หลังจลาจลที่เมืองเมกติลาในพม่า ซึ่งทำให้ชุมชนมุสลิมได้รับความเสียหายและต้องอพยพนั้น ล่าสุดศาลพม่าตัดสินจำคุก 14 ปี เจ้าของร้านทองชาวมุสลิม ภรรยา และลูกจ้าง ที่วิวาทกับลูกค้าชาวพุทธ ในข้อหาปล้นและประทุษร้าย ขณะที่อัยการพม่าระบุ เตรียมฟ้องทั้งชาวพุทธและมุสลิมที่เกี่ยวข้องกับเหตุความไม่สงบอีกหลายสิบคน
ภาพเผยแพร่จากฮิวแมนไรท์วอช แสดงภาพถ่ายจากดาวเทียม เผยให้เห็นความเสียหายของชุมชนมุสลิมในเมืองเมกติลา ภาคมัณฑะเลย์ของพม่า ก่อนและหลังจลาจล โดยภาพล่าสุดถ่ายวันที่ 27 มี.ค. 56 ส่วนภาคก่อนหน้านี้เป็นภาพวันที่ 13 ธ.ค. 55 (ที่มา: Human Rights Watch)
จากกรณีที่เมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เกิดการจลาจลที่เมืองเมกติลา ตอนกลางของพม่า โดยชาวพุทธกลุ่มหนึ่งในพม่าไล่รื้อถอน ทำลายข้าวของ ที่พักอาศัยและร้านค้าซึ่งส่วนใหญ่เป็นของชาวมุสลิม จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 40 รายนั้น (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง [1], [2])
โดยสาเหตุความขัดแย้ง ขยายบานปลายมาจากเหตุการณ์วิวาทในร้านทองของชาวมุสลิมที่ย่านใจกลางเมืองเมื่อวันที่ 20 มี.ค. โดยมีคู่สามีภรรยาชาวพุทธคู่หนึ่งไปขายเครื่องเพชรให้กับร้านดังกล่าว มีการถกเถียงกันเรื่องราคาจนลามไปถึงขั้นลงไม้ลงมือกัน โดยมีรายงานว่าเจ้าของร้านได้ทุบศีรษะของลูกค้า และความขัดแย้งได้ลุกลามออกสู่ชุมชน โดยก็พระรูปหนึ่งถูกทำร้าย และต่อมาเสียชีวิตที่โรงพยาบาล และทำให้ความขัดแย้งขยายตัวจนนำไปสู่การเผาและไล่ทำร้ายชุมชนมุสลิมในเมืองเมกติลา
ล่าสุด บีบีซีรายงานว่า เมื่อวันพฤหัสบดี (11 เม.ย.) ที่ผ่านมา ศาลพม่าได้ตัดสินจำคุกชาวมุสลิม 3 รายได้แก่ เจ้าของร้านทอง ภรรยา และลูกจ้าง โดยสั่งจำคุกเป็นเวลา 14 ปี ในข้อหาปล้นและประทุษร้าย ซึ่งมีส่วนทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างชุมชนดังกล่าว
ทั้งนี้หลังเกิดความรุนแรงดังกล่าว มีการประกาศห้ามออกนอกเคหะสถานในเวลากลางคืนในเมืองเมกติลา และอีก 3 เมือง โดยมีชาวมุสลิมมากกว่า 12,000 คนต้องอพยพ ขณะที่จากรายงานของฮิวแมนไรท์ ว็อทซ์พบว่าอาคารบ้านเรือนของชาวมุสลิมถูกเผาทำลาย อย่างน้อย 823 หลัง (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)
บีบีซีรายงานโดยอ้างจากสำนักข่าวเอพี โดยอัยการพม่าระบุว่า พวกเขากำลังเตรียมสำนวนหลายคดีเพื่อฟ้องประชาชนหลายสิบคนที่เกี่ยวข้องกับเหตุความไม่สงบ ซึ่งผู้ที่จะถูกฟ้องมีทั้งชาวพุทธและมุสลิม
ทั้งนี้เมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา ประธานาธิบดีเต็ง เส่ง ของพม่าได้เตือนว่ารัฐบาลพม่าอาจใช้กำลังหากมีความจำเป็นเพื่อหยุดยั้ง "ผู้ฉวยโอกาสทางการเมือง และกลุ่มสุดโต่งทางศาสนา"จากการสร้างความเกลียดชังระหว่างศาสนิกชนของศาสนาต่างๆ
"ผู้ก่อความรุนแรงทุกคนจะถูกดำนินคดีและได้รับโทษตามกฎหมายสูงสุด"เต็ง เส่ง กล่าว
ทั้งนี้ความขัดแย้งระลอกล่าสุดในเมืองเมกติลา ภาคมัณฑะเลย์ นับว่าร้ายแรงที่สุด นับตั้งแต่เกิดความขัดแย้งระหว่างชุมชนขึ้นในรัฐยะไข่หรือรัฐอาระกันเมื่อปีก่อน ซึ่งความขัดแย้งรอบนั้นมีผู้เสียชีวิตเกือบ 200 ราย และทำให้ประชาชนหลายหมื่นต้องอพยพออกจากบ้านเรือน โดยความขัดแย้งในรัฐยะไข่ก่อตัวขึ้นระหว่างชาวพุทธอาระกัน และชาวมุสลิมโรฮิงยา ซึ่งชาวโรฮิงยานั้นไม่ถูกรับรองว่ามีสถานะเป็นพลเมืองพม่า และมีชาวโรฮิงยาจำนวนมากพากันลี้ภัยออกจากพม่า หลบหนีจากสิ่งที่พวกเขาเชื่อว่าเป็นการ "ไล่สังหาร"ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา