พบมอไซค์รับจ้าง ย่านราชดำเนิน ถูกการ์ดรุมทำร้ายซี่โครงหัก-เอาเงินสด-บัตรเอทีเอ็มไปด้วย เมื่อคืนวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา หลังถูกค้นกระเป๋าเจอบัตร นปช. ธิดาเผย นปช.เข้าช่วยเหลือค่ารักษาเบื้องต้นแล้ว แนะคนเสื้อแดงระวังตัวมากขึ้น
16 ม.ค.2557 นพ.เหวง โตจิราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เปิดเผยว่า นายสำเภา (ขอสงวนนามสุกล) อาชีพขับจักรยานยนต์รับจ้างย่านราชดำเนินถูกกลุ่มการ์ดทำร้ายเมื่อคืนวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา โดย นพ.เหวง ทราบข่าวจากการกระจายข่าวในเฟซบุ๊กจึงเดินทางเข้าตรวจสอบและได้เข้าเยี่ยมนายสำเภาแล้วในวันนี้ พร้อมประสานให้เจ้าหน้าที่ ตร.สน.สำราญราษฎร์ช่วยดำเนินการลงบันทึกประจำวันเรียบร้อยแล้ว
นพ.เหวง เล่าว่า นายสำเภาเล่าว่า เวลาประมาณ 20.00 น.ได้เลี่ยงรถติดเข้าไปในวัดราชนัดดา พบกลุ่มการ์ดนับร้อยคนตั้งเต๊นท์อยู่ และเข้าทำการตรวจค้นกระเป๋า รวมถึงกระเป๋าเงิน นำเงินสดและเอทีเอ็มไปโดยบังคับให้บอกรหัสด้วย จากนั้นพบบัตร นปช.จึงถูกรุมทำร้าย เตะต่อย และช็อตไฟฟ้า จนกระทั่งเวลาประมาณ 2.00 น. มีการนำตัวไปยังเวทีเพื่อประจานแต่สภาพแย่มาก จึงถูกนำกลับระหว่างทางพบเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงมีการช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล
นพ.เหวงกล่าวว่า อาการบาดเจ็บเบื้องต้นของนายสำเภา คือ ซี่โครงซ้ายหัก 2 ซี่ ใบหน้าปูดช้ำ ดั้งจมูกบวม เลือดออกใต้เปลือกตา
ด้านนางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธาน นปช. กล่าวว่า นปช.จะให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นเรื่องค่ารักษาพยาบาล และจะประสานหน่วยงานรัฐว่าเข้าเงื่อนไขการช่วยเหลือเยียวยาหรือไม่
เมื่อสอบถามถึงมาตรการด้านความปลอดภัยของสมาชิก นปช. นางธิดากล่าวว่า ได้ประกาศให้คนเสื้อแดงระมัดระวังตัวมาโดยตลอด โดยเฉพาะพื้นที่สุ่มเสี่ยง แต่จะประกาศให้ทุกคนไม่พกสัญลักษณ์ใดๆ ทั้งสิ้น ก็ทำลายกำลังใจประชาชนมากไป การพกบัตร นปช.ไม่ใช่ความผิด แต่คนที่ผิดคือคนที่มาทำร้ายอย่างไร้เหตุผล
"คนส่วนใหญ่ยากจน ไม่มีทรัพย์สมบัติอะไร มันเป็นความภาคภูมิใจเล็กๆ ของเขา เราได้แต่บอกให้เขาระมัดระวัง ให้เขาทิ้งบัตรเขาก็ไม่ยอมทิ้งหรอก ต้องระมัดระวังเรื่องขวัญกำลังใจเหมือนกัน หากมาตรการเกินพอดี ก็จะเสียหาย"ธิดากล่าว
อนึ่ง เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวตรวจสอบที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งแล้ว พบว่า นายสำเภาเข้ารับการรักษาจริง ทั้งนี้ นายสำเภาเป็นชาวจังหวัดสุรินทร์ อายุราว 40 กว่าปี เริ่มเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ โดยเป็นลูกจ้างในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งนาน 15 ปี ก่อนจะหันมาประกอบอาชีพขับมอเตอร์ไซค์รับจ้างย่านราชดำเนิน 4 ปี โดยนายสำเภาไม่มีญาติหรือครอบครัวในกรุงเทพฯ