เมื่อวันที่ 7 ม.ค.ที่ผ่านมา เวลา 11.15 น. ที่โรงแรมเอเทรียม ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ บรรดาศิษย์เก่าเตรียมทหารรุ่น 7-13 กว่า 30 คน นำโดย พล.อ.พรชัย กรานเลิศ พล.อ.อ.สุเมธ โพธิ์มณี พล.อ.สมชัย สมประสงค์ ทำการแถลงข่าวคัดค้านการปิดกรุงเทพฯของ กปปส. โดย พล.ต.ต.มณเฑียร ประทีประณิชย์ เป็นตัวแทนอ่านแถลงการณ์ว่า
1. ขอคัดค้านการปิดกรุงเทพฯ ในวันที่ 13 ม.ค. เพราะจะนำความเดือดร้อนมาสู่ประชาชนชาว กทม. และมีผลเสียต่อธุรกิจการค้า เศรษฐกิจของชาติโดยรวม
2. ขอเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยตามที่ได้มีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ. 3. ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของข้าราชการตำรวจที่เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ ตลอดจนผู้ชุมนุมที่ต้องเสียชีวิตและบาดเจ็บ สืบเนื่องจากการปะทะกันที่ผ่านมา และขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความยากลำบาก ไม่ได้รับความเป็นธรรม
4. ขอให้ทหารช่วยปกป้องรักษาความมั่นคงของประเทศ รักษาไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตย โดยทหารต้องดำเนินการตามมาตรา 8 แห่ง พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม 2551 โดยต้องพิทักษ์รักษาเอกราช และความมั่นคงจากภัยคุกคามทั้งภายในและภายนอกราชอาณาจักร ปรามปรามการกบฏและจลาจล พิทักษ์รักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ ตลอดจนสนับสนุนภารกิจของสถาบันพระมหากษัตริย์ ปกป้องพิทักษ์รักษาผลประโยชน์แห่งชาติและการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข พัฒนาประเทศเพื่อความมั่นคงตลอดจนสนับสนุนภารกิจอื่นของรัฐในการพัฒนาประเทศ การป้องกันและแก้ไขปัญหาจากภัยพิบัติ และการช่วยเหลือประชาชน และการปฏิบัติการตามที่มีกฎหมายกำหนดหรือตามมติคณะรัฐมนตรี
5. ขอวิงวอนกลุ่มผู้ชุมนุมคัดค้านการเลือกตั้ง ตลอดจนผู้มีความคิดเห็นแตกต่าง จงใช้เวทีเจรจาแก้ไขปัญหาหาทางออก ระงับการใช้ความรุนแรงต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตลอดจนการกระทำที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินของราชการ
ขณะที่ พล.อ.พรชัย กรานเลิศ กล่าวว่า การวางตัวของทหารในสถานการณ์ขณะนี้ถือว่าดีมาก เพราะทุกฝ่ายต้องการให้ทหารเป็นอยู่เช่นนี้ เชื่อว่าจะไม่มีการปฏิวัติ เพราะทราบและเข้าใจดีว่าผลพวงของการปฏิวัติรัฐประหาร 2549 เป็นอย่างไร ทำประเทศย่อยยับขนาดไหน มั่นใจว่าผู้นำเหล่าทัพจะไม่ทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้นอีก
ที่มา : เว็บไซต์ไทยรัฐ