เสนอปลดล็อควิกฤติการเมืองไทย คู่ขัดแย้งต้องเจรจา พร้อมเร่งปฏิรูปลดความเหลื่อมล้ำ เสนอยึดหลักการและความเป็นจริงควบคู่กันในการแก้วิกฤติการเมืองและเงินจำนำข้าวของชาวนา
23 ม.ค.2557 ศรีสุวรรณ ควรขจร ประธานคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) และประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ ร่วมกันแถลงข่าว หลังการเสวนา ‘ปลดล็อควิกฤตการเมืองไทย...เดินหน้าปฏิรูปการเมือง’ ณ อาคารวชิรานุสรณ์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์บางเขน
โดยศรีสุวรรณ ควรขจร ประธาน กป.อพช. กล่าวว่า ท่ามกลางวิกฤตทางการเมืองที่หนักที่สุดและมีความสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดความรุนแรงและความร้าวฉานจนสังคมแตกแยกที่อาจต้องใช้การเยียวยาเป็นชั่วอายุคน จึงขอเสนอ 4 หลักการดังนี้
“1. ไม่มีทางออกจากวิกฤตครั้งนี้ได้ ถ้าคู่ขัดแย้งไม่ยอมเจรจา ฉะนั้นคู่ขัดแย้งต้องเจรจา 2. ประชาชนต้องร่วมกันเรียกร้องและกดดันคู่ขัดแย้งให้เจรจา 3.ต้องเร่งปฏิรูปทันที จะรอสถานการณ์การเมืองคลี่คลายไม่ได้ ต้องทำให้ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจหมดไป กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ประชาชนต้องมีส่วนร่วมในการตัดสินใจอย่างแท้จริง นโยบายต้องเป็นธรรม ยั่งยืน โดยเริ่มจากกลไกที่มีส่วนร่วมของทุกฝ่าย และ 4.ต้องใช้หลักการทางนิติศาสตร์ และความเป็นจริงอย่างสมดุลในการแก้ปัญหาเรื่องการเมืองและปัญหาของชาวนาที่เผชิญอยู่ในขณะนี้
ดังนั้นข้อเสนอเพื่อการปลดล็อกอย่างเป็นรูปธรรม คือ รัฐบาลต้องยกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินทันที เพื่อลดการเผชิญหน้าและปรับปรุงบรรยากาศทางการเมืองขณะนี้ให้ดีขึ้น 2.คู่ขัดแย้งต้องเป็นผู้ริเริ่มในการเจรจา เช่น ฝ่ายรัฐแสดงความจริงใจด้วยการไม่ปิดตายกำหนดการเลือกตั้ง เพื่อชักชวนทุกพรรคมาหารือแก้วิกฤติเพื่อขยับวันเลือกตั้งตามที่เป็นไปได้ตามกฎหมาย โดยพรรคประชาธิปัตย์ต้องลงเลือกตั้ง เดินหน้าควบคู่ไปกับการวาง Road Map การปฏิรูป ซึ่งที่ผ่านมาเคยมีการเจรจาสำเร็จในระดับหนึ่งไปแล้ว แต่ก็ล้มระหว่างทาง และ 3.เร่งหาทางออกในการช่วยเหลือชาวนาโดยสร้างความสมดุล ระหว่างหลักนิติศาสตร์และความเป็นจริงที่ชาวนากำลังเดือดร้อน”
ทั้งนี้ ประธาน กป.อพช.กล่าวยอมรับว่า ทั้งองค์กรพัฒนาเอกชนและสภาเกษตรกรคงไม่มีความสามารถที่จะไปเป็นตัวกลางในการเจรจา แต่ขอทำหน้าที่เพื่อเตือนสติคู่ขัดแย้งว่า ถึงเวลาแล้วที่ต้องเลือกหนทางการเจรจา และต้องช่วยกันเป็นผู้ปลดชนวนความรุนแรง เพราะทั้งการดึงดันเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ. และการขัดขวางการเลือกตั้งล้วนแล้วแต่จะสร้างทั้งความสูญเสีย และความโกรธแค้นและเกลียดชังในหมู่ประชาชน
ทางด้านประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรกล่าวว่า มีความเป็นห่วงอย่างยิ่งที่จะเกิดความสูญเสีย เพราะความขัดแย้งต่างๆ มักต้องจบลงไม่ด้วยการใช้กำลังก็ต้องเป็นการเจรจา ดังนั้นอย่างน้อยคู่ขัดแย้งทั้งทางรัฐบาลและ กปปส. จะต้องเริ่มพูดคุยกันบ้าง อย่างน้อยเปิดช่องทางก็ยังดี ต้องไม่ปิดกั้นทั้งหมด
“ที่ผ่านมา การปฏิรูปการเมืองแต่ละครั้ง เกษตรกรได้รับประโยชน์น้อยมาก จึงไม่อยากให้การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองใดๆ ในครั้งนี้ สร้างปัญหาเดิมอีก และอยากบอกคุณสุเทพว่า ต้องเปิดช่องให้มีการพูดคุยกัน ไม่เช่นนั้น มีคนตายแน่ๆ สูญเสียมากแน่ๆ แกนนำไม่ตายหรอกครับ คนข้างหน้านั่นแหละที่จะตาย”
ทั้งนี้ ประธานสภาเกษตรกรกล่าวว่า การเมืองเชิงศีลธรรมนั้นไม่สามารถทำให้เกิดได้ชั่วข้ามคืน และยิ่งไม่สามารถทำให้เกิดได้ถ้ามีคนตายจำนวนมาก ถ้าต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงต้องเจรจา