ภาพจากเฟซบุ๊กเนติวิทย์
9 ม.ค.2557 ผู้สื่อข่าวรายงานว่างานเสวนาเรื่อง “เหลียวหลังแลหน้า ทัศนะของเยาวชนไทยที่มีต่อการเมือง” ที่จัดโดยนักเรียนโรงเรียนเบ็ญจะมะมหาราช จังหวัดอุบลราชธานี ถูกยกเลิกกลางคัน เนื่องจากมีผู้ปกครอง ศิษย์เก่าโรงเรียนคัดค้านอย่างหนัก เนื่องจากมีการเชิญ เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ เตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ และเลขาธิการสมาพันธ์นักเรียนไทยเพื่อการปฏิวัติระบบการศึกษาไทย เป็นวิทยากรรับเชิญ ก่อนผู้จัดจะย้ายไปจัดงานที่ สภ.เมืองอุบลราชธานี
งานเสวนาดังกล่าวจัดขึ้นโดยนักเรียนในชุมนุมกฎหมายควรรู้ มีกำหนดจะจัดขึ้นในบ่ายวันนี้ (9 ม.ค.) โดยมีวิทยากรคือเนติวิทย์ ซึ่งมีบทบาทเคลื่อนไหววิพากษ์ระบบการศึกษาจนเป็นที่รู้จักในวงกว้าง และล่าสุด ยังได้ปฏิเสธรางวัลของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (อ่านข่าวเกี่ยวกับเนติวิทย์) ส่วนวิทยากรอีกคนหนึ่งคือ อภิชาติ พงษ์สวัสดิ์ ประธานสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย
เดชาพล สุวนาม นักเรียนชั้นม. 6 ร.ร.เบ็ญจะมะมหาราช หนึ่งในผู้จัดงานให้สัมภาษณ์ว่า งานดังกล่าวเป็นกิจกรรมของชุมนุมเพื่อต้องการจุดประกายให้นักเรียนหันมาสนใจถกเถียงเรื่องการเมืองมากขึ้น ตอนแรกตั้งใจจะเชิญ สุลักษณ์ ศิวรักษ์ มาเป็นวิทยากรแต่ติดปัญหามีงบประมาณน้อย จึงตัดสินใจเชิญเนติวิทย์ ซึ่งรู้จักกันเป็นส่วนตัวอยู่แล้ว และทำวารสาร Education Review หรือการศึกษาปริทัศน์ร่วมกัน อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงวันจัดงานอาจารย์ที่ปรึกษาโครงการเรียกตนไปพบเพื่อแจ้งว่า ผู้อำนวยการและผู้บริหารโรงเรียนขอให้ยกเลิกการจัด เมื่อเห็นว่าคงไม่สามารถจัดที่โรงเรียนได้จึงติดต่อจัดงานที่ สภ.เมืองอุบลฯ ซึ่งบิดาเป็นผู้กำกับอยู่แทน โดยมีนักเรียนที่ยังคงสนใจติดตามมาร่วมงานเสวนาประมาณ 10 กว่าคนจากเดิมเกือบ 200 คนที่ต้องการร่วมงานที่โรงเรียน
เดชาพล กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ไม่นานมีการประชาสัมพันธ์งานนี้ในโซเชียลเน็ตเวิร์กและถูกนักเรียนผู้ปกครองที่ร่วมเครือข่าย กปปส.นำเรื่องนี้ไปโพสต์โจมตีว่า เนติวิทย์เป็นตัวอันตรายและมีแนวคิดล้มล้างสถาบัน ทำให้มีการต่อต้านการจัดงานครั้งนี้
ด้านเนติวิทย์ นักเรียนที่ได้รับเชิญเป็นวิทยากรในงานดังกล่าว ให้สัมภาษณ์ว่า ไม่รู้สึกเสียใจอะไร แต่สงสารผู้จัดงานที่โดนกดดันจนไม่สามรถจัดงานที่โรงเรียนได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อย้ายที่จัดงานก็ยังมีนักเรียนตามมาฟัง ทำให้รู้สึกดีใจมาก แม้เป็นวงคุยเล็กๆ แต่ก็ได้คุยกันเรื่องสิทธิเสรีภาพ การต่อสู้เรื่องสิทธิในโรงเรียน เยาวชนกับโลกาภิวัตน์ ตลอดจนเรื่องรัฐธรรมนูญและการเลือกตั้งด้วย
“ผมก็ต้องการพูดคุยกับเพื่อนนักเรียนเท่านั้น แต่โดนกดดันแล้วผอ.ก็กลัว คนจัดเองก็กลัวอันตรายเลยย้าย สังคมไทยไม่น่าจะขัดแย้งรุนแรงทางความคิดขนาดต้องปิดกั้นกันถึงเพียงนี้ สถานศึกษาควรจะได้เป็นโลกทางความคิดที่เปิดกว้าง” เนติวิทย์กล่าว
สมพงษ์ เจริญศรี อาจารย์ที่ปรึกษาโครงการเสวนาดังกล่าว จากโรงเรียนเบ็ญจะมะมหาราช ให้สัมภาษณ์ว่า รู้สึกเสียใจที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น เพราะถือเป็นการกดทับและปิดกั้นเสรีภาพทางความคิดของนักเรียนซึ่งเป็นผู้ริเริ่มดำเนินการเสวนาเอง
สมพงษ์กล่าวว่า ผู้อำนวยการโรงเรียนได้เรียกตนไปพบในที่ประชุมผู้บริหารเพื่อแจ้งขอให้งดการจัดกิจกรรมดังกล่าวเนื่องจากฝ่ายตรงข้ามจะมาเป่านกหวีดและชูป้ายประท้วง นอกจากนี้ยังมีการอ้างผู้หลักผู้ใหญ่หลายคนรวมถึง ศ.ดร.ประกอบ วิโรจน์กูฏ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ซึ่งเป็นประธาน กปปส.จังหวัดอุบล ที่ขอให้ยกเลิกงานนี้
“ผมพยายามยืนยันว่านี่เป็นวิถีของเด็ก เขามีวิธีคิดที่แตกต่าง และผมจะดูแลตลอดกิจกรรมไม่ให้เกิดความเสียหาย ทำไมต้องไปจำกัดเขา จะบอกว่าหมิ่นเหม่ได้ยังไง เขายังไม่ได้พูดเลย” สมพงษ์กล่าวและว่าเขาได้ทำหนังสือเป็นบันทึกไว้ด้วยว่าหากการจัดเสวนาครั้งนี้ทำให้โรงเรียนเสียหายเขาพร้อมรับผิดชอบด้วยการลาออก
“โดยส่วนตัวก็ยังคิดว่าเรื่องนี้ละเมิดสิทธิทางความคิดของผมและนักเรียนด้วย ผมไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับฝ่ายไหน แต่ในฐานะครูสังคมเราต้องสอนเด็กเรื่องประชาธิปไตย เรื่องการเมือง ถกเถียงถึงสิ่งที่เกิดขึ้น” สมพงษ์กล่าว