 ก้อนมีความแตกต่างกัน
1 มี.ค. 2557 ไทยรัฐออนไลน์รายงานว่าจากกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้ใช้งบกลาง 2 หมื่นล้านบาท ไปใช้จ่ายในโครงการรับจำนำข้าวนั้น นายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า ขณะนี้ ครม.ได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เป็นผู้ยื่นเรื่องเสนอขอใช้งบกลาง ดังนั้น ก็ต้องรอขั้นตอนการหารือกับทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และสำนักงบประมาณก่อน เนื่องจากกรมบัญชีกลางจะจ่ายเงินตามที่สำนักงานงบประมาณจัดสรรงบประมาณ ซึ่งกรณีดังกล่าว หาก กกต.มีคำตอบชัดเจน สำนักงบประมาณจะเป็นผู้จัดสรรวงเงินดังกล่าวให้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) โดยให้ ธ.ก.ส.เป็นผู้ตั้งเบิกจ่ายเข้ามา
ทั้งนี้ ในฐานะที่เป็นกรรมการ ธ.ก.ส.ด้วยนั้น มองว่าในส่วนของการจ่ายเงินให้กับเกษตรกรที่นำข้าวมาเข้าโครงการรับจำนำข้าวก็ยังมีการจ่ายเงินเป็นระยะๆ เพียงแต่ไม่มากนัก เพราะมีเงินที่ได้จากการระบายข้าวทยอยส่งเข้ามา และจากนี้ไปก็จะมีเงินที่มาจากผู้ที่ต้องการช่วยเหลือเกษตรกรนำมาบริจาคสมทบ เข้ากองทุนช่วยเหลือชาวนา ตามที่ ธ.ก.ส.ได้จัดตั้งขึ้น โดยจะเริ่มในวันที่ 3 มี.ค.นี้ และเชื่อว่าน่าจะถึง 2 หมื่นล้านบาทตามเป้าหมาย
นายมนัส กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีที่สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ได้เชิญชวนรัฐวิสาหกิจ เข้าร่วมประมูลตั๋วสัญญาใช้เงิน (พีเอ็น) และปิดรับไปเมื่อวันที่ 27 ก.พ.นั้น เท่าที่ทราบมีรัฐวิสาหกิจยื่นเข้ามาเพียง 1 ราย จึงได้ล้มประมูลไป ดังนั้น เงินที่จะนำมาจ่ายให้เกษตรกรที่ยังค้างอยู่ก็คงเป็นเงินจากกองทุนและระบายข้าวไปก่อน
“สมชัย” ชี้ กกต.อนุมัติงบ 712 ล้านให้รัฐบาล ใช่ว่าต้องเห็นชอบ 2 หมื่นล้านตามที่ขอ
ASTV ผู้จัดการออนไลน์รายงานว่าในช่วงดึกของวันที่ 28 ก.พ. นายสมชัย ศรีสุทธิยากร คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า การที่ กกต.อนุมัติงบกลาง 712 ล้านช่วยชาวนา ไม่ได้แปลว่างบกลาง 20,000 ล้านจะต้องอนุมัติ เนื่องจากวงเงินทั้ง 2 มีความแตกต่างกันคือ โดยวงเงิน 712 ล้าน ที่ช่วยชาวนา เป็นชาวนาที่ค้างจ่ายในฤดูการผลิต 55/56 กลุ่มสุดท้ายที่มีปัญหาจากการตกสำรวจ และเป็นการขอแบบตัดจ่ายหนี้ครั้งเดียว ไม่มีผลผูกพันต่อรัฐบาลชุดต่อไป รวมถึงไม่มีผลต่อการหาเสียง เนื่องจากเป็นหนี้เก่าที่เกี่ยวข้องกับชาวนาจำนวนน้อยเพียง 3,000 รายเศษ อีกทั้งสำนักงบประมาณได้กันงบประมาณจากงบเหลือจ่ายปี 56 เพื่อการนี้เป็นการเฉพาะไว้แล้ว
ส่วนวงเงิน 20,000 ล้านที่จะมาของบกลางใหม่นั้น เป็นชาวนาในฤดูการผลิต 56/57 และเป็นเงินที่นำไปใช้หมุนเวียน หากขายข้าวหรือออกพันธบัตรได้ จะเอามาคืน และวงเงินดังกล่าวเกี่ยวข้องชาวนา จำนวนนับแสนรายทั่วประเทศ
นายสมชัย โพสต์ว่า ประเด็นที่ กกต.ต้องพิจารณา โดยอิงรัฐธรรมนูญ มาตรา 181 คือ 1.เป็นความจำเป็นเร่งด่วนหรือไม่ 2.ก่อให้เกิดผลผูกพันต่อรัฐบาลชุดต่อไปหรือไม่ และ 3. เป็นการใช้ทรัพยากรของรัฐเพื่อนำไปสู่ความได้เปรียบเสียเปรียบในการเลือกตั้งหรือไม่
ทั้งนี้ในสัปดาห์หน้า น่าจะได้รู้คำตอบ หลังจากรัฐบาลส่งตัวแทนมาชี้แจงต่อ กกต.ซึ่งน่าจะเป็น รมต.หรือ รมช.คลัง และตัวแทนจากกระทรวงพาณิชย์ “แต่ใจผมอยากในคนเหล่านี้มาชี้แจงด้วย คือ 1.การุณ โหสกุล อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย 2.พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย และ 3.จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เผื่อท่านจะข่มขู่ กกต.ได้ผล” นายสมชัยระบุ
ติดตามความเคลื่อนไหวของ ประชาไท ทางอีเมล คลิกอ่าน http://goo.gl/8xIcV หรือเฟซบุ๊ค http://fb.me/Prachatai