สุเทพ เทือกสุบรรณ ระบุปิดกรุงเทพฯ 13 ม.ค. นี้จะเป็นการทุบหม้อข้าว ปักหลักทั่ว กทม. ไม่กลับราชดำเนินแล้ว วอนจำเป็นต้องใช้วิธีปิดกรุงเทพฯ เพราะสงบสันติ จะทำให้คนกรุงเดือดร้อนน้อยที่สุด ชี้ถ้ารุนแรงแบบสามเกลอ นปช. กทม.ราบไปแล้ว ตำรวจทหารตายเป็นเบือ - อัด 'ทักษิณ'อยู่เบื้องหลังโจมตี สปก.4-01
4 ม.ค. 2557 - ในการปราศรัยเมื่อเวลา 21.00 น. ของวันที่ 3 ม.ค. นั้น สุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปสส. ได้กล่าวถึงการนัดหมายชุมนุมใหญ่ 13 ม.ค. นี้ว่า "พี่น้องก็เตรียมเนื้อเตรียมตัวเต็มที่ ท่านที่อยู่ต่างจังหวัดก็เตรียมมากรุงเทพฯ ท่านที่อยู่กรุงเทพฯ ก็เร่งรีบสะสางเรื่องราวการงานที่ยังคั่งค้างอยู่ เพื่อจะเตรียมตัวเตรียมใจร่วมการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่ตั้งแต่ 13 ม.ค. เป็นต้นไป คึกคัก แล้วก็มีกำลังใจ มวลมหาประชาชนของเราแสดงออกชัดเจนว่าสู้คราวนี้ เอาให้จบให้ได้"
ประกาศ 13 ม.ค. รื้อเวทีราชดำเนิน-ทุบหม้อข้าว-ไม่กลับมาแล้ว
"ผมเรียนพี่น้องครับว่าคณะกรรมการแกนนำปรึกษากันแล้วว่า คราวนี้ทุบหม้อข้าวตีเมืองกันเลย ใครอยู่ต่างจังหวัด ถ้าคิดว่าจะมาร่วมที่เวทีราชดำเนิน ต้องมาให้ถึงภายในวันที่ 12 ม.ค. นะครับ เพราะว่าเช้าวันที่ 13 ม.ค. รื้อเวทีราชดำเนินครับ ทุบหม้อข้าวไม่กลับมาตรงนี้อีกแล้ว"
"แยกย้ายกันไปปฏิบัติการยึดเมืองหลวง ตามสถานที่ต่างๆ และก็ยืนหยัดปักหลักต่อสู้ตามสถานที่นั้น ๆ จนกว่าจะได้รับชัยชนะ เพราะฉะนั้นถ้าพี่น้องต่างจังหวัดตกขบวนมาไม่ทันภายใน 12 ม.ค. พี่น้องก็โปรดเลือกเอา ว่าจะไปสมทบสามแยกไหน สี่แยกไหน ไปได้ ถึงเวลาผมก็จะประกาศว่าใครอยู่ตรงไหนบ้าง แต่ว่าเลิกเวทีราชดำเนิน รื้อเต๊นท์ ย้ายครัว เปิดสนามรบใหม่"
"เพราะฉะนั้นใครที่มาร่วมเวทีกับเรา 2 เดือนมาแล้ว ลืมถ่ายรูปเวทีราชดำเนินเอาไว้ รีบมาถ่ายเสียตอนนี้ มาดูบรรยากาศเอาไว้ เพราะว่าจะเป็นเรื่องที่จะเล่าขานสู่ลูกหลานหลายชั่วคนว่าครั้งหนึ่งพ่อแม่ ปู่ยาตายาย พี่ป้าน้าอาของเรา ได้ยึดถนนราชดำเนินเป็นสมรภูมิต่อสู้ครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ ก่อนแยกย้ายไปปฏิบัติการครั้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือ 'ปฏิบัติการยึดเมืองหลวงกรุงเทพฯ'เรื่องการต่อสู้ของพวกเราทั้งหมดนี้ จะเป็นตำนานเล่าขานต่อไป จะมีคนเขียนหนังสือ บันทึกภาพ ภาพนิ่ง วิดีโอ เป็นหนัง ผมเชื่อว่าจะเป็นเรื่องที่ผู้คนเอาไปศึกษา และเอาไปพูดถึงกันอีกมาก"
