เลขาธิการ กปปส. ลั่นจะไม่ประนีประนอม เพราะทุ่มสู้หมดหน้าตักเพื่อขจัดระบอบทักษิณ จากนั้นจะปฏิรูปประเทศโดยคนทุกสีเสื้อและคนไม่มีเสื้อใส่ พร้อมเมินข้อเสนอ 'โลกสวย'เพราะ กปปส. ไม่ต้องการเสมอ-ต้องการรู้ผลแพ้ชนะ 13 ม.ค. เคลื่อนออกจากราชดำเนินมุ่งหน้า 8 เวที
สุเทพลั่น 13 ม.ค. การต่อสู้ของ กปปส. จะเป็นประวัติศาสตร์หน้าหนึ่ง
13 ม.ค. 2557 - เมื่อคืนวันที่ 12 ม.ค. เวลา 21.55 น. สุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ กปปส. ได้ขึ้นปราศรัยโดยเป็นการปราศรัยคืนสุดท้ายเนื่องจากจะมีการย้ายเวทีใหญ่ของ กปปส. ไปที่สี่แยกปทุมวัน
โดยสุเทพเริ่มปราศรัยว่า "นับตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไปจะเป็นประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งของโลกที่มวลมหาประชาชนจะต่อสู้อย่างสันติ ปราศจากอาวุธ อหิงสา สู้กับรัฐบาลทรราชย์ที่มีอำนาจอิทธิพลมากที่สุดในประเทศไทย และเราจะเป็นฝ่ายชนะ"
"70 กว่าวันที่ได้ร่วมต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับพี่น้องผู้รักชาติรักแผ่นดิน มาถึงวันที่เราจะปิดเวทีราชดำเนินเพื่อไปเปิดเวทีอีก 8 แห่ง ผมกราบเรียนพี่น้องว่า ผมภาคภูมิใจเหลือเกินที่ได้เกิดมาเป็นญาติ พี่น้องกับท่านทั้งหลาย ผมภาคภูมิใจที่ได้ลุกขึ้นมาต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับพี่น้องทั้งหลาย เพื่อประโยชน์ของชาติ ของแผ่นดิน ไม่มีประโยชน์ของใคร หรือพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งมาเกี่ยวข้องโดยสิ้นเชิง เป็นการต่อสู้ที่บริสุทธิ์ เพราะนี่คือมวลมหาประชาชนที่ล้วนแล้วแต่เป็นพลเมืองดี ผู้รักชาติรักแผ่นดิน ลุกขึ้นมาต่อสู้ ไม่มีประโยชน์ส่วนตนเกี่ยวข้องแม้แต่น้อย ผมก็หลอมหัวใจกับพี่น้อง เมื่อเราปฏิบัติภารกิจเสร็จก็กลับบ้านเป็นประชาชนธรรมดา ผมก็ไม่เป็นนักการเมืองอีกแล้วในชีวิตนี้"
สู้แบบทุ่มหมดหน้าตัก เพื่อทำให้ระบอบทักษิณหมดไปจากประเทศ
