คนร้ายยิงถล่มชาวบ้าน อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ขณะกลับจากละหมาด ถูกเด็กเสียชีวิต 3 คน พ่อแม่บาดเจ็บ ตำรวจคาดปมขัดแย้งส่วนตัว พ่อเด็กระบุไม่ขัดแย้งใคร เลขาธิการ ศอ.บต.รุดเยี่ยม-นักศึกษาแห่ดูที่เกิดเหตุ เชิญประกวดคลิป “ไม่ควรมีเด็กเป็นเหยื่อสงครามฯ” ส่วนทหารแถลงประณาม
4 ก.พ.2557 ส่วนปฏิบัติการและรับแจ้งเหตุฉุกเฉิน ศูนย์ปฏิบัติการร่วมทางยุทธวิธี กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) รายงานว่า เมื่อเวลา 20.15 น. วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2557 คนร้ายไม่ทราบจำนวน ใช้อาวุธปืนสงครามลอบยิงราษฎร เสียชีวิต 3 ราย เป็นเด็กทั้งหมด ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย นำส่ง โรงพยาบาลไม้แก่น จ.ปัตตานี เหตุเกิดบริเวณหน้าบ้านเลขที่ 143/4 บ้านปะลุกาแปเราะ หมู่ที่ 7 ต.ปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ทราบชื่อผู้เสียชีวิตดังนี้
1. ด.ช.บาฮารี มะมัน อายุ 9 ปี กระสุนถูกบริเวณลำตัว ได้รับบาดเจ็บสาหัส เสียชีวิตในเวลาต่อมา
2. ด.ช.มูยาเฮต มะมัน อายุ 11 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส เสียชีวิตในเวลาต่อมา
3. ด.ช.อีลยาส มะมัน อายุ 6 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส เสียชีวิตในเวลาต่อมา
ผู้บาดเจ็บได้แก่ นางพาดีละห์ แมยู อายุ 33 ปี มารดาของเด็กทั้ง 3 คน กระสุนถูกบริเวณต้นแขนขวา และนายเจะมุ มะมัน อายุ 40 ปี บิดา กระสุนถูกบริเวณข้อเท้าขวา ทั้งหมดอยู่บ้านเลขที่ 85 บ.บือเจ๊าะสอง หมู่ที่ 8 ต.บาเจาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส
เหตุเกิดขณะที่นายเจะมุพร้อมด้วยภรรยาและลูกทั้ง 3 คน เดินทางกลับจากละหมาดที่มัสยิดภายในหมู่บ้าน ด้วยรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุขณะกำลังจะเข้าบ้านพักมีคนร้ายไม่ทราบจำนวนซุ่มอยู่บริเวณข้างทางใช้อาวุธปืนสงคราม ยิงใส่ทำให้มีผู้เสียชีวิตและ ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว สาเหตุอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
ตำรวจนราฯ แจงคาดปมขัดแย้งส่วนตัว
ต่อมาในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2557 เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.ปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ เข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบเพียงกองเลือดจำนวนหนึ่งบริเวณหน้าบ้านพักที่เกิดเหตุ โดยในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ไม่สามารถตรวจสอบพบหลักฐานใด ๆ ของคนร้าย
พล.ต.ต.พัฒนวุธ อังคะนาวิน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จ.) นราธิวาส แถลงข่าวเรื่องนี้ว่า คดีนี้เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบให้ถึงที่สุด ซึ่งคาดว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัว แต่ไม่ว่าจะเกี่ยวข้องกับเหตุส่วนตัว ความมั่นคง ความขัดแย้งผลประโยชน์หรืออิทธิพล
