คณะราษฏรเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดสุรินทร์ (คฏป.) ร่วมกับ สหพันธ์ประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (สปป.) จัดเวทีเสวนาประชาธิปไตย ภายใต้หัวข้อ “สืบสานเจตนารมณ์ราษฏร ปกป้องประชาธิปไตย”
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2557 ที่ วัดป่าโยธาประสิทธิ์ ตำบลนอกเมือง อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ คณะราษฏรเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดสุรินทร์ (คฏป.) ร่วมกับ สหพันธ์ประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (สปป.) ได้จัดให้มีเวทีเสวนาประชาธิปไตย ภายใต้หัวข้อ “สืบสานเจตนารมณ์ราษฏร ปกป้องประชาธิปไตย” โดยมีวิทยากรเข้าร่วมเสวนา คือ อาจารย์ศิโรฒม์ คล้ามไพบูลย์ นักวิชาการอิสระด้านรัฐศาสตร์, ผู้ช่วยศาสตราจารย์พฤกษ์ เถาถวิล อาจารย์ประจำคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี และนายเลื่อน ศรีสุโพธิ์ ประธานสหพันธ์ประชาชนเสรีเพื่อประชาธิปไตย (สปป.) โดยมีประชาชน ผู้รักประชาธิปไตยในจังหวัดสุรินทร์เข้าร่วมจำนวน 500 คน
เลื่อน ศรีสุโพธิ์ กล่าวว่า นับเป็นเวลา 81 ปี ที่เปลี่ยนแปลงการนาปกครองจากกลุ่มอำมาตย์ที่มีอำนาจเหนือกฎหมายมาเป็นกลุ่มอำมาตยือยู่ใต้กฏหมายรัฐธรรมนูญเครื่องมือที่ ปชป. ตั้งขึ้นมาเพื่อทำลายคณะราษฎร และคืนอำนาจให้กลับกลุ่มอำมาตย์ จนบัดนี้ ปชป.ยังคงเป็นแขนขาที่แข็งขันของกลุ่มอำมาตย์ และเครื่องมอสำคัญอีกอย่างคือทหาร ที่ใช้กองกองลังติดอาวุธป่าเถือนทำการยึดอำนาจจากประชาชน หรือ รัฐประหารหลายสิบครั้ง
เลื่อน ยังกล่าวต่อไปด้วยว่า นับจากปลายปี 2556 จนถึงวันนี้ กปปส. ซึ่งเป็น “กลุ่มอันธพาลทางการเมือง” ภายใต้เสื้อคลุมของ ปชป. ได้ใช้วิธีการทุกรูปแบบในการที่จะโค่นล้มนายกฯรักษาการยิ่งลักษณ์ให้จงได้ ล่าสุดยกขบวนไปปิดล้อมหน่วยเลือกตั้งล่วงหน้าหลายแห่ง จนประชาชนไม่สามารถลงคะแนนเลือกตั้ง ส.ส. ล่วงหน้าได้ในหลายเขตเลือกตั้ง สถานการณ์ดังกล่าว มีแนวโน้มนำไปสู่การไม่สามารรถเลือกตั้งได้ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 และคงนำไปสู่การเกิดจลาจล มิกสัญญี เกิดการนองเลือดครั้งใหญ่ ทำให้ทหารต้องออกมาทำรัฐประหารอย่างแน่นอน หากเกิดรับประหารดังกล่าว ทาง สปป. และภาคีเครือข่ายทั่วประเทศจะไม่ยอมอย่างเด็ดขาด โดยจะเดินถือธงนำหน้าพี่น้องประชาชนต่อต้านการรัฐประหารอย่างถึงที่สุด
พฤกษ์ เถาถวิล กล่าวว่า การที่ กลต. ให้มีการเลื่อนการเลือกตั้งได้โดยให้นายกฯรักษาการยิ่งลักษณ์ไปหารือกับ กกต. และตนเองว่า ประเด็นแรกคำแนะนำของ กลต. มันไม่มีอำนาจทางกฎหมายรองรับ ประเด็นที่สองคำแนะนำของ กลต. มันคลุมเครือ เพราะวันนี้มีการเลือกตั้งล่วงหน้าแล้ว และอีกไม่กี่วันจะมีการเลือกตั้งใหญ่ แล้วเขาจะคุยกันในวันจันทร์หรืออังคารนี้ ไม่รู้จะคุยไปทำไม แล้วรัฐบาลจะเลื่อนการเลือกตั้งหรือไม่? ในส่วนตัวคิดว่ารัฐบาลไม่ยอมเลื่อนเลือกตั้งอย่างแน่นอน คนเสื้อแดงก็คงไม่ยอมแน่นอน หรือ หากรัฐบาลตัดสินใจเลื่อนการเลือกตั้ง รัฐบาลจะเจอศึกหนักอย่างแน่นอน
พฤกษ์ เถาถวิล กล่าวด้วยว่า การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้ มันถูกต้องตามทำนองคลองธรรมอยู่แล้ว ดังนั้น พวกเราต้องยืนยันอย่างหนักแน่นว่า 2 กุมภาพันธ์ต้องมีเลือกตั้ง ไม่ต้องฟัง กลต. เพราะมันเป็นแค่คำแนะนำ นายกฯรักษาการยิ่งลักษณ์ ได้บริหารบ้านเมืองตามกฎหมายอย่างดี จึงไม่ใช่รัฐที่ล้มเหลว แต่พวก กปปส. ต่างหากที่ละเมิดกฎหมายอย่างโจ่งแจ้ง ทำความผิดมากมายต้องติดคุกไม่ต่ำกว่า 50 ปี
ต่อประเด็นการออก พรบ.ฉุกเฉินของนายกฯรักษาการ พฤกษ์ เห็นว่า เป็นดาบ 2 คม ทำให้รัฐบาลที่เป็นฝ่ายรุกทางการเมือง เพราะที่ผ่านมารัฐบาลไม่เคยใช้ความรุนแรง มีความชอบธรรม หากรัฐบาลใช้อำนาจจัดการแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดจะเสียทางการเมืองมาก รัฐบาลต้องระมัดระวังในการใช้กฏหมายนี้ อย่าให้คนมาด่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์เหมือนด่ารัฐบาลอภิสิทธิ์เหมือนปี 2553 เลย
พฤกษ์ ยังกล่าวด้วยว่า ม๊อบ กปปส. เป็น ม๊อบอภิสิทธิ์ชน คนจนจ่ายภาษีมากครึ่งหนึ่งของประเทศด้วยซ้ำ ที่น่าตกใจคืองบทหารแต่ละปีจำนวนมหาศาล แต่พอมีนโยบายจะสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูง กลับบอกว่าใช้งบประมาณเยอะไม่คุ้มทุน การพัฒนาที่เป็นแบบนี้ เพราะมันเกิดขึ้นท่ามกลางการเมืองที่เป็นระบบประชาธิปไตยครึ่ง ๆ กลาง ๆ หรือ ยุคเผด็จการในสมัยจอมพล ป. จอมพลสฤษดิ์ จอมพลถนอม และในยุคเปรมาธิปไตยสมัยพลเอกเปรม ระบบแบบนี้ทำให้คนกลุ่มหนึ่งที่ผูกขาดก็คือกลุ่มอภิสิทธิ์ชนในการจัดการกับประเทศไทย
พฤกษ์ ยังเสนอด้วยว่า 2 กุมภาพันธ์ เป็นการยืนยันว่า เราเป็นคนเท่ากัน หนึ่งสิทธิ์ หนึ่งเสียง และการเลื่อนการเลือกตั้ง มันคือ การรัฐประหาร ดังนั้น การไปเลือกตั้ง คือ การต่อต้านการรัฐประหารนั่นเอง
ต่อประเด็นการผูกขาดการรักในหลวงของพวกคนเสื้อเหลืองไม่ว่าจะเป็น พธม.จนถึง กปปส. กล่าวว่า เขาปลูกฝังบทบาทของสถาบันกษัตริย์มาตั้งแต่ในโรงเรียนอย่างมากเป็นพิเศษ ลักษณะเช่นนี้มีข้อดีคือ มันสร้างความเป็นปึกแผ่น เป็นเอกภาให้กับสังคมไทย แต่ในขณะเดียวกันมันสร้างความผูกติดต่อ “แนวคิดราชาชาตินิยม” อย่างที่ ดร.ธงชัย เคยเสนอไว้ ทำให้การพัฒนาเปลี่ยนแปลงของสถาบันฯทำได้น้อย และการที่ ม็อบโหนเจ้า หรือ แอบอิงเจ้า ทำให้ผลักไสฝ่ายหนึ่งเป็นฝ่ายไม่เอาเจ้า ตลอดจนยัดเหยียดข้อหาการล้มเจ้าให้อีกฝ่ายหนึ่งไป
ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ กล่าวว่า ปัญหาประชาธิปไตยไทย ปัจจัยสำคัญประการหนึ่งคือการที่คนส่วนน้อยแค่ 30 เปอร์เซ็นต์เป็นผู้ครอบครองอำนาจ แต่คนส่วนใหญ่ที่เป็นประชาชนผู้เสียภาษีที่มีถึง 70 เปอร์เซ็นต์ไม่เคยมีอำนาจในการปกครองตนเองเลย เมื่อรัฐบาลทักษิณมีนโยบายดี ๆ เช่น 30 บาทรักษาทุกดรค ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อประชาชนส่วนใหญ่กลับถูกกล่าวหาต่าง ๆ นา ๆ จนถูกรัฐประหารไป และในรัฐบาลชุดนี้กำลังจะทำรถไฟฟ้าความเร็วสูง พวกอภิสิทธิ์ชนจำนวนน้อยกลับบอกว่าให้ไปทำถนนให้ครบทุกหมู่บ้านก่อน มันจึงเกิดความขัดแย้งระหว่างคนส่วนน้อยกับคนส่วนใหญ่ในวันนี้
ศิโรตม์ เห็นว่า ภาระหน้าที่ของพวกเราคือ ต้องเดินหน้าเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ เพราะเป็นหน้าที่ที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ คนอื่นจะมาห้ามเราไม่ให้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งไม่ได้ เพราะหากห้ามไม่ให้เลือกตั้ง ก็แปลว่าคุณกำลังฉีก รธน.อยู่ คนที่กำลังฉีก รธน. อยู่ก็คือ ศาลรัฐธรรมนูญ และประชาชนต้องช่วยกันไปปกป้องประชาธิปไตย ปกป้องการเลือกตั้ง พลังของประชาชนฝ่ายประชาธิปไตยกำลังกดดันให้คุณสุเทพ กำลังวิตกกังวล กำลังจนตรอก เป็นอาการของคนเข้าตาจน และกำลังเป็นบ้า และเสนอด้วยว่า การไปเลือกตั้ง ก็คือ การไปปกป้องประชาธิปไตย
ต่อมาในเวทีเสวนาประชาธิปไตยดังกล่าว ได้มีการอ่านคำประกาศเจตนารมณ์สถาปนาองค์กรประชาธิปไตยประชาชน คือ “คณะราษฏรเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดสุรินทร์” (คฏป.) และอ่านแถลงการณ์ ฉบับที่ 1 ของ คฏป. และมีพิธีการมอบ “ธงตราสัญลักษณ์” ให้กับกลุ่ม องค์กรสมาชิกของ คฏป. จากอำเภอต่าง ๆ ในจังหวัดสุรินทร์ สุดท้ายได้มีการอ่านแถลงการณ์ ฉบับที่ 6 ของ “สหพันธ์ประชาชนเสรีเพื่อประชาธิปไตย”(สปป.) โดยมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
คำปฏิญาณประกาศเจตนารมณ์สถาปนาองค์กรประชาธิปไตยประชาชน
“คณะราษฎรเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดสุรินทร์” (คฎป.)
