6 ก.พ. 2557 มติชนออนไลน์ รายงานว่า ที่ห้องพิจารณาคดี 712 ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดชี้สองสถานหรือนัดตรวจพยานหลักฐาน ในคดีหมายเลขดำที่ 275/2557 ที่นายถาวร เสนเนียม แกนนำ กปปส.ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม, ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ปฏิบัติหน้าที่ รมว.แรงงาน ในฐานะ ผอ.ศรส. และ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ในฐานะรอง ผอ.ศรส. จำเลยที่ 1-3 ในข้อหาละเมิด เพื่อขอให้ศาลเพิกถอนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง และห้ามใช้กำลังสลายการชุมนุม
โดยในวันนี้นายถาวร น.ส.ยิ่งลักษณ์ ร.ต.อ.เฉลิม และ พล.ต.อ.อดุลย์ คู่ความทั้งสองฝ่าย ไม่ได้เดินทางมาศาลแต่อย่างใด มีเพียงทนายความผู้รับมอบอำนาจเท่านั้น ขณะเดียวกันทนายความฝ่ายจำเลยทั้งสามได้ยื่นคำร้อง ขอขยายระยะเวลายื่นคำให้การออกไปก่อน
โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีนี้ศาลมีคำสั่งให้รับฟ้องและพิจารณาคดีอย่างเร่งด่วน แต่เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ศาลจึงให้รอฟังคำสั่งอีกครั้ง ในเวลา 14.00 น.
ต่อมาเวลา 14.00 น. ศาลนัดอ่านคำสั่ง โดยพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยที่ 2 ได้ยื่นคำร้องโต้แย้งเรื่องขอบเขตอำนาจของศาล ว่าอยู่ในเขตอำนาจของศาลปกครอง โดยให้ศาลแพ่งชะลอการพิจารณาชั่วคราว เห็นว่าตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มาตรา 16 ที่ระบุว่า ข้อกำหนด ประกาศ คำสั่ง หรือการกระทำตามพระราชกำหนดนี้ ไม่อยู่ในข้อบังคับของกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง และกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง
โดยศาลรัฐธรรมนูญเคยมีคำวินิจฉัยแล้วว่าคดีไม่อยู่ในขอบเขตอำนาจของศาลปกครอง ดังนั้น ศาลปกครองจึงไม่มีอำนาจในการพิจารณาคดีได้ และสิทธิเสรีภาพของประชาชน สามารถนำเข้าสู่กระบวนการของศาลยุติธรรมได้ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 216 วรรค 5 ซึ่งคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญถือว่าเป็นเด็ดขาดและมีผลผูกพันทุกองค์กร จำเลยซึ่งเป็นคณะรัฐมนตรีจะโต้แย้งไม่ได้ จึงมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
ส่วนที่ทนายจำเลยได้ยื่นขอขยายระยะเวลายื่นคำให้การนั้นเห็นว่า คดีนี้ศาลมีคำสั่งให้รับฟ้องและมีเหตุพิจารณาคดีเร่งด่วน จึงขยายระยะเวลายื่นคำให้การภายในวันที่ 10 ก.พ.นี้ และให้เลื่อนนัดชี้สองสถานหรือนัดตรวจพยานหลักฐานออกไป เป็นวันที่ 12 ก.พ. นี้ เวลา 09.00 น.