ไม่หวั่นเสียงโจมตี-ภาพพจน์เสียหาย จะเดินหน้าสู้แลกหมัด เพราะเป็นงานสุดท้ายแล้ว
"แต่ขณะนี้เริ่มมีเสียงโจมตี ที่ตีหนักที่สุดคือจากรัฐบาล เครือข่ายของรัฐบาลทั้งหลาย โหมกระหน่ำพวกเราหนักเหลือเกิน ดาหน้าออกมาเป็นแถว ใช้สื่อทุกสื่อลงทุนมากมายมหาศาล เพื่อทำลายภาพพจน์อันดีงามของกระบวนการต่อสู้ของมวลมหาประชาชน ตัวผมก็ไม่ต้องนับครับ ถ้าเป็นแผลก็เฉพาะตัวก็เป็นพัน หัวต่างหากว่างั้นเถอะ ฟันยับเยินหมด สารพัด ขุดคุ้ยมาทุกเรื่อง"
"พี่น้องหลายคนโทรศัพท์มาเขียนจดหมายมาบอกว่า คุณสุเทพต้องชี้แจงบ้าง ต้องตอบโต้บ้าง ไม่เช่นนั้นภาพคุณสุเทพจะเสียหาย จะทำให้กระบวนการต่อสู้จะเสียหายไปด้วย ผมก็เลยถือโอกาสนี้ กราบเรียนท่านผู้เคารพ ผู้หวังดีว่า ผมไม่กลัวความเสียหายแล้ว เดินหน้าสู้มันอย่างเดียว แลกหมัดกันเลย มา ไม่มึงก็กู เที่ยวนี้รู้เรื่องกัน ไม่ต้องไปเสียเวลามานั่งชี้แจง เรื่องโน้นเรื่องนี้เรื่องนั้น"
"เอาอย่างนี้ สำหรับท่านที่เป็นห่วงเป็นใย หนึ่ง ผมได้ประกาศแล้วว่างานนี้เป็นงานชิ้นสุดท้ายที่กำนันสุเทพจะทำให้กับบ้านเมืองเสร็จงานนี้เลิกทุกอย่างกลับบ้าน เพราะฉะนั้น ถ้าใครจะเอาความหลังมาขุดคุ้ย ด่า ใส่ร้ายป้ายสีให้เสียภาพพจน์ไม่กลัว เพราะไม่ต้องการภาพพจน์ไปทำมาหากินอะไรอีกแล้ว ไม่ลงเลือกตั้งแล้ว ไม่คิดเป็นนักการเมือง ไม่คิดเป็นนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ส.ส. เพราะประกาศแล้วว่าเสร็จงานนี้เลิกกลับบ้านพร้อมกับพี่น้องทั้งหลาย เพราะฉะนั้นไม่กลัว"
"สำหรับคนที่รู้จักผมดี ผมไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง ทั้งหมดเปิดเผยชัดเจน ดีเท่าไหร่ ก็มีดีเท่านั้น ถ้ามีเลวเท่าไหร่ก็เลวเท่านั้น ไม่มากไม่น้อยกว่านั้นเด็ดขาด ให้สบายใจได้ แต่ว่าขอให้ท่านทั้งหลายคิดเอาแล้วกันครับว่าการทำงานการเมืองของผมที่ใช้ลำหักลำโค่นเต็มแรงมาตลอดเวลา 35 ปี คนเกลียดก็เยอะ คนรักก็มาก แต่ว่าบังเอิญคนที่เกลียดผมเป็นคนชั่วทั้งนั้นครับ พี่น้องครับ และถ้าผมผิดจริง เลวจริง คนชั่วที่กำลังมีอำนาจในบ้านเมือง ไม่เลี้ยงผมไว้จนถึงวันนี้ มันจัดการผมไปนานแล้ว นี่คือข้อเท็จจริงอย่างหนึ่งที่เรียนให้ทราบ"
แจงทำ สปก. เพื่อคนจน 7 แสนครอบครัวทั่ว ปท. แต่ทักษิณอยู่เบื้องหลังการโจมตี