ร.ต.ท.อาดัม รอเหมมัน พนักงานสอบสวน สภ.ปะลุกาสาเมาะ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบปลอกกระสุนขนาด 7.62 จำนวน 22 ปลอก ปลอกกระสุนขนาด 5.56 (M16) จำนวน 1 ปลอก กระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 1 ปลอก ลูกกระสุน 6 ลูก ชิ้นส่วนลูกกระสุนปืน (ทองแดง) 3 ชิ้น กระสุนปืนขนาด 5.56 จำนวน 2 นัด หลักฐานทั้งหมดจะส่งให้ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 ยะลาตรวจสอบต่อไปว่า เคยใช้ในเหตุการณ์ใดบ้าง
พ่อเด็กระบุไม่มีปัญหากับชาวบ้าน
นายเจะมุ มะมัน บิดาของเด็กทั้ง 3 คน กล่าวว่า ตนไม่ได้มีปัญหาความขัดแย้งกับชาวบ้านเลย เพราะฉะนั้นจึงคิดว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ไม่น่าจะมาจากความขัดแย้งส่วนตัว ถ้าในอนาคตเกิดอะไรขึ้นกับตนอีกก็ไม่น่าจะมีกลุ่มอื่นมากระทำนอกจากกลุ่มเดิมที่ก่อเหตุครั้งนี้
ทั้งนี้ นายเจะมุ เคยถูกดำเนินคดีความมั่นคงในพื้นที่มาแล้ว แต่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ได้พิพากษายกฟ้องไปแล้ว แต่ยังไม่ได้ไปถอนเงินประกันตัวระหว่างต่อสู้คดีคืน
ทหารแถลงประณาม
พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าว แม่ทัพภาค 4 ได้แสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้ที่เสียชีวิต รวมทั้งประสานงานช่วยเหลือเยียวยา ตามกฎเกณฑ์ของทางราชการต่อไป โดยในขณะนี้หน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ ร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ได้ลงพื้นที่เพื่อเก็บหลักฐาน วัตถุพยานในพื้นที่ เพื่อรวบรวมในการติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุแล้ว
"เหตุการณ์ดังกล่าว เจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นฝีมือของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ ที่ดำเนินการสร้างสถานการณ์ด้วยความโหดเหี้ยม ไร้ซึ่งมนุษยธรรม โดยหลังเกิดเหตุทางหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาสที่ 32 ก็ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ เพื่อเป็นการป้องกันข่าวลือแล้ว ทั้งนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทาง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เรียกร้องให้กลุ่มภาคประชาสังคมต่างๆ กลุ่มเอ็นจีโอ กลุ่มสิทธิมนุษยชนต่างๆ ออกมาประณามการก่อเหตุในครั้งนี้ด้วย"
ออกคำชี้แจงเพื่อสร้างความเข้าใจ
นอกจากนี้ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ยังได้ออกคำชี้แจงเพื่อสร้างความเข้าใจ ดังนี้
1.ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัว และญาติของผู้ที่เสียชีวิตและบาดเจ็บ จากการกระทำอย่าง โหดเหี้ยม ไร้มนุษยธรรม และไร้จิตสำนึกที่ใช้ชีวิตของผู้บริสุทธิ์ไม่เว้นแม้กระทั่งเด็กที่ต้องตกเป็นเหยื่อของสถานการณ์ ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงได้เคยกระทำมาอย่างต่อเนื่อง แล้วโยนความผิดให้เจ้าหน้าที่เพื่อสร้างเงื่อนไขความขัดแย้ง และความเกลียดชัง ระหว่างพี่น้องประชาชนกับเจ้าหน้าที่รัฐ