ข้าพเจ้า นายไพโรจน์ สุโทสาได้รับเกียรติ์อันเป็นฉันทามติ ของ คณะราษฎรเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดสุรินทร์ ตัวย่อ คฎป. ให้เป็นตัวแทนนำกล่าว ประกาศเจตนารมณ์ และกล่าวคำปฏิญาณตน เพื่อสถาปนาองค์กรประชาธิปไตยของประชาชนร่วมกัน
นับเนื่องจากการประกาศเจตนา มหาศรีสวัสดิ์ บรรพชนอภิวัตน์ สยามประชาธิปไตย ณ เวลาย่ำรุ่ง 24 มิถุนายน 2474 ได้แจ้งให้ประชาชนในแผ่นดินนี้ ได้ทราบทั่วกันว่า “ราษฎรทั้งหลาย พึงรู้เถิดว่า ประเทศของเรานี้ เป็นของราษฎร” เพื่อเป็นการสืบทอดเจตนารมณ์ดังกล่าว ณ เวลานี้ วันที่ 26 มกราคม 2557 มวลมิตรสหาย หมู่คณะ กลุ่มองค์กร สักขีพยาน ผู้มีเกียรติ์และผู้เคารพในประชาธิปไตย ได้มารวมอยู่ใน ณ ที่นี่ จึงเป็นกาลเวลาอันเหมาะสม ที่จะได้กล่าวคำปฏิญาณตนร่วมกัน เพื่อสถาปนา คณะราษฎรเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดสุรินทร์ร่วมกัน
จึงขอให้ประชาชนผู้รักประชาธิปไตยทุกท่าน กล่าวคำปฏิญาณตนตามข้าพเจ้า ดังนี้
ข้าพเจ้า ผู้รักชาติรักประชาธิปไตย จะเทิดทูนและเคารพ หลักการแห่งประชาธิปไตย จะสืบสานอุดมการณ์ประชาธิปไตย จะยึดถือเจตนา อำนาจเป็นของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชน ข้าพเจ้าจะร่วมกัน ปกป้องเจตนา อันบริสุทธิ์อันนี้ และจะต่อต้าน อำนาจนอกระบบ อำนาจการกดขี่ขูดรีด อำนาจการครอบงำ ที่จะเข้าบิดเบือนแย่งชิง เอาไปจากประชาชน
บัดนี้ ข้าพเจ้าผู้รักชาติรักประชาธิปไตย ขอสถาปนา องค์กรประชาธิปไตย ของประชาชน ที่มีชื่อว่า คณะราษฎรเพื่อประชาธิปไตย จังหวัดสุรินทร์ ตัวย่อ ค ฎ ป . เพื่อให้เป็นองค์กร ของผู้รักประชาธิปไตย ในจังหวัดสุรินทร์ และจะร่วมเคลื่อนไหวปฏิบัติการ กับมิตรสหายที่ใกล้ชิด และแนวร่วมประชาชนผู้รักประชาธิปไตยทุกกลุ่ม ทุกองค์กร และจะเคารพสิทธิ เสมอภาค ในหมู่มวลประชาชน
ข้าพเจ้า จึงขอสถาปนาไว้ เพื่อให้ดอกผลแห่งประชาธิปไตย ได้ขจรไกล ณ บัดนี้เทอญ
............ไชโย...........ไชโย...........ไชโย................
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
แถลงการณ์ ฉบับที่ 1
คณะราษฎรเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดสุรินทร์ ( ค ฎ ป .)