สุเทพปราศรัยต่อไปว่า "ขณะนี้ มี 2 เรื่องใหญ่ๆ ที่เอามาโจมตี หนึ่ง สปก. 4-01 สมัยโน้นครับ ผมสรุปสั้นๆ อย่างนี้ ผมเป็นรัฐมนตรีเห็นว่าคนเนี่ยทำกินที่ดินของรัฐ โดยเฉพาะที่ป่า ถูกหักร้างถางพงเป็นเรือกสวนไร่น่าทั่วประเทศไทย ส่วนใหญ่เป็นคนจนมีเป็นล้านครอบครัว มีชีวิตแบบไม่มีอนาคต ถูกป่าไม้ ตำรวจจับเดือดร้อน ไม่มีใครคิดแก้ปัญหาเหล่านี้ สมัย พล.อ.เปรม เป็นนายกรัฐมนตรี ผมเสนอรัฐบาลขณะนั้นว่า ต้องทำให้คนเหล่านี้ ล้านกว่าครอบครัวที่อยู่อย่างคนนอกกฎหมายให้เป็นคนมีชีวิตถูกกฎหมายเสียที และมีวิธีเดียว ต้องใช้กฎหมายปฏิรูปที่ดิน ประกาศเขตปฏิรูปที่ดินที่ประชาชนไปทำกินมาสี่ห้าสิบปี ให้เขามีสิทธิทำกินถูกต้องตามกฎหมาย หลักการมีเท่านี้ กฎหมายปฏิรูปที่ดินแก้ไขสมัยรัฐบาล พล.อ.เปรม ไม่ทันได้เอามาใช้ เปลี่ยนรัฐบาลเสียก่อน พล.อ.ชาติชายขึ้นมา ใครต่อใครขึ้นมาเขาไม่ทำ"
"จนกระทั่งเมื่อคุณชวน หลีกภัย มาเป็นนายกรัฐมนตรี ผมได้อาสาไปทำเรื่องนี้ต่อ ตลอดเวลา 2 ปีเศษที่เป็นรัฐมนตรี ช่วยให้คนจนที่เป็นคนนอกกฎหมายได้ครอบครองในที่ดินทำกินที่พ่อแม่หักร้างถางพงมาให้โดยถูกกฎหมายเกือบ 700,000 ครอบครัว ข้อบกพร่องของผมเกิดขึ้นเพราะว่าไปทำปฏิรูปที่ดินที่ภูเก็ตด้วย บังเอิญมีคนมีฐานะ 8 คนได้ที่ดินเอกสารสิทธิ์ สปก. ตามกฎหมายฉบับนี้ ไม่ได้ไปบุกรุก ไม่ได้แพ้วถางมาด้วยตัวเอง พ่อแม่เขาทำมา ทำเป็นสวนยาง สวนปาล์ม สวนผลไม้ไว้แล้ว เป็นมรดกตกทอดถึงเขา เขาไปยื่นขอตามสิทธิ ซึ่งได้ตามสิทธิ โชคร้ายคนหนึ่งเป็นสามีของเลขาฯ ผม เท่านั้นเองสุเทพกลายเป็นคนปล้นแผ่นดินเลย เท่านั้นเองผมไม่ได้รับ สปก. 4-01 เลย คนในตระกูลผมไม่มีสักผืนเดียว โจมตีกันใหญ่ คนที่โจมตีผมมากอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมดคือ ทักษิณ ชินวัตร ออกโปสเตอร์หมดทั้งประเทศไทย สมคบกันถึงขนาดเอากระจงไปปล่อยในที่นั้นบอกว่าสัตว์ป่าชุกชุม ไล่ตะครุบจับกระจงได้ สู้คดีถึงศาล ผมชนะคดี เรื่องก็จบ แต่ไม่มีใครช่วยชี้แจงว่าผมทำถูกอย่างไร เอาเรื่องนี้มาย้ำหัวตะปูเรื่อย คนที่พลอยด่าวันนี้ก็จำไม่ได้ว่าเรื่องมันเป็นอย่างไร ไอ้ 4-01 เนี่ย"
ชี้แจงเรื่องโรงพักร้าง จัดซื้อจัดจ้างผ่าน ผบ.ตร 4 คน แต่สร้างไม่เสร็จเลยเอามาลงสุเทพ
"เรื่องล่าสุด ไปปลุกปั่นยุยงข้าราชการตำรวจ ไปปั่นตำรวจภาค 3 ตำรวจภาค 4 ซึ่งอยู่ภาคอีสานทั้งนั้น ไปปลุกปั่นยุยงว่าผมแสดงอาการดูถูก ดูหมิ่น เหยียดหยามตำรวจ ทำให้ตำรวจเสียศักดิ์ศรี ประชาชนเกลียดชัง และอ้างเหตุว่ากำนันสุเทพ ทำให้โรงพักทั้งหลายสร้างไม่เสร็จ เรื่องโรงพักสร้างไม่เสร็จ เอามาตีกันขนานใหญ่ครั้งหนึ่งแล้ว เมื่อตอนคุณชายสุขุมพันธุ์ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่ากรุงเทพมหานคร แต่คนกรุงเทพฯ เขารู้ทัน และมีคนเอาหลักฐานมาว่า เรื่องนี้มี พล.ต.อ.พงศพัศ เซ็นต์ว่าเรียบร้อย เสนอได้"
