บริเวณสวนสาธารณะรัชดานุสรณ์ จ.ขอนแก่น ภาพจาก ชมรมคนรักในหลวง
6 เม.ย.56 ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ ASTVผู้จัดการออนไลน์รายงานว่า เมื่อเวลา 13.30 น. ที่หลังสถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ หรือ ลานประวัติศาสตร์ เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ชมรมคนรักในหลวง จ.สงขลา จัดกิจกรรมปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยมีชมรมคนรักในหลวงทั้ง 16 อำเภอของ จ.สงขลา และประชาชนสวมเสื้อสีชมพู เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก เพื่อแสดงพลังปกป้องสถานบันพระมหากษัตริย์ เวทีกิจกรรมเริ่มด้วยการแนะนำชมรมคนรักในหลวง จ.สงขลา โดย นางรติรส กาญจนธาร ประธานชมรมคนรักในหลวง จ.สงขลา จากนั้น พล.ต.ท.พิงพันธุ์ แนตรรังสี อดีตผู้บัญชาการตำรวจภูธร 4 (สงขลา) ขึ้นเวทีปราศรัยเรื่อง ในหลวงของเราและพระมหากรุณาธิคุณ และ พ.อ.นิมิตร อักษรเกิด อดีตสัสดี จ.สงขลา ปราศรัยเรื่อง การบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์
นายสุมิตร นวลมณี จากสถานีวิทยุท้องถิ่นสงขลารวมใจ FM 95.50 MHz พูดถึงเรื่อง กฎหมาย ม.112 และความสำคัญ และนำหนังสือร้องเรียนที่พี่น้องประชาชนทนไม่ไหวได้ไปยื่นร้องเรียนให้กับสถานีโทรทัศน์ ไทย พีบีเอส กรณีรายการตอบโจทย์ ว่า เมื่อวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา พี่น้องกลุ่มประชาชนทนไม่ไหว ได้ไปติดตามความคืบหน้ากรณีที่ได้ส่งหนังสือร้องเรียนไปยังสถานีโทรทัศน์ ไทยพีบีเอส แต่ทางสถานีได้ตอบหนังสือกลับมาโดยลงวันที่ 4 เม.ย. ทั้งๆ ที่พี่น้องไปติดตามเรื่องในวันที่ 5 เม.ย. จะเห็นได้ว่าไทยพีบีเอส ไม่ได้ความสำคัญกับประชาชนและดูถูกประชาชนเป็นอย่างมาก และยังบอกอีกว่า เรื่องที่เกิดขึ้น เป็นเพราะไทยพีบีเอส มีเจตนารมณ์นำเสนอเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สถาบันฯ ยั่งยืน โดยการนำประเด็นที่มีการถกเถียงกันมาเผยแพร่และขยายผล แต่ได้เชิญวิทยากรที่คิดจะล้มล้างสถาบันฯ มาออกรายกาย เพราะฉะนั้นในฐานะที่เราประชาชนเป็นข้าพระบาท เราจะไม่ยอมต้องดำเนินการตามกฎหมายกับไทยพีบีเอสต่อไป หรืออาจจะถึงขั้นต้องปิดสถานีโทรทัศน์ ไทยพีบีเอสก็เป็นได้
นายสุมิตร กล่าวต่ออีกว่า ถ้าไม่มี กฎหมาย ม.112 แล้วจะมีอะไรมาเป็นกรอบปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ พวกที่ต้องการจะล่วงละเมิดเลยต้องการที่จะยกเลิกกฎหมาย เช่นเดียว นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์ มหาวิทยาธรรมศาสตร์ และพวก เป้าหมายของคนกลุ่มนี้มี 8 ข้อด้วยกันคือ 1. ยกเลิกรัฐธรรมนูญ มาตรา 8 2.ยกเลิกประมวลกฎหมาย มาตรา 112 3.ยกเลิกองคมนตรี 4. ยกเลิก พ.ร.บ.จัดระเบียบทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ 5.ยกเลิก ประชาสัมพันธ์ด้านเดียว และการศึกษาเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ 6. ยกเลิกพระราชอำนาจแสดงความเห็นทางการเมือง 7.ยกเลิกพระราชอำนาจโครงการหลวงทั้งหมด และ 8.ยกเลิกการบริจาคโดยเสด็จพระราชกุศล