จากการติดตามสถานการณ์ทางการเมืองอย่างใกล้ชิดและตื่นตัวทางการเมือง ของ คณะราษฎรเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดสุรินทร์ ตัวย่อ คฎป. พบว่า การเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่มที่เรียกตนเองว่า กปปส. ไม่ใช่การเคลื่อนไหวของ การเมืองภาคประชาชน หากแต่เป็น กลุ่มแก๊งอันธพาลทางการเมือง ที่มีเครือข่ายอำนาจนอกระบบหนุนหลัง และมีพฤติกรรม ข่มขู่ คุกคาม สิทธิและเสรีภาพของประชาชน และร่วมกับเครือข่ายปัญญาชนฝ่ายอนุรักษ์นิยม กระทำการบิดเบือนเจตนารมณ์แห่งรัฐธรรมนูญ ดูถูกเหยียดหยามคุณค่าของความเป็นมนุษย์ ที่มองเห็นคนไม่เท่ากัน อีกทั้ง มีความพยายามยึดแย่งเอาอำนาจของประชาชนในระบอบประชาธิปไตย ด้วยการอ้างการปฏิวัติประชาชนจอมปลอม เพื่อให้อำนาจนอกระบบเข้าแทรกแซง แย่งเอาอำนาจในระบอบประชาธิปไตยไปจากประชาชน คณะราษฎรเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดสุรินทร์ จึงได้มีความเห็นต่อสถานการณ์และพฤติกรรมอันเป็นภัยคุกคามต่อระบอบประชาธิปไตย ดังนี้
๑. ให้รัฐบาลเดินหน้าเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 เพื่อให้กระบวนการประชาธิปไตยได้เดินหน้าไป ด้วยการเคารพสิทธิเท่าเทียม หนึ่งคน หนึ่งสิทธิ์ หนึ่งเสียง
การเลื่อนเลือกตั้งจึงเท่ากับการล้มรัฐธรรมนูญ การล้มรัฐธรรมนูญจึงเท่ากับการรัฐประหาร
๒. หากมีการรัฐประหาร เสนอให้รัฐบาล ในฐานะตัวแทนอำนาจอันชอบธรรมของประชาชน จัดตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น เพื่อธำรงอำนาจอันชอบธรรมของประชาชน และนำพาการต่อสู้ ต่อต้านอำนาจนอกระบบ เพื่อให้เป็นประชาธิปไตยของประชาชน
๓. เสนอให้ผู้รักชาติรักประชาธิปไตย รวมกลุ่มจัดตั้งอย่างเป็นระบบ และมีเป้าหมายร่วมกัน ในการดำเนินการเคลื่อนไหวเรียกร้อง ต่อสู้ ต่อต้านการรัฐประหารและอำนาจนอกระบบทุกรูปแบบ
จึงแถลงการณ์มาให้ทราบโดยทั่วกัน
ขอคารวะต่อดวงจิตผู้รักชาติรักประชาธิปไตยทุกดวง
คณะราษฎรเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดสุรินทร์ (คฏป.)
26 มกราคม 2557
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
แถลงการณ์ ฉบับที่ 6
“ต่อต้านการรัฐประหาร ปกป้องระบอบประชาธิปไตย เดินหน้าเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์!!!”
สถานการณ์ในวันนี้ เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ กล่าวคือ “กลุ่มพลังอนุรักษ์นิยม-จารีตนิยมขวาจัด” ได้ดิ้นรนเฮือกสุดท้าย โดยอาศัย “เครื่องมือ” หรือ “กลไก” ที่มีอยู่อย่างเต็มที่ เปิดเผยแบบไม่อายหน้าอินทร์หน้าพรหม ด้วยการ “สั่งการ” ให้องค์กรอิสระ คือ “ศาลรัฐธรรมนูญ” มีมติเอกฉันท์ 8 ต่อ 0 ให้ “เลื่อนการเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์” ออกไป หรือ สามารถออก “พระราชกฤษฏีกา” กำหนดวันเลือกตั้งใหม่ได้
กระนั้นก็ดี แม้ ตลก. จะมีมติให้สามารถเลื่อนการเลือกตั้งได้ โดยการให้นายกฯรักษาการยิ่งลักษณ์ ไปหารือร่วมกับประธาน กกต. แต่ “กลุ่มกบฏเทพเทือก” ก็ยังไม่ยอมละความพยายามในการที่จะโค่นล้มรัฐบาลรักษาการยิ่งลักษณ์ โดยมีมาตรการด้วยการ “ปิดถนน ปิดสถานที่เลือกตั้งล่วงหน้า” ในวันนี้ เพื่อกดดันให้นายกฯรักษาการ “ลาออก” ในทันที.....