"ผมนึกว่าจบไปแล้ว วันนี้รื้อขึ้นมาใหม่ ผมก็เลยอยากจะเรียนว่า ผมเป็นคนริเริ่มว่าสถานีตำรวจที่เก่า ควรจะสร้างใหม่ให้เขา หรือบ้านที่เก่าก็ควรจะสร้างให้เขาใหม่ และรัฐบาลอภิสิทธิ์ก็อนุมัติตามที่ผมเสนอสร้างโรงพัก และแฟลตตำรวจ ส่วนกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ทุกขั้นตอนผ่านผู้บัญชาการตำรวจมาแล้ว 4 คน พอมาถึงวันนี้ พอบอกโรงพักสร้างไม่เสร็จไม่รู้จะหาเรื่องใครก็มาบอกว่าเพราะสุเทพ ทำให้โรงพักสร้างไม่เสร็จ พี่น้องคิดดูว่าถ้าผมทุจริตสร้างโรงพัก ธาริตจะปล่อยผมหรือ ผู้บัญชาการตำรวจคนต่อมาซึ่งเป็นพี่เมียของทักษิณจะปล่อยผมไหม ถ้าผมทำผิด"
ยันไม่รังเกียจตำรวจดี แต่รังเกียจตำรวจชั่วที่มีไม่กี่คนในประเทศนี้
"และวันนี้ก็เอาเรื่องนี้มาปล่อยใหม่ และที่่บอกว่าผมด่าว่าใส่ร้ายตำรวจ ไม่ให้เกียรติ ผมจะเรียนความจริงว่า ผมเป็นคนดำเนินการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติช่วยเลื่อนยศตำรวจชั้นประทวนให้ได้เป็นนายร้อยกับเขาสักที นี่เป็นความคิดผม นโยบายผม ทำไว้เสร็จเรียบร้อย เปลี่ยนรัฐบาลผมออกมา เฉลิมไปนั่งตรงนั้น ชุบมือเปิบว่าเป็นผลงาน ที่ผมกล้าพูดอย่างนี้เพราะคนในสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ทำเรื่องนี้มาด้วยกัน ยังมีชีวิตอยู่ ยังรับราชการอยู่ แต่นั่นไม่สำคัญ ที่สำคัญคือ ผมพูดทุกครั้งว่าพวกเรามวลมหาประชาชนไม่มีใครรังเกียจเดียดฉันท์ตำรวจ เห็นความสำคัญ เห็นคุณค่าของตำรวจในฐานะผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ผู้รักษากฎหมาย ผู้ดูแลความปลอดภัยในชีวิต ทรัพย์สินของประชาชน และประชาชนอย่างเรายังหวังพึ่งตำรวจ"
"แต่เรารังเกียจตำรวจชั่ว เฉพาะตำรวจชั่ว ที่มีไม่กี่คนในประเทศนี้ นับหัวได้ ตำรวจชั่วที่เรารังเกียจคือตำรวจประเภทที่ไม่เห็นคุณค่าในชีวิตของประชาชน แทนที่จะสืบสวนหาพยานหลักฐานมาดำเนินคดี ตัดสินตามจำอำเภอใจ อุ้มไปฆ่า เราเรียกตำรวจชั่ว เราไม่ต้องการให้มีตำรวจอย่างนี้ ไม่ว่าการอุ้มฆ่านั้นจะอุ้มฆ่าด้วยคำสั่งของใครก็ตาม เราไม่ต้องการเห็น เพราะเราเคารพในศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ของประชาชนคนไทย เรารู้ค่าชีวิตพี่น้องประชาชนคนไทย ชีวิตใครมีค่าทั้งนั้น และกฎเกณฑ์ กติกาทั่วโลก ใครทำผิดกฎหมายต้องให้เขามีโอกาสพิสูจน์ตัวเอง ต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม"