"ในช่วงเวลา 2 เดือนเศษที่ผ่านมา เราลงทุนลงแรงกันมาก เทกันหมดหน้าตัก ผมมีเท่าไหร่ก็ลงไป พี่น้องมีเท่าไหร่ก็ลงมา และเรายืนหยัดต่อสู้ได้ โดยที่ฝ่ายทรราชย์ไม่มีวันเข้าใจว่าเราสู้ได้อย่างไร นี่คือเคล็ดลับการต่อสู้ของเรา คนพวกนั้นยึดถือเงินเป็นพระเจ้า เอาเงินเป็นอำนาจ เอาอำนาจมาต่อเงิน ประเมินทุกอย่างเป็นตัวเลข สงสัยทุกวันว่ากำนันสุเทพเอาเงินที่ไหนมาจ้างมวลมหาประชาชนมากมายอย่างนี้ บางคนไปรายงานยิ่งลักษณ์บอกว่าผมเอาเงินไปหว่านไว้ที่ฝั่งธนบุรี 20 กว่าล้าน เดินเก็บกลับมา 4-5 ล้านเท่านั้น นั่นคือปัญญาของมัน สมองของมัน คนพวกนี้ไม่มีวันเข้าใจประชาชน หลายคนมาเจรจากับผม บอกว่าคุณสุเทพหยุดเถอะ พาประชาชนกลับบ้านเถอะ แล้วจะเอาอะไรก็มาพูดกัน ผมตอบว่าพวกคุณไม่เข้าใจมวลมหาประชาชน สุเทพ เทือกสุบรรณวันนี้ไม่ใช่ผู้นำมวลมหาประชาชน แต่เป็นเพียงร่างทรงมวลมหาประชาชนเท่านั้น"
"ที่ผมพูดนั้นเป็นความตั้งใจนับล้านๆ ของประชาชนชาวไทย พวกเขาเก็บกดความทุกข์ ความขมขื่นมาเป็นสิบปีที่ถูกระบอบทักษิณกดขี่ ย่ำยี่ ไม่เห็นหัวประชาชน ใช้อำนาจตามอำเภอใจ เอาอำนาจประชาชนไปใช้เพื่อพวกพ้องของตัวเอง ทำมาหากินบนความไว้วางใจประชาชน ทรยศประชาชนเปิดเผย วันนี้เขาทนไม่ได้ จึงลุกมาต่อสู้และไม่ให้ระบอบทักษิณปกครองแผ่นดินนี้อีกต่อไป ผมตอบท่านเหล่านั้นไปว่าอย่าเอาข้อเสนอใดๆ มาเสนอกับผมเลย ไม่มีข้อแลกเปลี่ยนใด ที่มวลมหาประชาชนจะรับได้ ที่รับได้อย่างเดียว คือระบอบทักษิณต้องออกไปหมดจากประเทศไทย นั่นคือเรื่องที่ประชาชนต้องการ"
หมดระบอบทักษิณแล้วจะปฏิรูปประเทศด้วยมือประชาชนทุกสีเสื้อ แม้แต่คนไม่มีเสื้อใส่
"เมื่อระบอบทักษิณออกไปแล้ว เราจะได้ปฏิรูปประเทศไทยด้วยมือของประชาชน โดยไม่มีพรรคการเมืองมาเกี่ยวข้อง เพราะสิ่งที่เราจะทำนั้น บางอย่าง บางประการ กฎหมายบางฉบับจะขัดผลประโยชน์ของนักการเมือง ของพรรคการเมือง เราจึงต้องการทำด้วยมือของเรา คำว่าเราในที่นี้ ไม่ใช่คณะกรรมการ กปปส. เพียงไม่กี่คน แต่หมายถึงมวลมหาประชาชนชาวไทยทั้งประเทศ ไม่ว่าจะใส่เสื้อสีอะไร ไม่ว่าจะเป็นเสื้อเหลือง เสื้อแดง เสื้อหลากสี แม้แต่คนไม่มีเสื้อใส่ คนไทยทั้งนั้นต้องปฏิรูปประเทศไทยเพื่อลูกหลานของเรา"
