22 ก.พ.2557 ฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช.กล่าวว่า กรณีมีการสอบถามเป็นจำนวนมากทั้งจากสื่อมวลชน และประชาชนเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองที่มีการเชิญชวนผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในเครือข่ายเอไอเอสให้โอนย้ายเครือข่ายนั้น สำนักงาน กสทช. ได้ติดตามสถานการณ์ดังกล่าวมาโดยตลอดเพื่อมิให้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมสื่อสารโทรคมนาคม จากข้อมูลพบว่า เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 20 ก.พ. 2557 ที่ผ่านมา อัตราการโอนย้ายเครือข่ายของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) มีปริมาณปกติอยู่ที่ 700 เลขหมายต่อวัน แต่พอถึงวันศุกร์ที่ 21 ก.พ. 2557 พบว่ามีการโอนย้ายเพิ่มขึ้นเท่าตัวเป็น 1,400 เลขหมายต่อวัน โดยเป็นการโอนย้ายเลขหมายไปอยู่เครือข่ายดีแทค 70% ทรู 30% ทั้งนี้ สำนักงาน กสทช. จะติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อระวังไม่ให้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมโทรคมนาคมและจะรายงานให้ประชาชนทราบต่อไป
สำหรับกระแสย้ายค่ายโทรศัพท์มือถือ เกิดขึ้นภายหลังจากเมื่อวันที่ 20 ก.พ. สุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.ประกาศโจมตีธุรกิจตระกูลชินวัตรเพื่อทำลายท่อน้ำเลี้ยงกดดันให้ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีลาออก ด้วยการเชิญชวนผู้ที่ใช้บริการโทรศัพท์มือถือเครือข่ายเอไอเอสให้ยกเลิกการใช้ โดยย้ายเครือข่ายแต่ใช้เบอร์เดิม โดยสุเทพระบุว่า เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่อยู่ภายใต้ตระกูลชินวัตร
ขณะที่ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด หรือ เอไอเอส ปฏิเสธว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับตระกูลชินวัตร โดยมีการส่งข้อความสั้น (SMS) ถึงผู้ใช้โทรศัพท์มือถือเครือข่ายเอไอเอส หลังจากมีประชาชนไปขอยกเลิกการใช้บริการ ข้อความว่า เอไอเอส ขอเรียนว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องการเมือง และไม่ได้เป็นท่อน้ำเลี้ยงฝ่ายใด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรและครอบครัวได้ขายหุ้นทั้งหมดในกลุ่มบริษัทตั้งแต่วันที่ 23 ม.ค.2549 และจากนั้นก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับบริษัทอีก จึงเรียนมาเพื่อทราบ