"เรามวลมหาประชาชนถึงได้ตำหนิกรณีที่ทักษิณสั่งให้ฆ่าคนที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทำให้คนไทยตายไป 2,800 กว่าคน เราไม่เชื่อว่าทั้ง 2,800 กว่าคน เป็นคนชั่ว สมควรตายทุกคน เราไม่เชื่อ และแม้จะเป็นคนทำความผิด เราก็ยังต้องการให้ได้ต่อสู้คดี และตัดสินโดยกระบวนการยุติธรรม นั่นคือมวลมนุษย์ที่เขาอารยะเขาประพฤติกัน เราไม่ต้องการเห็นตำรวจใช้อำนาจเกินเขตที่กฎหมายกำหนดเอาไว้ ไม่ต้องการเห็นตำรวจทำตัวเป็นศาลเตี้ย พิพากษาลงโทษประหารชีวิตประชาชน โดยเขาไม่มีโอกาสพิสูจน์ตัวเอง อย่างนี้ไม่ยอมเด็ดขาด"
เห็นใจตำรวจผู้น้อย จึงคิดช่วยปฏิรูปโครงสร้าง และที่ปั่นตำรวจก็เพื่อพามาสลายชุมนุม
"ในวงการตำรวจรู้ดี ว่าตำรวจที่มีนิสัยความประพฤตินี้มีกี่คน รู้อยู่ และตำรวจอย่างนี้คือตำรวจที่เรารังเกียจ เรารังเกียจตำรวจที่ไม่ยุติธรรม ที่กินสินบาท คาดสินบน ทำให้กระบวนการยุติธรรมเบื้องต้นคือสำนวนคดีความประชาชนถูกบิดเบือน ทำผิดให้เป็นถูก เรารังเกียจตำรวจแบบนี้ ไม่ได้รังเกียจตำรวจดีๆ ตำรวจที่ฆ่าดาบยิ้มตายเราก็รังเกียจ ไม่ว่าพ่อจะเป็นใหญ่ยังไงเราก็รังเกียจ ถึงวันนี้มีโอกาสก็ด่าทั้งพ่อทั้งลูก พี่น้องทั้งหลายผมจึงขอวิงวอนไปยังพี่น้องตำรวจทั่วประเทศอย่าหูเบา อย่าไปเชื่อคำยุยงปลุกปั่น เปิดเทปที่ผมพูดบ้างสิ เรารังเกียจตำรวจชั่วเท่านั้น แต่เป็นกำลังใจให้ตำรวจดีๆ และไม่เห็นดูถูกดูหมิ่น ไม่เคยยุยงตำรวจให้ถูกเกลียดชัง เห็นใจตำรวจชั้นผู้น้อยด้วยซ้ำไป และมีอาชีพเดียวในโลกที่คนชั้นผู้น้อย ต้องหาเลี้ยงคนชั้นผู้ใหญ่คืออาชีพตำรวจ นี่เขารู้กันทั้งประเทศ และที่มวลมหาประชาชนคิดจะปฏิรูปโครงสร้างตำรวจก็ด้วยเหตุนี้ หวังที่จะช่วยตำรวจชั้นผู้น้อยทั้งหลายเป็นไทแก่ตัวเอง มีเกียรติยศ ศักดิ์ศรี เดินสบตาประชาชนได้ ไม่ต้องเป็นขี้ข้าเจ้าใหญ่นายโต ไม่ต้องเซ่นวักตักแตนเวลาเลื่อนยศ เลื่อนชั้น นี่คือเจตนาของมวลมหาประชาชน ขอให้พี่น้องตำรวจตระหนัก พิจารณาความจริงเรื่องนี้"
"ที่ยุยงปลุกปั่นตำรวจภาคอีสาน ภาคเหนือ คือต้องการเอาตำรวจมาจัดการพวกเราที่นี่ ปลุกทุกวัน ประชุมกันครับ ตั้งเป้าว่าจะระดมกำลังตำรวจ 80,000 คน เอามาสลายพวกเราที่นี่ นี่เองคือจุดที่ไปปลุกปั่นยุยงครับ เดี๋ยวนี้ต้องแอบประชุมกัน เพราะกลัวตำรวจดีๆ เอาข่าวสารมาเล่าให้เราฟัง พูดตรงนี้ว่าต้องยกย่องตำรวจดีๆ ทั้งหลาย วันนี้ ผบ.ตร. รอง ผบ.ตร. จะเอากำลังตำรวจมาจัดการประชาชน ตำรวจดีๆ บอกเขาไม่ทำ ไม่อยากทำร้ายประชาชน ถึงได้ไประดมปลุกระดมขนานใหญ่ และผมเรียนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติครับ อย่าว่าแต่ 80,000 เลย เอามาแสนคนก็ไม่สามารถปราบมวลมหาประชาชนได้แน่นอน ผมยืนยัน เพราะมวลมหาประชาชนคราวนี้มีหลายล้านคน ไม่ต้องเอาไม้กระบองมาตีหรอก กอดฟัดตัวต่อตัวก็เหลือกำลังอีกเยอะสำหรับมวลมหาประชาชน"
"และเราประกาศเลยว่าเราไม่ต้องการสู้รบปรบมือตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่คนไหนทั้งสิ้น เราไม่ได้มาสู้กับเจ้าหน้าที่ เราสู้กับระบอบทักษิณ เพื่ออนาคตลูกหลานเรา และอนาคตลูกหลานตำรวจด้วย ผมไม่เชื่อว่าคุณอดุลย์ แสงสิงแก้วจะมีเงินทองมากมาย จะไปเสพสุขที่ดูไบ ในบั้นปลายชีวิต เพราะฉะนั้นอย่าเป็นศัตรูประชาชนเลยครับ แก่เฒ่าปลดเกษียณแล้ว อยู่ร่วมกับประชาชนบนแผ่นดินไทย มีความสุขกว่าไปตายต่างประเทศ เชื่อผมครับคุณอดุลย์"
ถ้าเลวเหมือนสามเกลอ นปช. ป่านนี้กรุงเทพฯ ราพณาสูร ตำรวจทหารตายเป็นเบือ
ในช่วงท้ายของการปราศรัย สุเทพกล่าวถึงกรณีที่มีการท้วงติงเรื่องการชุมนุมใหญ่ปิดกรุงเทพฯ 13 ม.ค. ว่า "ที่ต้องทำเพราะไม่มีวิธีอื่น เพราะเราสันติ สงบ ไม่ใช้อาวุธ ถ้าเราเลวเหมือนวีระ ณัฐวุฒิ จตุพร หมอเหวง ไอ้ก่อแก้ว ป่านนี้ ชิบหายหมดแล้วกรุงเทพฯ ราพณาสูรแล้ว ป่านนี้ตำรวจทหารตายเป็นเบือ แต่เราเป็นคนดี มือเปล่ามันก็ดูเราไม่มีน้ำยา ทักษิณมันโทรศัพท์บอกน้องสาว เมียมัน ว่าวันที่ 13 ม.ค. ไม่ต้องกลัวอะไร ออกมากี่ล้านคน อย่างมากสุเทพขึ้นเวทีกลางคืนพูดหนเดียวแล้วคนกลับบ้าน ไม่ต้องกลัว มันพูดอย่างนี้ ผมถึงได้ประกาศไงครับพี่น้อง คราวนี้มึงต้องกลัวแน่นอน เพราะกูสู้ไม่เลิก สู้มัน 13 - 14 - 15 - 18 - 20 -30 ม.ค. สู้มันโน่นเลย"
"พี่น้องทั้งหลาย เราคนดี ไม่ใช่คนบ้า เรารู้ที่จะทำมีคนเดือดร้อน เราพยายามให้เดือดร้อนน้อยที่สุด มีที่ไหนละครับ ประกาศปิดกรุงเทพฯ แล้วเว้นเลนให้รถเมล์วิ่งเลนหนึ่ง ให้รถพยาบาลวิ่งได้ นี่เราคิดหมด คนจนที่ท่านเป็นห่วง เชิญเลยครับนั่งไปไหน รถเมล์เลยครับนิมนต์เลย ยินดี ไม่ว่า รถไฟฟ้ายังเปิดให้บริการ รถใต้ดินเปิด รถไฟยังเปิดวิ่งอยู่ผ่านสามเสน บางซื่้อ รังสิต มาได้หมด ไม่กระทบเลย การคมนาคมทั้งหลายยังทำได้ดี แม้แต่แท็กซี่ก็ไม่ต้องบ่น รับผู้โดยสารมา ติดพวกเราตรงไหน ลงตรงนั้น เก็บตังค์เขา แล้วไปหากินตรงอื่น ไม่เดือดร้อนอะไร"