"ผมขอประกาศ ณ คืนอันมีความสำคัญคืนนี้ ว่ามวลมหาประชาชน ไม่สามารถจะรับข้อเสนอ ไม่สามารถจะรับข้อต่อรองใดๆ ทั้งสิ้น ต่อสู้ครั้งนี้ แพ้เป็นแพ้ ชนะเป็นชนะ ไม่มีเสมอ ไม่มีวิน-วินทั้งสองข้าง วินข้างเดียว ถ้าระบอบทักษิณชนะพวกเรา ก็ก้มหน้าก้มตาเป็นขี้ข้าไป ผมจะเข้าคุกคงไม่ได้ออกแล้ว เพราะ 65 ปีแล้ว ตายในคุกก็ช่างแม่มัน แต่ถ้ามวลมหาประชาชนชนะ ประเทศไทยจะเห็นแสงสว่าง ลูกหลานเราจะมีอนาคต ไม่มีนักการเมืองคนไหน คณะไหนกล้ามาย่ำยีชีวิตจิตใจประชาชนอีกในวันข้างหน้า"
"ความพ่ายแพ้ของระบอบทักษิณจะทำให้นักการเมืองทั้งหลาย พรรคการเมืองทั้งหลายในวันข้างหน้า ได้ระลึกได้สังวรว่าต่อไปนี้ประชาชนคนไทยไม่ยินยอมให้นักการเมืองทำปู้ยี้ปู้ยำกับประเทศชาติแล้ว"
เมินข้อเสนอ 'พวกโลกสวย'ต้องรู้ผลแพ้หรือชนะ ชนะวันไหนไม่รู้แต่ไม่แพ้ก็แล้วกัน
"วันนี้มวลมหาประชาชนทุกสาขาอาชีพ ตื่นแล้ว ตระหนักแล้วว่าเราเป็นเจ้าของประเทศไทย เราจำเป็นต้องร่วมกันรับผิดชอบบ้านเมืองนี้ เราจะทำอย่างนี้ตลอดไป นี่คือสิ่งที่สำคัญ พี่น้องทั้งหลาย ผมได้กราบเรียนบรรดาท่านที่มองโลกสวย หลายกลุ่ม หลายคณะหลายคน ที่พยายามประนีประนอม ขอออมชอม อยากเห็นบ้านเมืองเรียบร้อย จะให้พูดกับรัฐบาลว่าอย่างไร คุณสุเทพจะได้พาประชาชนกลับบ้านได้ ผมได้ตอบไปชัดเจนว่า ผมไม่สามารถชวนพี่น้องกลับบ้านได้ เพราะประชาชนเขามาเพื่อต้องการรู้ผลเด็ดขาดว่าแพ้ หรือชนะ นี่คือสิ่งที่เขามา เขาลงทุนลงแรงกันมามาก เขาเป็นประชาชนธรรมดา มีครอบครัวที่ต้องรับผิดชอบ มีบ้านช่องห้องหอที่ต้องดูแล มีอาชีพที่ต้องทำ แต่เขาเสียสละมานอนกลางดินกินกลางถนน ทนทุกข์ทรมานทั้งฝน ทั้งหนาว ทั้งแดด ลงทุนขนาดนี้ ไม่เอาแค่เสมอแล้วกลับบ้าน แพ้หรือชนะ ให้มันรู้แล้วรู้รอดกันไปเลย ผมบอกท่านเหล่านั้นไปครับพี่น้อง ผมบอกเขาว่าเมื่อมวลมหาประชาชนออกมาต่อสู้ร่วมกัน ด้วยจิตใจที่ห้าวหาญ ด้วยความมุ่งมั่น ด้วยอุดมการณ์เพื่อชาติเพื่อแผ่นดินหลายล้านคน ผมมั่นใจว่าประชาชนไม่แพ้ ไม่มีวันแพ้เด็ดขาด ส่วนจะชนะวันไหน อย่างไร ผมไม่ใช่หมอดู ผมตอบไม่ได้ รู้อย่างเดียวว่าไม่แพ้ก็แล้วกัน"
ซาบซึ้งที่มีข้าราชการมาประกาศเลือกข้าง กปปส.