2.การกระทำดังกล่าวผู้นำศาสนาและพี่น้องมุสลิมไม่เห็นด้วย และได้ร่วมกันคัดค้านให้ยกเลิกพฤติกรรมดังกล่าว เพราะขัดต่อบทบัญญัติของศาสนาอิสลามอย่างสิ้นเชิง และขอเรียกร้องให้ทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่ม NGOs ภาคประชาสังคม, เครือข่ายองค์กรต่างๆ, สื่อสารมวลชน และพี่น้องประชาชนทุกเชื้อชาติ ศาสนา ร่วมกันประณามการกระทำดังกล่าว และลุกขึ้นมาปฏิเสธ และต่อต้านพฤติกรรมสุดโต่ง ก่อการร้ายอย่างจริงจัง เพื่อคืนความเป็นธรรมให้ผู้สูญเสียในครั้งนี้ และทุกๆ เหตุการณ์ที่ผ่านมา
3.กอ.รมน.ภาค 4 สน.ได้สั่งการเน้นย้ำหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้มาลงโทษตามกระบวนการยุติธรรมอย่างเร่งด่วนต่อไป
เลขาธิการ ศอ.บต.รุดเยี่ยม-นักศึกษาแห่ดูที่เกิดเหตุ
ต่อมาเวลา 14.00 น. วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2557 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมนายซาฟีอี เจ๊ะเลาะ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส พล.ต.ต.พัฒนวุธ อังคะนาวิน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด(ผบก.ภ.จ.) นราธิวาสและคณะ เข้าเยี่ยมให้กำลังใจแก่นางพาดีละห์ ที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ จ.นราธิวาสและมอบเงินช่วยเหลือส่วนตัว
จากนั้น พ.ต.อ.ทวีพร้อมคณะเดินทางไปที่บ้านของนายเจะมุ และมอบเงินช่วยเหลือส่วนตัว โดยศพของเด็กทั้ง 3 ศพมีการประกอบพิธีทางศาสนาไปแล้วเมื่อช่วงเช้าวันเดียวกันที่กูโบร์แยเลาะ ม.2 ต.บาเจาะ
ขณะเดียวกัน ยังมีเพื่อนบ้าน กลุ่มนักศึกษาในพื้นที่จำนวนมากได้เข้าไปเยี่ยมและดูสถานที่เกิดเหตุด้วย
เชิญประกวดคลิป “ไม่ควรมีเด็กเป็นเหยื่อสงครามฯ”
ขณะที่ นางสาวอัญชนา หีมมิหน๊ะ จากองค์กร Children voice for peace ได้ประกาศเชิญชวนร่วมเข้าประกวดคลิปวีดีโอ เพื่อรณรงค์ยุติความรุนแรงในเด็ก ภายใต้หัวข้อ”Zero Children Victim in Deep South” ไม่ควรมีเด็กเป็นเหยื่อในสงครามชายแดนใต้/ปาตานี
สำหรับกติกาโครงการประกอบด้วย 1. สื่อมวลชนที่ทำงาน ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ และสี่อำเภอจังหวัดสงขลา เป็นกลุ่มองค์กร หรือ บุคคล 2. คลิปวีดีโอ ความยาว 1 นาที เพื่อใช้ในการรณรงค์ การปกป้องชีวิตเด็กในพื้นที่ขัดแย้ง 3. หลักเกณฑ์ในการตัดสิน คะแนนเต็ม 100 คะแนน แบ่งออกเป็น
โดยมีเกณฑ์การให้คะแนน ความคิดสร้างสรรค์ 40 คะแนน ความสวยงาม 30 คะแนน ความสอดคล้องกับหัวข้อ 20 คะแนน เนื้อหา คำพูด 10 คะแนน ซึ่งระยะเวลาส่งคลิปเข้าประกวด 20 มกราคม 2557 - 15 กุมภาพันธ์ 2557
ประกาศผลการประกวดวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2557 ในงานสื่อสันติภาพชายแดนใต้/ปาตานี ณ ม.อ.ปัตตานี โดยรางวัลที่ 1 ได้รับเงินสด 7000 บาท จำนวน 1 รางวัล รางวัลที่ 2 ได้รับเงินสด 5,000 บาท จำนวน 1 รางวัล และรางวัลที่ 3 ได้รับเงินสด 3,000 บาท จำนวน 1 รางวัล ทั้งนี้การตัดสินของคณะกรรมการถือเป็นที่สิ้นสุด
ผู้สนใจส่งคลิปวีดีโอเข้าประกวดในโครงการดังกล่าว สามารถติดต่อสอบถามได้ที่นางสาวอัญชนา หีมมิหน๊ะ หมายเลขโทรศัพท์ 081-8098609