ย้ำปิด กทม. ให้เดือดร้อนน้อยที่สุด ขรก.ถือว่าได้โบนัส ถ้านายจ้างใจดีให้ลางานมาชุมนุม
"แล้วเราบอกแล้ว ว่าตั้งใจปิดกรุงเทพฯ แต่ว่าให้คนกรุงเทพฯ เดือดร้อนน้อยที่สุด ย่านที่เป็นที่อยู่อาศัยไม่ไปปิด ท่านออกมาร่วมกับเราก็มาให้สบายใจ ไม่มาก็นอนดูทีวีอยู่บ้าน ไม่ว่ากัน เชิญ แต่ว่าในเมืองต้องปิด ปิดเฉพาะเขตที่จำกัด รถเมล์ผ่านได้ รถไปโรงพยาบาลผ่านได้ รถราชการห้ามผ่าน จอด ผ่านไม่ได้ทั้งนั้นราชการกระทรวงไหนต้องหยุด แล้วผมรู้พี่น้องข้าราชการมานั่งที่นี่เยอะเกือบครึ่ง ผมรู้ สบายใจได้ ไม่ต้องไปทำราชการ ได้หยุดราชการโดยไม่ต้องเสียวันลา ไม่เสียโควตา นี่เป็นโบนัสฟรีๆ มวลมหาประชาชนยกให้เป็นปีพิเศษ ข้าราชการได้โบนัสพิเศษปีนี้ ยาว ครึ่งเดือน 20 วัน เผลอๆ มากกว่านั้น ไม่ต้องเสียใจ บริษัทห้างร้านทั้งหลาย เถ้าแก่นายห้างไปทำงานไม่ได้ เพราะว่ามีรถเก๋ง เราไม่ให้ผ่าน แต่ระดับเถ้าแก่นายห้างประธานบริษัทสั่งทางโทรศัพท์ได้ เดี๋ยวนี้ประชุมทางโทรศัพท์ยังได้เลย เอ้อ ไม่เห็นเสียหายอะไร"
"คนจนลูกจ้างถ้ากลัวนายจ้างตัดเงินเดือน ไม่เป็นไร นั่งรถเมล์ไป ไปถึงรถไฟฟ้า BTS ขึ้น BTS ไป ไม่ว่า แต่ถ้าเห็นนายจ้างใจดี ก็ลางานเลย มาชุมนุมกับเรามีข้าวให้กินฟรี สนุกสนาน เจอญาติเจอพี่น้องเยอะแยะไปหมด ช่วยชาติต่างหาก ไม่ต้องบ่นกัน"
"ฝ่ายพวกท่องเที่ยวไม่ต้องกลุ้มใจ มาดูที่นี่สิ ฝรั่งมาเข้าคิวกินข้าวฟรีกับเราทุกวันเลย นักท่องเที่ยวมากับเราทุกวัน วันนี้ผมก็เจอหลายคนมาจากฝรั่งเศสบอกไม่เคยเห็นการชุมนุมต่อต้านรัฐบาลที่ไหนสงบเหมือนเมืองไทย แถมอาหารอร่อยด้วย นี่เขาบอกอย่างนั้น"
วอน ปชช. อย่าขวัญอ่อน รอบนี้ได้ประโยชน์ทั้งแผ่นดิน ไม่ต้องเป็นขี้ข้าระบอบทักษิณ
สุเทพปราศรัยต่อไปว่า "เพราะฉะนั้นผมขอถือโอกาสนี้กราบเรียนพี่น้องประชาชน อย่าตกใจ อย่าขวัญอ่อน ไอ้ที่พวกเราทำคราวนี้ ได้ประโยชน์ทั้งแผ่นดิน มวลมหาประชาชนชนะคราวนี้ ลูกหลานท่านชนะด้วย ไม่ต้องเป็นขี้ข้าระบอบทักษิณ เชื่อผมเถอะครับ ผมไม่โกหกนี่ของจริง ไม่ว่าท่านทำอาชีพอะไรในประเทศไทย วันนี้ ต้องมาร่วมกับมวลมหาประชาชน เพราะนี่เป็นโอกาสเดียวในชีวิตที่มวลมหาประชาชน พลเมืองดีอย่างพวกเราจะได้ลุกขึ้นปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และแผ่นดินไทย มีหนนี้หนเดียวเท่านั้น และถ้ามวลมหาประชาชนแพ้ จำผมไว้เลย เป็นขี้ข้าเขาไปทั้งชีวิตนี้ รับรองแน่นอน มันไม่ปล่อยเด็ดขาด"