ควรต้องกล่าวด้วยว่า “กลุ่มกบฏเทพเทือก” เป็น “ม๊อบรับจ้างมีเส้น - ไม่บริสุทธิ์” ที่มี “กลุ่มอำนาจอำนาจเหนือรัฐ” ให้การ “อุปถัมภ์” อยู่เบื้องหลังอย่างเปิดเผยและประสานงานกันเป็นระบบ ทำให้เหิมเกริมไม่กรงใจใครทั้งสิ้น และพวกมันได้ “ออกแบบวางเผยไว้” ดังนี้
1. หากไม่สามารถหยุดยั้งการเลือกตั้งของประชาชนในวันที่ 26 กุมภาพันธ์นี้ได้ ก็จะทำการก่อ “จลาจล” ตั้งแต่วันที่ 30 กุมภาพันธ์ เป็นต้นไป โดยใช้ “กองโจรคนใต้” กับ “กลุ่มทหารนอกแถว” ทำการเข่น “ฆ่า” ประชาชนผู้บริสุทธิ์ไม่ว่าจะเป็น “พวกกันเอง” และประชาชนผู้บริสุทธิ์ทั่วไป เป็นการกระทำที่บ้าคลั่ง และหมดสิ้นแล้วของความเป็น “คน”....
2. ในขณะเดียวกันก็จะบีบให้ “องค์กรอิสระ” ที่เป็น “ลูกกระโปกของอำมาตย์” ใช้ทุกวิถีทางในการ “ยุบพรรคการเมือง” ทุกพรรคการเมือง ยกเว้น “พรรคประชาธิปัตย์” เพื่อให้รัฐบาลรักษาการ นายกฯรักษาการยิ่งลักษณ์ หมดสิ้นสภาพโดยสิ้นเชิง หลังจากนั้นก็จัดตั้ง “รัฐบาลพระราชทาน / รัฐบาลแห่งชาติ/ รัฐบาล ม.7” ตามเป้าหมายทาง “อุดมการณ์” ของตนเองต่อไป
3. หากทุกอย่างเป็นไปตาม “แผนการร้าย” ดังกล่าว ก็จะเกิดการลุกขึ้นสู้ของ “กลุ่มพลังประชาธิปไตย” ในขอบเขตทั่วประเทศ เกิดการนองเลือดครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของสังคมไทย จนทำให้ “กองกำลังป่าเถื่อนติดอาวุธ” หรือ “ทหาร” ออกมาทำการยึดอำนาจ “รัฐประหาร” และไล่ล่าเข่นฆ่าปฏิปักษ์ทางการเมืองของตนเองให้สิ้นซากในที่สุด
ด้วยเหตุดังนั้น ทาง “สหพันธ์ประชาชนเสรีเพื่อประชาธิปไตย” (สปป.) ซึ่งเป็นองค์กรประสานความร่วมมือ “กลุ่มพลังประชาธิปไตย” เพื่อสถาปนา, สร้างสรรค์ “ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แท้จริง” ได้ประเมินสถานการณ์ และมีข้อเสนอต่อสังคมไทย ดังต่อไปนี้
ข้อเสนอต่อกลุ่มทหาร
ขอประณามความคิด และให้ยุติความคิดที่จะใช้ “กองกำลังป่าเถื่อนติดอาวุธ” เข้ายึดอำนาจของประชาชน ด้วยวิธีการ “รัฐประหาร” เพราะวิธีการดังกล่าว “ล้าสมัย” ไม่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์โลก และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ทุกกลุ่มประเทศในโลกนี้ ต้องการ “ประชาธิปไตย” และ “สันติภาพ” เพื่อสร้างสรรค์เศรษฐกิจให้รุดหน้า เพิ่มพูนโภคทรัพย์ ความอุดมสมบูรณ์ของ “อาหาร” เพื่อให้ประชาชนไทย “มีกิน มีใช้” และถึงเวลาลืมตาอ้าปากได้เสียที......