“เพราะฉะนั้น เราในฐานะประชาชนคนไทย เราจำเป็นต้องมีสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะพระมหากษัตริย์คอยปกป้องประชาชนในแผ่นดินไทย ปกป้องคุ้มครองประเทศชาติมาด้วยพระปรีชาสามารถ หากมีการยกเลิก ม.112 เพื่อให้พวกที่คิดจะล้มล้างสถาบันฯ พ้นความผิด ต่อไปหากโจรที่ทำผิดก็มีการเรียกร้องแก้ กฎหมายเพื่อที่จะได้ทำชั่วต่อไปได้เช่นกัน” นายสุมิตร กล่าว
จากนั้น ชมชมคนรักในหลวง จ.สงขลา ได้นำหนังสือแถลงการณ์ประณามไทยพีบีเอส แจกจ่ายให้กับประชาชนที่มาเข้าร่วมกิจกรรม ก่อนที่จะแยกย้ายเดินทางกลับบ้าน
บริเวณสวนสาธารณะรัชดานุสรณ์ จ.ขอนแก่น ภาพจาก ชมรมคนรักในหลวง
ชมชมคนรักในหลวง อีสาน สาปแช่งเผาหุ่น “ภิญโญ-ส.ศิวรักษ์-สมศักดิ์”
นอกจากชมรมคนรักในหลวงจะมีการจัดกิจกรรมที่ ลานประวัติศาสตร์ เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา แล้ว ก่อนหน้านั้น วันที่ 5 เม.ย. ศูนย์ข่าวขอนแก่น ASTVผู้จัดการออนไลน์ รายงานด้วยว่า เมื่อเวลาประมาณประมาณ 16.30 น. ที่บริเวณสวนสาธารณะรัชดานุสรณ์ จ.ขอนแก่น พี่น้องประชาชนเครือข่ายชมรมคนรักในหลวงในพื้นที่ภาคอีสานหลายร้อยคนได้มารวมตัวเพื่อแสดงพลังถวายความจงรักภักดีสถาบันพระมหากษัตริย์
นอกจากนี้ ตัวแทนแต่ละจังหวัดได้ผลัดกันขึ้นเวทีกล่าวปราศรัยเทิดทูนพระมหากรุณาธิคุณพระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ โดยเฉพาะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ที่ทุ่มเทพระวรกายเพื่อช่วยเหลือดูแลพสกนิกรชาวไทยมาอย่างยาวนาน
ต่อมา ในเวลา 18.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมเครือข่ายคนรักในหลวงที่มาชุมนุมได้ร่วมร้องเพลงชาติร่วมกัน
ในตอนท้ายของกิจกรรมการชุมนุมครั้งนี้ ได้มีการนำหุ่นฟาง นายภิญโญ ไตรสุริยธรรมา ผู้ดำเนินรายการตอบโจทย์ นายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ และสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล มาขังในสุ่มไก่ และทำพิธีสาปแช่งและจุดไฟเผา เพื่อประณามการกระทำอันมิควรต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทย
พิษณุโลก – สระบุรี- ชุมพร ร่วมประณาม ค้านแก้ ม.112
นอกจากนี้ ASTVผู้จัดการออนไลน์รายงานด้วยว่า ค่ำวันที่ 5 เม.ย. ที่สวนชมน่าน หลังสถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก ชมรมคนรักในหลวง พิษณุโลก นำโดยนางจุฑาทิพย์ สิทธิวงศ์ ประธานชมรมฯ และสมาชิกพร้อมกลุ่มลูกเสือชาวบ้านประมาณ 300 คน ได้ร่วมกันจัดเวทีแสดงพลังจงรักภักดี เทิดทูนและปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์
โดยในกิจกรรมมีการเชิญ พล.อ.ศิริ ทิวะพันธุ์ อดีตแม่ทัพภาคที่ 3 ผศ.สุพจน์ พฤกษะวัน อดีตประธานกกต. พิษณุโลก พล.ท.วิเชียร ไชยปกรณ์ อดีต ผบ.บชร.3 พล.ต.ท.วสันต์ วัสสานนท์ อดีต ผบช.ตำรวจภูธรภาค 6 พ.จ.อ.เอกนพดุล ใจอารีย์ นายกสมาคมนักหนังสือพิมพ์ภูมิภาคแห่งประเทศไทย และอาจารย์ ม.นเรศวรขึ้นเวที พูดถึงพระราชกรณีกิจและโครงการพระราชดำริขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก่อนฉายภาพยนต์สารคดีเฉลิมพระเกียรติพระราชกรณียกิจของในหลวง