"เพราะมันกำกับไว้หมดแล้วทักษิณ ต้องเลือกตั้งให้ได้ เลือกตั้งคราวนี้เสียงชนะเด็ดขาด เขียนรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ผ่านกฎหมายนิรโทษกรรมเอามาใช้ทันที พี่จะได้กลับบ้านมาร่วมจัดการบ้านเมืองด้วยตัวเอง หลังจากนั้นจะทำอะไรต่อผมไม่อยากพูด พี่น้องเกลียดทุกคนก็แล้วกันถ้าได้ยินเรื่องที่ผมไม่พูดนี้ แล้วมันจะสืบทอดอำนาจปกครองประเทศนี้ กดหัวพวกเราคนไทย รวบอำนาจไว้ในครอบครัวเขา นี่ชัดเจน ผมถึงบอกว่าเดิมพันคราวนี้ยิ่งใหญ่ พี่้น้องชาวไทยทั้งหลายสู้จนสุดใจขาดดิ้น จนกว่าจะอย่างเดียว ประตูเดียว ไม่มีประตูอื่น"
"วันนี้อาจารย์เสรี วงศ์มณฑา กราบขอพี่น้องทั้งหลายแล้วไม่เห็นด้วยไม่เป็นไร อย่ามาด่ากัน อย่าด่าออกสื่อ อย่ามาทำลายกันเอง เหมือนท่านผู้ใหญ่ท่านมาพบผม มาแสดงตัว อย่านี้เคารพ แต่ถ้าออกไปด่าว่าใส่ร้ายป้ายสีมงลมหาประชาชน อย่างนี้ใช้ไม่ได้ แต่ถ้าใครมีความคิดดีๆ อยากช่วย ไม่บ่น เชิญ เราเปิดกว้าง เราไม่ใช่พวกยึดมั่นถือมั่น อวดดีอวดเก่ง เราน้อมรับคำแนะนำจากทุกคน"
ชวน ผอ.โรงเรียนใน กทม. ลองปิดสัก 5 วัน เผยจะมีหลายมหาวิทยาลัยมาร่วมชุมนุมด้วย
สุเทพได้เชิญชวนให้สถาบันการศึกษาต่างๆ ในกรุงเทพฯ ปิดการเรียนการสอนด้วยโดยกล่าวว่า "กราบเรียน ผอ.โรงเรียนในกรุงเทพฯ เพื่อไม่ให้เขาทำราชการได้ วัตถุประสงค์นะครับ โรงเรียนปิดดูชั้นเชิงสักอาทิตย์สองอาทิตย์ก่อน คือพ่อแม่ผู้ปกครองไม่ต้องห่วงเด็ก จะไปโรงเรียน จะไปส่ง ถ้า ผอ.โรงเรียนปิดตั้งแต่ 13 ม.ค. ปิดสัก 5 วัน แล้วก็ดูว่าข้างโน้นแพ้หรือยัง ถ้ามันไม่แพ้ก็ปิดต่อ อย่างนี้สบายใจทุกฝ่าย คุณครูก็ได้มาร่วมกับเรา ผู้ปกครองมาร่วมกับเรา เผลอๆ เด็กมาร่วมกับเราด้วย"
"สำหรับมหาวิทยาลัยต่างๆ นั้น ผมได้รับตอบมาเรื่อยๆ วันนี้ได้รับแจ้งจากนักศึกษา อาจารย์รังสิต ว่าจะมาสมทบอาจารย์เกษตรศาสตร์ มาจัดการ 5 แยกลาดพร้าว ร่วมกับพี่น้องที่มาจากจังหวัดด้านโน้น มศว.ประสานมิตร คุ้มเคยกับเวทีอโศกจะร่วมมือกับนิด้า และจะมีมหาวิทยาลัยอื่นๆ มาร่วมด้วยกัน เป็นต้น ใครคิดว่าจะช่วยทำอย่างไรได้ เพื่อให้กระบวนการปฏิบัติการยึดเมืองของมวลมหาประชาชนเกิดผลสำเร็จ และรวดเร็ว ด้วยวิธีไหน ช่วยกรุณาแนะนำมา จะเข้ามาร่วมทำด้วยอย่างไร ยินดีต้อนรับทั้งนั้น มาเป็นเจ้าของงานด้วยกัน"