โฆษกศาลยุติธรรมระบุหากเสื้อแดงกระทำละเมิดศาลลงโทษได้ทันที

โฆษกสำนักงานศาลยุติธรรม แจงเหตุกลุ่มคนเสื้อแดงบุกวางพวงหรีดหน้าศาลแพ่ง ชี้ หากกระทำละเมิดต่อหน้าศาล ย่อมลงโทษได้ทันที โดยไม่ต้องไต่สวน แต่ต้องพิจารณาไตร่ตรองอย่างรอบคอบ พร้อมแจง หาก “ร.ต.อ.เฉลิม” ไม่เห็นด้วยกับคำพิพากษาศาลแพ่ง ก็ยื่นอุทธรณ์ได้

 

21 ก.พ. 2557 สำนักข่าวไทยรายงานว่านายบวรศักดิ์ ทวิพัฒน์ โฆษกสำนักงานศาลยุติธรรม ชี้แจงกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงมาชุมนุม ที่หน้าศาลแพ่ง วางพวงหรีดและตะโกนประท้วงถึงการทำหน้าที่ของศาลแพ่ง  ว่า การประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล ย่อมเป็นการละเมิดอำนาจศาล ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ส่วนจะเป็นความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลหรือไม่ ศาลย่อมใช้ดุลพินิจในกรณีจำเป็น เพื่อความสงบเรียบร้อยในบริเวณศาล และเพื่อรักษาไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์ของสถาบันตุลาการ

 

นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า ความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล กรณีที่การกระทำมิได้เกิดขึ้นต่อหน้าศาล ศาลต้องไต่สวนหาความจริง ก่อนมีคำสั่ง แต่หากการละเมิดอำนาจศาล ได้กระทำต่อหน้าศาล ข้อเท็จจริงอันเป็นความผิดย่อมปรากฏชัดแจ้งให้ศาลเห็นอยู่แล้ว ศาลย่อมลงโทษได้ทันที โดยไม่ต้องมีการไต่สวน ทั้งนี้ หากศาลจะสั่งลงโทษผู้ใดฐานละเมิดอำนาจศาล ศาลจะต้องไตร่ตรองและใคร่ครวญอย่างสุขุม ด้วยความระมัดระวัง และไม่ลุแก่โทสะ

 

ต่อกรณีที่  ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ผอ.ศรส. ได้ยื่นหนังสือถึงนายสุทธินันท์ เสียมสกุล อธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่ง เพื่อขอคำปรึกษากรณีศาลแพ่งมีคำพิพากษาสั่ง ศรส. ห้ามใช้ประกาศและข้อกำหนดที่ออกตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 9 ข้อ นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า ร.ต.อ.เฉลิม ฐานะคู่ความในคดี หากไม่เห็นด้วยกับคำพิพากษาของศาลแพ่ง ย่อมมีสิทธิอุทธรณ์คำพิพากษาดังกล่าวได้ สำนักงานศาลยุติธรรมเป็นเพียงหน่วยงานทางธุรการ ไม่อาจไปก้าวล่วงการดำเนินกระบวนการพิจารณาคดีของศาลแพ่งได้

 

เมื่อถามว่า จากเหตุการณ์ที่ผ่านมา มีการข่มขู่ผู้พิพากษาบ้างหรือไม่ นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า สำนักงานศาลยุติธรรมยังไม่ได้รับแจ้งว่า มีการข่มขู่ผู้พิพากษา นอกจากนี้ สำนักงานศาลยุติธรรมขอให้สังคมมั่นใจว่า ผู้พิพากษาได้รับการปลูกฝัง ยึดมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ ผู้พิพากษาจึงมีขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความถูกต้อง เที่ยงธรรม และไม่หวั่นไหวไปกับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น

 

“ในการพิจารณาพิพากษาแต่ละคดีของศาล จะขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานที่เสนอต่อศาล ศาลไม่อาจนำเหตุการณ์ที่สังคมรับรู้ หรือข่าวสารที่ปรากฏต่อบุคคลทั่วไป มาใช้ในการพิจารณาพิพากษาคดีได้ ส่วนผลคดีจะเป็นอย่างไร ย่อมขึ้นอยู่กับการเสนอพยานหลักฐานของคู่ความ”  นายบวรศักดิ์ กล่าว