ชาวนาใน จ.พิจิตร และ จ.บุรีรัมย์ ที่ไม่ได้รับเงินจากโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลรวมตัวปิดถนน ด้าน "กิตติรัตน์"ระบุล่าช้าเพราะต้องผ่านความเห็นชอบของ กกต.ก่อน รวมถึงพรรคประชาธิปัตย์ยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความ ร่าง พ.ร.บ.งบมาณปี 57 ทำให้ชาวนาส่วนหนึ่งยังไม่ได้รับเงินค่าจำนำ
17 ม.ค. 2557 - สำนักข่าวไทยรายงานว่าที่หน้า ธ.ก.ส.สาขาบึงนาราง จ.พิจิตร มีเกษตรกรจากหลายอำเภอ มาประท้วงปิดถนน เนื่องจากไม่ได้รับเงินจากโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล ทำให้การจราจรขาล่องจากพิษณุโลกมุ่งหน้านครสวรรค์ ไม่สามารถใช้การได้ เจ้าหน้าที่ต้องเปิดช่องทางพิเศษ
ด้านแนวหน้ารายงานว่าเมื่อวันที่ 17 ม.ค. เมื่อเวลา 15.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กลุ่มเกษตรกรจากทั้ง 23 อำเภอ ที่จังหวัดบุรีรัมย์ จำนวนหลายพันคน ที่มาชุมนุมประท้วงหน้าศูนย์ราชการจังหวัด เพื่อทวงเงินในโครงการรับจำนำข้าว ที่รัฐบาลค้างจ่าย 3 - 4 เดือน ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้ยกระดับการชุมนุมโดยการจัดตั้งเวที ปิดถนนสายเลี่ยงเมือง หมายเลข 226 บุรีรัมย์ –สุรินทร์ ด้านหน้าศูนย์ราชการจังหวัด ต.เสม็ด อ.เมืองบุรีรัมย์ แล้ว 2 ช่องจราจร พร้อมทั้งมีการกางเต็นท์ นำเสบียงอาหาร น้ำดื่มมาปักหลักชุมนุม คาดว่าจะยืดเยื้อไปจนถึงวันพรุ่งนี้ (18 ม.ค.) หลังไม่ได้รับคำตอบชัดเจนจากทางจังหวัด ว่าจะได้รับเงินในวันไหนเมื่อใด
โดยมีเพียงนายวิทยา จันทร์ฉลอง รองผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นตัวแทนมาสอบถามความเดือดร้อน จากเกษตรกรที่มาชุมนุมเท่านั้น แต่ไม่สามารถให้คำตอบ ตามที่กลุ่มเกษตรกรเรียกร้องได้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ และอส.ก็ได้มีการตรึงกำลัง ทั้งบริเวณทางขึ้นและประตูเข้า-ออก ศูนย์ราชการอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมเข้าไปภายในอาคาร
และเพื่อป้องกันกลุ่มมือที่สาม หรือผู้ไม่หวังดีสร้างสถานการณ์รุนแรง หรือก่อเหตุความวุ่นวาย ที่อาจจะสร้างความเสียหายแก่ทรัพย์สิน ของทางราชการได้ ทั้งนี้ยังมีรถแพทย์ พยาบาล มาประจำอยู่ยังจุดชุมนุมด้วย
ด้านนายสมบูรณ์ กลั่นประโคน อายุ 46 ปี เกษตรกรบ้านศรีสมบูรณ์ ต.เมืองฝาง อ.เมือง บอกว่า สาเหตุที่มาชุมนุมในครั้งนี้ เพราะได้รับความเดือดร้อน จากกรณีที่นำข้าวไปเข้าร่วมโครงการรับจำนำของรัฐบาล แต่กลับไม่ได้รับเงินทำให้ไม่มีเงินไปใช้จ่ายในครอบครัว และชำระหนี้สิน ซ้ำขณะนี้ยังมีใบทวงหนี้ ที่ไปกู้ยืมจาก ธกส.มาลงทุนทำนา จนต้องไปกู้ยืมเงินนอกระบบมาใช้จ่าย และส่งดอกเบี้ยให้ ธกส. สร้างความเดือดร้อนให้กับครอบครัวเป็นอย่างมาก จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งจ่ายเงินจำนำข้าวที่ค้างจ่ายโดยเร็วด้วย
ขณะที่นายสมชาย ภิรมย์ชาติ แกนนำเกษตรกรที่มาชุมนุม บอกว่า การมาชุมนุมประท้วงในครั้งนี้ เพื่อกดดันให้รัฐบาลเร่งจ่ายเงินโครงการรับจำนำข้าว ให้เกษตรกรที่ยังไม่ได้รับเงินโดยเร็ว แต่หากทางจังหวัดหรือรัฐบาลยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจน หรือไม่สามารถจ่ายเงินให้เกษตรกรได้ตามข้อเรียกร้อง ก็พร้อมจะยกระดับการชุมนุมขึ้นอีก โดยการปิดถนนทั้ง 4 ช่องจราจร และปักหลักชุมนุมยืดเยื้อจนกว่าจะได้รับเงิน
"กิตติรัตน์"อ้างติดปัญหาข้อกฎหมายจึงยังจ่ายเงินให้ชาวนาไม่ได้
สำนักข่าวไทยรายงานว่านายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิดในโครงการรับจำนำข้าวว่า เป็นอำนาจของ ป.ป.ช.ที่จะดำเนินการตรวจสอบ ซึ่งได้ชี้แจงถึงความล่าช้าการจ่ายเงินให้กับชาวนาในโครงการรับจำนำข้าวที่ยังค้างจ่ายอยู่นั้นจากเดิมจะต้องจ่ายภายในวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมา รัฐบาลมีงบประมาณเพียงพอที่จะจ่ายให้กับชาวนาที่มีใบประทวน แต่เนื่องจากติดปัญหาเรื่องข้อกฎหมายหลังยุบสภาการอนุมัติเกี่ยวกับการดำเนินการด้านการเงินและงบประมาณต้องผ่านการพิจารณาเห็นชอบจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก่อน
นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า ฝ่ายค้านได้ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาตีความร่าง พ.ร.บ. งบประมาณปี 57 รวมถึงมีสถานการณ์การเมืองปิดล้อมสถานที่ราชการ ทำให้เพิ่มขั้นตอนและเวลาในการจ่ายเงินให้ชาวนา นอกจากนี้โครงการประกันราคาข้าวของรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ทำให้มีภาระผูกพันมาถึงรัฐบาลชุดนี้ที่ต้องตั้งงบประมาณชดเชย เรื่องนี้ไม่เคยเปิดเผยต่อสาธารณชนรับทราบ จึงขอความเห็นใจชาวนาให้เข้าใจรัฐบาล และให้ กกต.เห็นชอบให้รัฐบาลจ่ายเงินกับชาวนาโดยเร็ว
ด้านนายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ กล่าวถึงข้อห่วงใยเรื่องความโปร่งใสในการดำเนินโครงการ เพราะใช้งบประมาณสูงว่า รัฐบาลได้ปรับลดวงเงินจำนำของเกษตรกรต่อรายลงแล้วทำให้หลายฝ่ายมองว่ารัฐบาลขาดทุนจำนวนมาก ยืนยันว่าไม่เป็นความจริงเป็นเพียงการขาดทุนบัญชี ส่วนความโปร่งใสก็ขอให้ตรวจสอบตามขั้นตอน ไม่อยากให้นำความเดือดร้อนของชาวนามาเป็นประเด็นทางการเมือง เพราะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งลงไปให้ความช่วยเหลือแล้ว