ซึ่งวิทยากรที่ร่วมเวทีครั้งนี้ได้มีการพูดถึงกรณีรายการ “ตอบโจทย์ประเทศไทย” ว่า สถานีโทรทัศน์ Thai PBS ไม่เหมาะสม ไม่ควรทำ ไม่ควรสนับสนุนกลุ่มที่ไม่จงรักภักดี อีกทั้งผู้บริหารสถานียังปล่อยให้มีการทำเทปออกอากาศ โดยไม่มีการแก้ไข ทั้งๆ ที่ควรต้องออกมารับผิดชอบ คนพวกนี้เพิ่งเกิดแค่รุ่นเดียว แต่คนรุ่นก่อนๆ เขาผ่านมาหลายยุคหลายสมัย อย่าให้คนกลุ่มเดียวมาทำลายสถาบัน พร้อมระบุว่า กลุ่มคนพวกนี้มีความผิดซ้ำซาก และเสนอให้นำเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุมสมาคมนักหนังสือพิมพ์ภูมิภาคแห่งประเทศไทยอีกด้วย
สำหรับในช่วงเช้าของวันเดียวกัน หน้าศาลากลางจังหวัดสระบุรี ชมรมคนรักในหลวงสระบุรี นำโดย พลตรี ณรงค์ นาคปรีชา ประธานชมรมฯ ได้จัดกิจกรรมชุมนุมต่อต้านและขอประณาม สถานีโทรทัศน์ไนพีบีเอส รายการ ตอบโจทย์ ประเทศไทย ตอนสถาบันพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ ด้วยเช่นกัน โดยให้เหตุผลด้วยว่า สร้างความไม่พอใจต่อประชาชนคนรักในหลวงทั่วประเทศ รายการดังกล่าว มีผลกระทบต่อความรู้สึก และ สภาพจิตใจของคนไทยอย่างรุนแรง ซึ่งพวกเรายึดมั่น และ เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ มาช้านาน รวมทั้งไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขหรือยกเลิก ม. 112 รายการดังกล่าวก่อให้เกิดความเห็นต่าง และแตกแยกในกลุ่มคนไทยด้วยกัน คนรักในหลวงต้องการการปกครองในระบอบประชาธิปไตย โดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข และอยู่คู่ประเทศไทยตลอดไป
เช่นเดียวกับที่จังหวัดชุมพร ชมรมคนรักในหลวงชุมพร นำโดย นายธรรมนูญ เศวตเวช ประธานชมรมคนรักในหลวงจังหวัดชุมพร ยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดฯ และผู้นำทหารในจังหวัดชุมพร ประณามสถานีโทรทัศน์ทีวีไทย ด้วย
ภาพจากเฟซบุ๊กเพจ ‘ชมรมคนรักในหลวงจังหวัดสระบุรี’
ภาพจากเฟซบุ๊กเพจ ‘ชมรมคนรักในหลวง จังหวัดชุมพร’
เปิดแถลงการณ์ชมรมฯ ประณามตอบโจทย์ฯ สาบานยอมพลีชีพปกป้องในหลวง
สัญลักษณ์ของความเป็นไทยที่สำคัญประการหนึ่ง คือการดำรงอยู่ของ “สถาบันพระมหากษัตริย์” ที่มีความต่อเนื่องยาวนานมากว่า 700 ปีแล้ว ชาวไทยทุกคนต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในรัชกาลปัจจุบันที่ทรงตรากตรำประกอบพระราชกรณียกิจเพื่อปวงชนชาวไทย และประเทศชาติมาตลอดระยะเวลาที่ทรงครองราชย์ แม้ขณะทรงพระประชวรก็ยังทรงห่วงใยในความทุกข์ยากของประชาชนอยู่เสมอ รายการตอบโจทย์ ของสถานีโทรทัศน์ Thai PBS เมื่อวันที่ 11 - 14 และ 18 มีนาคม 2556 ที่ผ่านมา ผู้ร่วมรายการได้แก่ นายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ และนายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ได้แสดงความคิดเห็นต้องการให้ยกเลิกกฎหมายอาญามาตรา 112 อันเป็นกฎหมายคุ้มครองสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งประเทศต่างๆ ในโลกนี้ก็มีกฎหมายคุ้มครองประมุขของเขาเช่นเดียวกัน นอกจากนั้นยังได้วิจารณ์ให้ร้ายต่อสถานะของสถาบันพระมหากษัตริย์ และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีพระราชดำรัสสดต่อปวงชนชาวไทย จึงเห็นได้ชัดเจนว่า รายการตอบโจทย์ ของสถานีโทรทัศน์ Thai PBS ซึ่งมีพฤติกรรมแสดงออกที่กล่าวมาแล้วนั้น มีวัตถุประสงค์เคลือบแฝงที่ต้องการทำลายความเชื่อถือศรัทธาของประชาชนที่มีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์และพระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว การกระทำของสถานีโทรทัศน์ Thai PBS ครั้งนี้ได้ส่งผลกระทบต่อจิตใจของคนไทยทุกคนที่จงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสมือนกับน้ำมันเข้าไปราดในกองไฟแห่งความแตกแยกของคนไทยที่ยังคุกรุ่นอยู่ พวกเราชมรมคนรักในหลวงได้สาบานไว้แล้วว่าจะยอมพลีชีพเพื่อปกป้องพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขอประณามการกระทำของสถานีโทรทัศน์ Thai PBS พร้อมทั้งจะดำเนินการเอาผิดทั้งทางกฎหมาย และทางสังคมกับผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างถึงที่สุด |
ชมรมคนรักในหลวง ?
สำหรับชมรมคนรักในหลวง นอกจากมีเฟซบุ๊กแฟนเพจ ทั้งที่เป็นเฟซบุ๊กชื่อ ‘ชมรมคนรักในหลวง’ ซึ่งประกอบด้วยเพจประจำจังหวัดต่างๆ เช่น ชมรมคนรักในหลวง จังหวัดสกลนครจังหวัดสระบุรีและ จังหวัดชุมพร แล้ว ชมรมยังมีเว็บไซต์ของตัวเองด้วยในชื่อ welovethaiking.com โดยในเว็บไซต์ดังกล่าวระบุว่า ชมรมนี้ได้รับการสนับสนุนการจัดตั้งโดย ‘คณะบุคคลพอเพียง’ ในจังหวัดต่างๆ มาตั้งแต่ปลายปี พ.ศ.2554 เพื่อเป็นองค์กรที่จะรวบรวมคนไทยที่รักในหลวงให้ปรากฏเป็นกลุ่มก้อน เป็นการแสดงตนให้คนในสังคมเห็นว่า “คนรักในหลวง” มีตัวตนจริงอยู่ทั่วประเทศ
สำหรับกิจกรรมของชมรมนี้ระบุว่า ประการที่หนึ่ง คือ การเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ด้วยการพร้อมใจกันแสดงออกถึงความจงรักภักดีในวันสำคัญคือ วันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ วันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ
การน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง ที่ได้รับการอบรมจากวิทยากรและผู้ทรงคุณวุฒิต่างๆ ไปปฏิบัติให้เกิดประโยชน์แก่ตนเองและครอบครัว โดยคณะบุคคลพอเพียงจะเป็น “พี่เลี้ยง” ให้ในกรณีที่ ชุมชนนั้น ๆ ยังไม่มีหน่วยงานภาครัฐ หรือภาคเอกชนใด ๆ เข้าไปดูแลหรือสนับสนุน
ส่วนกิจกรรมรองที่ คณะบุคคลพอเพียง ฝากไว้ให้ “ชมรมคนรักในหลวง” ทุกแห่งใส่ใจก็คือ ช่วยกันสอดส่องความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนที่จะเป็นภัยต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ หากพบเห็นการเคลื่อนไหวของคนกลุ่มนั้นที่ใด ขอให้ “ชมรมคนรักในหลวง” แสดงตนต่อต้านอย่างสงบในทันที เหมือนที่ “ชมรมคนรักในหลวง” ในทุกจังหวัดได้ดำเนินการมาแล้ว ทั้งเดินขบวนต่อต้านหรือยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อคัดค้านกลุ่มนิติราษฎร์ที่ออกมาปลุกระดมให้มีการยกเลิกกฎหมายอาญา มาตรา 112 และคัดค้านกลุ่มคนที่เคลื่อนไหวปลุกปั่นให้คนไทยในชนบทที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์
ภาพกิจกรรมชองชมรม ภาพจาก : www.welovethaiking.com