ข้อเสนอต่อรัฐบาลรักษาการฯยิ่งลักษณ์
1. ให้รัฐบาลรักษาการ นกยกฯรักษาการยิ่งลักษณ์ ยืนหยัดอยู่ในหลักการของระบอบประชาธิปไตยภายใต้กรอบอันชอบธรรมด้วยรัฐธรรมนูญ โดยไม่ให้มีการ “เลื่อนการเลือกตั้ง” ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 โดยเด็ดขาด เพราะการเลื่อนการเลือกตั้งก็เท่ากับ “การล้มการเลือกตั้ง” นั่นเอง และจะนำไปสู่การเกิดมิคสัญญี นองเลือดทั้งแผ่นดินเร็ววันขึ้น
2. ให้รัฐบาลรักษาการ นายกฯรักษาการยิ่งลักษณ์ ใช้อำนาจอันชอบธรรมตามรัฐธรรมนูยในการบริหารราชการแผ่นดินอย่างเต็มที่ โดยอาศัย “พรก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน” สั่งการอย่างเป็นรูปธรรม ด้วยการกำกับและควบคุมกระบวนการเลือกตั้ง นับตั้งแต่วันที่ 26 มกราคม จนถึง วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 อย่างให้พวก “โจรอันธพาล” หรือพวก “กบฏเทพเทือก” มันได้เหิมเกริมไปกว่านี้เลย และให้ “ดูแลเป็นพิเศษ” กับ “กลไกรัฐ” ของตนเอง ไม่ว่าจะเป็น “ตำรวจ” “ทหาร” “ข้าราชการพลเรือน” ที่ทำหน้าที่ในการอำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชนที่ออกมาใช้ “หนึ่งสิทธิ์ หนึ่งเสียง” อย่างมีความปลอดภัย
3. หากเกิดการรัฐประหารโดย “กองกำลังป่าเถื่อนติดอาวุธ” หรือ ทหาร ขอสนับสนุนให้นายกฯรักษาการยิ่งลักษณ์ กระทำการจัดตั้ง “รัฐบาลพลัดถิ่น” และ “กองทัพรัฐบาลพลัดถิ่น” ในทันที ทั้งนี้ เพื่อกอบกู้บ้านเมืองให้กลับคือสู่การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอย่างเร็ววัน
ข้อเสนอต่อ นปช.แดงทั้งแผ่นดิน และกลุ่มพลังประชาธิปไตย ต่าง ๆ
1. หากเกิดรัฐประหาร ขอเรียกร้องไปยัง นปช.แดงทั้งแผ่นดิน ประสานงาน “กลุ่มพลังประชาธิปไตย” หรือ กลุ่มแดงอิสระ อื่น ๆ ให้ออกมา “ชุมนุมต่อต้านรัฐประหาร” ในทันที โดยให้รวมตัวกันที่หน้า “ศาลากลางจังหวัด” ของทุกจังหวัด ด้วยวิธีการชุมนุมประท้วงแบบสันติอหิงสา
2. ให้ประชาชน เสรีชน และผู้รักประชาธิปไตยทั้งประเทศ ให้เตรียมความพร้อมอย่างเร่งด่วน ในลักษณะ “5 เตรียม” คือ 1. เตรียมคน 2. เตรียมความคิดจิตใจ 3. เตรียมเสบียง 4. เตรียมอุปกรณ์และ 5. เตรียมต่อสู้แบบยืดเยื้อยาวนาน และในขณะเดียวกันขอเรียกร้องให้ทำการประสานงานกันเป็น “เครือข่าย” เพื่อสะดวกในการติดต่อสื่อสาร และเป็นเสริมสร้าง ยกระดับการต่อสู้ของ “กลุ่มพลังประชาธิปไตย” ต่าง ๆ ได้เข้มแข็งขึ้น
ขอประกาศจุดยืนของ สปป. และภาคีเครือข่าย ดังต่อไปนี้
1. จักดำเนินการต่อต้านการ “รัฐประหาร” ในทุกรูปแบบ และจะยืนเคียงข้างกับพี่น้องประชาชนอย่างถึงที่สุด จนได้มาซึ่งชัยชนะ
2. ไม่เอารัฐบาลพระราชทาน / รัฐบาลที่มาจาก ม.7 อย่างเด็ดขาด
3. จักเดินหน้าคัดค้าน และต่อต้าน “อำนาจนอกระบบเหนือรัฐ” ที่แทรกแซงทางการเมือง ทุกรูปแบบ
4. จักสนับสนุนและเข้าร่วมผลักดันเพื่อให้เกิด “การเลือกตั้ง 2 กุมภา เดินหน้าประชาธิปไตย” โดยไม่มีเงื่อนไข
ประชาชน เสรีชน ผู้รักประชาธิปไตย จงลุกขึ้นสู้ !!!
สหพันธ์ประชาชนเสรีเพื่อประชาธิปไตย (สปป.)
26 มกราคม 2557