สุเทพปราศรัยด้วยว่า มาถึงวันนี้เรามั่นใจแล้ว ว่าบรรดาพี่น้องประชาชนเจ้าของประเทศทั้งหลายไม่ว่าเขาอยู่สาขาอาชีพอะไร เขาเป็นคนไทยที่มีหัวจิตหัวใจเหมือนเรา รักชาติ รักแผ่นดิน จำนวนมวลมหาประชาชนจึงเพิ่มขึ้นๆ ทุกครั้งที่เรานัดหมาย ผมได้กราบเรียนพี่น้องว่า จุดตัดสินของการแพ้หรือชนะคราวนี้ นอกจากประชาชนชาวไทย จะต้องร่วมแรงร่วมใจอย่างแข็งขันแล้ว ความสำคัญอยู่ที่ข้าราชการ ทั้งที่เป็นข้าราชการพลเรือน ตำรวจ ทหาร ถ้าข้าราชการเหล่านั้นตัดสินใจได้เด็ดขาด ว่าระหว่างรัฐบาลทรราชย์ กับมวลมหาประชาชนผู้เป็นเจ้าของประเทศ เขาเลือกข้างประชาชน ข้าราชการตัดสินใจวันไหน นั่นคือวันแห่งชัยชนะเด็ดขาดของเรา
"ผมจึงรู้สึกซาบซึ้ง ชื่นชม ยกย่อง กำนัน ผู้ใหญ่บ้านทั้งหลายที่ลุกขึ้นมาท้าทายอำนาจ รมว.มหาดไทย กลุ่มแล้วกลุ่มเล่า ประกาศตัวยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับพี่น้อง ผมรู้สึกซาบซึ้งประทับใจชื่นชม บรรดาครูอาจารย์ประถม มัธยม จนถึงครูมหาวิทยาลัยที่ลุกขึ้นแสดงตัวชัดเจนว่ายืนข้างประชาชน และขอแสดงความชื่นชมยกย่อง ด้วยความซาบซึ้งใจต่อข้าราชการบุคลากรสาธารณสุขทุกสาขา ข้าราชการกระทรวงสาธารณสุขทั้งหลายขอได้รับการคารวะจากผมด้วยความเคารพจริงๆ ครับ เป็นการจุดไฟในหัวใจข้าราชการทุกกระทรวง ทบวน กรมแล้ว ท่านได้แสดงตัวเป็นตัวอย่างวันนี้ 500-600 คนมาเป็นตัวแทนอยู่บนเวที และอ่านแถลงการณ์ประกาศจุดยืน นั่นเป็นการแสดงเกียรติยศ ศักดิ์ศรีของข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่เราต้องยกย่องคารวะท่านด้วยหัวใจจริงๆ ต้องกราบเรียนให้ทราบ"
แพทย์พยาบาลจะตั้ง รพ.สนามทุกเวที - พร้อมประกาศรายนามผู้บริจาค
"นอกจากท่านมาแสดงตัว ต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่พวกเราแล้ว ท่านยังบอกพวกผม ทุกเวทีที่ไปตั้งอยู่นี้ คณะแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์จะไปจัดตั้งโรงพยาบาลสนามทุกแห่ง เพื่อดูแลมวลมหาประชาชนเป็นการเฉพาะ ผมประกาศว่ามีโรงพยาบาลสนามสองแห่งคือโศก ลาดพร้าว วันนี้พี่น้องสาธารณสุขยืนยันว่าจะทำโรงพยาบาลสนามทุกเวที ดูแลสุขภาพเป็นพิเศษให้มีเรี่ยวแรงต่อสู้กับระบอบทักษิณให้ชนะ"
"พี่น้องทั้งหลายวันนี้เป็นวันสุดท้ายของเวทีราชดำเนิน ผมคงไม่พูดมากไปกว่านี้ คิวยาวเหลือเกิน ผู้ใหญ่สาทิตย์จัดคิวไม่ไหว"โดยสุเทพได้โฆษณาขายเหรียญสมเด็จพระนเรศวรมหาราชรุ่นกู้ชาติปฏิรูปประเทศไทย เหรียญละ 300 บาทเพื่อต่อสู้กับระบอบทักษิณโดยไม่หักค่าใช้จ่าย และโฆษณาปฏิทินการต่อสู้ของ กปปส. ผลงานของธีราภา พร้อมพันธุ์ ชุดละ 200 บาท นอกจากนี้ได้ประกาศว่ามีผู้มอบเงินบริจาคให้ กปปส. ผ่านชวน หลีกภัย ซึ่งมาวาดรูปให้ผู้ชุมนุม กปปส. และประกาศยอดการบริจาคจากของบุคคลต่างๆ ด้วย
