23 ม.ค.2557 สุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ กสทช. เขียนบล็อกส่วนตัวกรณีมีการตั้งคำถามว่า หากรัฐบาลจะปิดกั้นสื่อ หลังประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (22 ม.ค.) จะทำได้หรือไม่ โดยสุภิญญา ระบุว่า ศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) จะปิดสถานีโทรทัศน์ที่ถูกกฎหมายเองไม่ได้เพราะอำนาจตาม พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ. 2553 และ พ.ร.บ.ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 อยู่ที่ กสทช. ถ้าจะปิด ต้องสั่งผ่าน กสทช. เว้นแต่เป็นสถานีเถื่อน (สถานีที่ไม่ได้รับใบอนุญาต) ส่วนสถานีบลูสกาย และอื่นๆ เพิ่งได้รับการต่อใบอนุญาตอีก 2 ปีจากบอร์ด กสท./กสทช. จึงได้รับการคุ้มครองทางกฎหมาย ต่างจากในอดีตที่สถานีวิทยุ – โทรทัศน์อาจถูกปิดได้ง่ายกว่า เพราะเป็นสถานีที่ใช้คลื่นผิดกฎหมายไม่ได้รับอนุญาต รวมทั้งยังไม่มี กสทช.
สุภิญญา ระบุด้วยว่า ขณะนี้ทีวีดาวเทียมส่วนใหญ่ได้รับอนุญาตแล้ว ส่วนช่องที่หมดอายุก็จะสามารถต่อใบอนุญาตได้อีก 2 ปี ยกเว้นสถานีที่ถูกร้องเรียนจากทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ยังไม่สามารถต่อใบอนุญาตเพราะต้องมาเคลียร์ตนเองก่อนใน 30 วันจากนี้ ส่วนช่องบลูสกายได้ต่อใบอนุญาตไปแล้วเมื่อวันที่ 20 ม.ค.57
ทั้งนี้ สุภิญญา แสดงความเห็นว่า ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยเฉพาะการนำมาใช้ควบคุมสื่อ สมัยปี 53 ตอนที่ตนเองเป็นเอ็นจีโอก็ค้าน ตอนนี้เป็น กสทช. ยิ่งไม่เห็นด้วย รัฐธรรมนูญให้อำนาจ กสทช. ในฐานะองค์กรอิสระมากำกับดูแลสื่อตาม พ.ร.บ. ถ้ารัฐบาลเคารพรัฐธรรมนูญต้องไม่ใช้อำนาจเหนืออำนาจ กสทช. ขณะที่ กสทช. ต้องยืนยันความเป็นอิสระจากรัฐบาลในการธำรงสิทธิเสรีภาพของสื่อ
"ผู้ประกอบการสื่อไม่ต้องตื่นตกใจ ใบอนุญาตของท่านคือเกราะป้องกันเสรีภาพในเวลานี้ มีข้อข้องใจเสนอหรือหารือมาที่ กสทช. ไม่ต้องกลัวเกินไป แต่ให้รับผิดชอบต่อประชาชนหรือคนดู"สุภิญญาระบุ
อย่างไรก็ตาม สุภิญญา ชี้แจงด้วยว่า ได้ทำหนังสือเสนอให้ สำนักงาน กสทช. ทำความเข้าใจกับผู้รับใบอนุญาตให้เข้าใจข้อกฎหมาย จะได้ไม่ต้องตื่นตระหนกกับ พ.ร.ก.ฉบับนี้จนเกินไป
ต่อคำถามว่า ศรส. สามารถใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มาตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตได้หรือไม่ สุภิญญา ตอบว่า ทำไม่ได้โดยง่าย ทั้งในทางเทคนิคและทางกฎหมาย เพราะ ISP หรือผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต เป็นผู้รับใบอนุญาตตามกฎหมาย กสทช. การไปตัดสัญญาณกระทบผู้ใช้บริการทั้งหมด ISP ต้องรับผิดชอบ เพราะเน็ตเป็นท่อส่งข้อมูลข่าวสารของคนทั่วโลก
ส่วนการปิดเฉพาะเว็บ รัฐบาลใช้อำนาจผ่านกระทรวงไอซีที ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์พระราชบัญญัติ พ.ศ. 2550 ได้อยู่แล้วตามปรกติ ซึ่งตาม พ.ร.บ.ต้องขอหมายศาล อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวมองว่า ในยุค 3G 4G การปิดกั้นเทคโนโลยีการสื่อสารเป็นการกระทำที่สวนทางกับความเป็นจริง รัฐบาลต้องทำใจ