เด็กนักเรียนที่โรงเรียนหนึ่
© ภาพเอื้อเฟื้อโดยองค์การยูนิเซฟ ถ่ายโดย Jingjai N.
สืบเนื่องจากเหตุการณ์สะเทือนขวัญเมื่อวันที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งมูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิมให้ข้อมูลว่าเกิดเหตุอุกอาจ คนร้ายแฝงตัวในมุมมืดรอดักยิงชาวบ้านกลับจากละหมาด เป็นเหตุให้เด็กชาย 3 คนพี่น้องเสียชีวิตทันที ส่วนพ่อกับแม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดที่อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ผู้เสียหายเป็นจำเลยคดีความมั่นคง(นายเจะมุ มะมัน) คดีหมายเลขแดงที่ 2608/55 ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง อัยการอุทธรณ์ อยู่ระหว่างรอกำหนดนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
วันนี้ (5 ก.พ. 2557) องค์การยูนิเซฟออกแถลงการณ์
“ข้อมูลจากรายงานข่าวระบุว่า เด็กชายทั้งสามคนซึ่งมีอายุเพี
“ยูนิเซฟขอประณามการสังหารเด็
ยูนิเซฟยังระบุถึงข้อมูลจากศูนย์เฝ้าระวั
วันเดียวกัน คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติของไทยได้ออกแถลงการณ์ เรื่อง ขอประณามการใช้ความรุนแรงต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ โดยเฉพาะเด็กและสตรีในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
โดยมีรายละเอียดดังนี้
ตามที่ได้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มาอย่างต่อเนื่อง คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้เคยแสดงความห่วงใยและความกังวลต่อการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ โดยได้มีการลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบและติดตาม รวมถึงการออกแถลงการณ์เพื่อประณามการใช้ความรุนแรงมาโดยตลอด จนกระทั่งเมื่อวันที่ 3กุมภาพันธ์ 2557 ได้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส จนเป็นเหตุให้ผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นเด็ก จำนวน 3 ราย และได้รับบาดเจ็บสาหัส จำนวน 2 ราย และหนึ่งในผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสเป็นมารดาเด็กที่เสียชีวิตทั้ง 3 รายดังกล่าว ประกอบกับขณะนี้ได้ตั้งครรภ์อยู่ด้วย ดังปรากฏเป็นข่าวแล้ว นั้น
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ขอแสดงความเสียใจเป็นอย่างยิ่งต่อผู้ที่เสียชีวิต ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บรวมไปถึงครอบครัวของบุคคลดังกล่าว ตลอดจนความห่วงใยในสวัสดิภาพของประชาชนในพื้นที่ และขอประณามการกระทำของผู้ก่อเหตุการณ์ความรุนแรงที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรม ผิดต่อกฎหมาย ละเมิดสิทธิมนุษยชน และหลักมนุษยธรรมซึ่งเป็นหลักสากลที่ทุกฝ่ายต้องยึดถือ อีกทั้งห้วงระยะเวลาที่ก่อความไม่สงบ เกิดขึ้นภายหลังที่ผู้สูญเสียกลับจากประกอบพิธีกรรมทางศาสนา และผู้ที่เสียชีวิตเป็นเด็กสตรี และประชาชนผู้บริสุทธิ์
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ซึ่งมีบทบาทและหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ในอันที่จะส่งเสริมการเคารพและปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชนและปกป้องหลักการเคารพต่อสิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกาย สิทธิในทรัพย์สินส่วนบุคคลและส่วนรวมอันจะละเมิดมิได้ จึงขอเสนอแนะให้ทุกภาคส่วนคำนึงและควรปฏิบัติดังนี้
1. รัฐบาล กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ส่วนหน้า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานด้านความมั่นคง ต้องเร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินตามกฎหมายอย่างรวดเร็ว และรายงานความคืบหน้าต่อสาธารณชน
2. รัฐบาลควรเพิ่มมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อย แก่ประชาชนในพื้นที่ให้เข้มงวดยิ่งขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งให้กลุ่มเด็ก สตรี และประชาชนผู้บริสุทธิ์ ต้องได้รับการคุ้มครอง เพื่อให้เกิดความรู้สึกปลอดภัยในชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน และการดำรงชีวิตอย่างปกติสุข ด้วยความร่วมมือของภาคประชาชนในการเฝ้าระวังและการป้องกันเหตุการณ์ความรุนแรง เพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในพื้นที่ให้กลับคืนมา
3. รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องเร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือเยียวยาความเสียหาย ฟื้นฟูจิตใจและความบอบช้ำของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว ทั้งนี้ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ จะติดตามผลการปฏิบัติของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การช่วยเหลือเยียวยาตามหลักเกณฑ์ต่อไป
ทั้งนี้ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติจะทำหน้าที่ในการส่งเสริม ปกป้องและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน โดยติดตามตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้และนำเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบต่อไป