และระหว่างปราศรัยสุเทพได้ประกาศให้ทีมปฐมพยาบาลช่วยเหลือคนเป็นลมเป็นระยะ เนื่องจากหน้าเวทีมีคนชุมนุมแน่นขนัด
เตรียม 'ปิดกรุงเทพฯ'ผุด 8 เวที สุเทพจะเดินนำส่งมวลชนเริ่มจากราชดำเนินถึงอโศก
จากนั้นสุเทพได้ซักซ้อมผู้ชุมนุมถึงแผนการในวันจันทร์ โดยกล่าวว่า "พรุ่งนี้วันปฏิบัติการยึดกรุงเทพจะมีเวที 8 เวที ย้ำอีกครั้งนะครับ เผื่อท่านทีเพิ่งเดินทางมาถึง แจ้งวัฒนะมี 2 เวที หันหน้าเข้าหากัน เวทีแรก แจ้งวัฒนะ 1 คณะกรรมการ กปปส. ภาค 7 คือภาคกลางทั้งหมดมี นนทบุรี นครปฐม เพชรบุรี ราชบุรี อยุธยา ปทุมธานี กาญจนบุรี ที่แจ้งวัฒนะ 1 คุณราเชน ตระกูลเวียง กปปส.นนทบุรี เป็นผู้ประสานงาน เวทีตั้งหน้าดีเอสไอ หลวงปู่พุทธอิสระเป็นที่ปรึกษาคอยดูแล และถ้าใครสนใจจะเดิน จะเริ่มเดินทางท่าน้ำนนท์ เวลา 07.00 น."
"แจ้งวัฒนะอีกด้าน ติดถนนวิภาวดี อ.สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ และคุณสมบูรณ์ ทองบุราณ เป็นผู้รับผิดชอบ มีพี่น้องเครือข่าย 77 จังหวัดจะไปร่วมที่นั่น ที่ห้าแยกลาดพร้าว อิสสระ สมชัย เป็นผู้รับผิดชอบ มีครูอาจารย์ นักศึกษา จาก ม.เกษตร รังสิต หอการค้า และมวลชนจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือจังหวัดต่างๆ มาถึงแล้ว 4-5 พันคน เริ่มต้นปฏิบัติการที่แยกลาดพร้าวครับ"
"ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ถาวร เสนเนียม เป็นผู้รับผิดชอบ มีมวลชนจากหลายจังหวัด ภาคใต้มีสงขลา สุราษฎร์ธานีจาก สจ.ปิ๊ก ชัยบุรี และเคียนซา เฝ้าเวทีที่นั่น ที่ปทุมวัน มีสาทิตย์ วงศ์หนองเตย และคณาจารย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีมวลชนมาจากสุราษฎร์ธานี และตรังที่มากับ สจ.ต่าย สจ.ต๊อก สจ.อ่ำ สุมาตร ครูไข่ ร่วมกันรับผิดชอบ"
"ที่ราชประสงค์ นำโดยเสรี วงศ์มณฑา ชุมพล จุลใสหรือลูกหมี และพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ มีพี่น้องมวลชนจากกรุงเทพฯ และชุมพร สุราษฎร์ธานี สมทบ ส่วนเวทีที่อโศก จะมีณัฏฐพล และทยา ทีปสุวรรณ สกลธี ภัททิยกุล เป็นผู้รับผิดชอบ มวลชนสุราษฎร์ธานีชุดกำนันคำรณ เชิญไปที่นั่น"
"ส่วนที่เวทีลุมพินี จะมีวิทยา แก้วภราดัย, สาธิต เซกัล, สมชาย หอมละออ และชินวรณ์ บุณยเกียรติ มีมวลชนสีลม พี่น้องกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียงสมทบได้แก่มวลชนจากสุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช นำโดย ส.จ.ภูมิ เทือกสุบรรณร่วมรับผิดชอบ"
เริ่มมีผู้ชุมนุมไปปักหลักเวทีต่างๆ แล้วเพราะกลัว ศอ.รส. ห้ามเข้า
สุเทพปราศรัยด้วยว่า "ผมเรียนอย่างนี้ครับ พี่น้องของเราบางคนไปแล้วบางจุด ไปนอนแล้ว ไปเฝ้าเวทีอยู่แล้ว เพราะบังเอิญ ฝ่าย ศอ.รส.ประกาศจะไม่ให้เข้าพื้นที่นั้น พี่น้องเขาก็กลัวตั้งเวทีไม่ได้ วันนี้ก็ไปเฝ้าเวทีอยู่แล้ว แห่งละสองพัน สามพัน ราชประสงค์มีพี่น้องชุมพร สุราษฎร์ธานีหลายพันไปเฝ้าแล้ว ส่วนพี่น้องที่ยังอยู่ที่นี่ คืนนี้อย่านอนดึกมาก พรุ่งนี้เช้าเราออกเดินไปด้วยกันกับผม 9 โมงเช้า ผมจะเดินอย่างนี้ครับพี่น้อง พาพี่น้องชมกรุงเทพฯ เลย เดินจากที่นี่ ตรงไปเรื่อยถึงสี่แยกราชเทวี คุณถาวร เสนเนียม มารับชาวสุราษฎร์ธานี ชุด ส.จ.ปิ๊ก ชัยบุรี เคียนซา แยกตัวไปอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ"
"จากนั้นคณะของพวกเราเดินต่อไปถึงสี่แยกปทุมวัน เอาคน จ.ตรัง จ.สุราษฎร์ธานี เอาชุด ส.จ.ต๊อก ส.จ.ต่าย สุมาตร ครูไข่ มาอยู่แยกปทุมวันอยู่ร่วมกับคุณสาทิตย์ วงศ์หนองเตย และคณะเราก็เดินต่อไปราชประสงค์ เอาพี่น้องชาวชุมพร สุราษฎร์ชุด อ.กาญดิษฐ์-ดอนสัก ไปส่งที่ราชประสงค์ และขณะเดียวกันก็จะมีมวลชนพี่น้องชาวนครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานีชุด ส.จ.ภูมิ เทือกสุบรรณ แยกไปลุมพินี"
ส่งมอบพื้นที่ให้ "กองทัพธรรม"ดูแล เพื่อเก็บไว้ฉลองชัยชนะ
"กระบวนที่เหลือก็ไปต่อที่เวทีอโศก จะมีกำนันคำรณ จากสุราษฎร์ธานีรอที่นั่น ส่วนพี่่้น้องจังหวัดอื่นๆจะแยกไปตรงไหนก็ไปได้ตามสมัครใจ แล้วก็เดินร่วมขบวนไปกับผม ตั้งแต่่ 09.00 น.เราส่งมอบให้กองทัพธรรมดูแลพื้นที่แทนเรา ป้องกันไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามมายึดพื้นที่ไป เราเก็บไว้มาฉลองชัยชนะกันที่เวทีราชดำเนิน"
"ในฐานะเลขาธิการ กปปส.ขอกราบขอบพระคุณพี่น้องชาวราชดำเนินทั้งหลาย มวลชนที่อยู่รอบนอก พ่อค้า แม่ขาย ร้านอาหาร วินตุ๊กๆ แท็กซี่ มอเตอร์ไซค์ ที่กรุณามีน้ำใจมากตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่ เรารู้สึกอบอุ่น จะจำไว้ ไม่มีวันลืมและจะกลับมาเยี่ยมท่านเสมอๆ"
จากนั้นได้มีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน มาขอประกาศตัวร่วมต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับ กปปส. โดยมาจาก จ.ตรัง ภูเก็ต สงขลา ชุมพร นครศรีธรรมราช พังงา และกระบี่ นอกจากนี้ชุมพล จุลใส ประกาศด้วยว่า กปปส. ที่แยกราชประสงค์จะเริ่มปิดล้อมสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่อยู่บริเวณใกล้เคียงกันด้วย