ยกฟ้องแดง ปวนมูลคดีร่วมกันฆ่าพ่อดีเจแกนนำพันธมิตรปี 51 หลักฐานไร้น้ำหนัก เตรียมออกคุกต้นปีหน้า ญาติชื่นมื่น จำเลยยันบริสุทธิ์ไม่อยู่ในเหตุ ขอบคุณทีมช่วยเหลือและมวลชนเสื้อแดง
วันนี้ (27 ธันวาคม 2556) ศาลจังหวัดเชียงใหม่นัดฟังคำพิพากษาคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.2421/56 ซึ่งมีนายแดง ปวนมูล อายุ 42 ปีอดีตการ์ดเสื้อแดงกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ตกเป็นจำเลยในข้อหาร่วมกันฆ่านายเศรษฐา เจียมกิจวัฒนา หรือ “ลุงหน่อ” บิดาของนายเทิดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา หรือ “โต้ง วิหค” ผู้ก่อตั้งกลุ่มทหารเสือพระราชาซึ่งเป็นการ์ดพันธมิตรเชียงใหม่ จากกรณีเหตุปะทะเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2551 ที่บริเวณหน้าหมู่บ้านระมิงค์ ต.หายยา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ใกล้ที่ตั้งของสถานีวิทยุวิหคเรดิโอ 89 MHz (รักเชียงใหม่ 51 ปะทะเดือดเจ็บ 2 ฝ่าย พ่อแกนนำทหารเสือพระราชาดับ )
ศาลพิพากษายกฟ้องจำเลยด้วยเหตุผลโดยสรุปว่า โจทก์ไม่มีพยานหลักฐานว่าจำเลยมีส่วนร่วมฆ่าผู้ตาย มีเพียงภาพถ่ายจำเลยเหน็บมีดสปาร์ตาไว้ที่เอวอยู่ในที่เกิดเหตุเวลากลางวันที่สายตำรวจและสื่อมวลชนถ่ายไว้ได้เท่านั้น แต่เหตุเกิดในเวลากลางคืนซึ่งไม่มีภาพถ่ายของจำเลย อีกทั้ง พ.ต.ท.สวัสดิ์ หล้ากาศ พยานโจทก์เบิกความว่าภาพถ่ายของจำเลยเป็นช่วงเวลากลางวันไม่ใช่เวลากลางคืน และ พ.ต.ท.อธิพงศ์ ทองแดง พยานโจทก์ยังเบิกความอีกว่าภาพถ่ายจำเลยถ่ายได้ห่างจากเวลาเกิดเหตุถึงสองชั่วโมง ยังห่างไกลที่จะพิสูจน์ว่าจำเลยเป็นผู้กระทำความผิด จำเลยปฏิเสธมาแต่ต้น แม้จะรับว่าได้ไปที่เกิดเหตุจริงแต่ แต่ออกจากที่เกิดเหตุไปรับนายสมชาย วงษ์สวัสดิ์ที่สนามบินเชียงใหม่ก่อน การนำสืบของโจทก์ไม่มีน้ำหนักให้รับฟัง จึงพิพากษายกฟ้อง
ในการเข้าฟังคำพิพากษาวันนี้มีบิดามารดา น้องสาว และบุตรชายของนายแดงเข้าร่วมรับฟัง พร้อมกับนายสมศักดิ์ อ่อนไสว และนายพยอม ดวงแก้ว จำเลยจากกรณีเดียวกันนี้ที่ศาลฎีกาอนุญาตให้ได้ประกันตัว (ศาลฎีกาสั่งอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวจำเลยคดีเสื้อแดงเชียงใหม่ 5 ราย ) ก็มาร่วมให้กำลังใจนายแดงด้วย
หลังศาลพิพากษา นายวัฒนา เจนนภา ทนายความผู้รับผิดชอบหลักในคดีนี้จากกลุ่มยุติธรรมล้านนากล่าวว่า “คดีอาญาขึ้นอยู่กับหลักฐาน โจทก์ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าจำเลยทำผิด แต่โจทก์ไม่มีหลักฐาน ศาลก็ดูตามข้อเทฺ็จจริง ก็ถือว่ายุติธรรมแล้ว ส่วนเรื่องที่ว่าไม่มีหลักฐานแล้วมาฟ้องได้ยังไงอันนี้ก็ต้องย้อนกลับไปดูเรื่องการเมือง ว่าการใช้กฎหมายไปเกี่ยวพันกับการเมืองมันถูกต้องหรือเปล่า ตำรวจกับอัยการควรจะมีหน้าที่กลั่นกรอง แต่พอเป็นเรื่องการเมืองการกลั่นกรองก็เป็นไปตามกระแส บางคดีไม่ควรจะขึ้นถึงศาลเลยก็ยังอุตส่าห์มี"
ต่อคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานการณ์ความรุนแรงขณะนี้ที่มีผู้ชุมนุมก่อเหตุทำร้ายผู้อื่นหรือทำลายทรัพย์สินนั้น นายวัฒนาตอบว่า "ควรจะไล่กันตามความผิดที่แต่ละคนกระทำ ไม่ใช่เหมาทั้งหมด ใครเป็นคนลงมือคนนั้นก็ต้องรับไป ไม่ใช่ว่าทั้งม็อบจะต้องมาร่วมรับผิดรับโทษด้วย คุณชุมนุมบนถนนได้ แต่ใครที่ทำความผิดอาญาก็ต้องรับเป็นรายๆ ไป ถ้าชัดเจนว่ามีแกนนำยุยงให้ทำ ให้ไปตีคนโน้น ให้ไปเผาคนนี้ ให้ไปทุบรถ ก็ถือว่าวานใช้ให้ทำ หรือประกาศให้คนไปละเมิดกฎหมายก็ต้องรับโทษด้วย อย่างคำประกาศ "สงครามครั้งสุดท้าย"ก็ขึ้นอยู่ว่าเขาสู้สงครามยังไง ส่วนใหญ่มันเป็นแค่วาทกรรมที่พูดกันมาเจ็ดปีแปดปีแล้ว ก็แค่ใช้ปลุกใจม็อบเท่านั้นเอง"
นายแดง ปวนมูลกล่าวขอบคุณผู้ช่วยเหลือดูแลในทุกด้านที่ผ่านมาทั้งหมด และอยากจะขอบคุณอีกครั้งหลังจากที่พ้นโทษในคดีเก่า (พิพากษาเสื้อแดงเชียงใหม่ จำคุก 5 ปี 6 เดือน จากเหตุปะทะกลุ่มพันธมิตรปี 51) ซึ่งได้รับสารภาพไปก่อนหน้า แต่ส่วนคดีนี้ขอยืนยันว่าเป็นผู้บริสุทธืไม่เกี่ยวข้องจริงๆ อยากให้พี่น้องเสื้อแดงมารับที่เรือนจำกลางเชียงใหม่ในวันที่ 10 มกราคมปีหน้าที่จะได้ปล่อยตัว.
แดง ปวนมูลโผเข้ากอดมารดาหลังศาลพิพากษายกฟ้อง บรรยากาศชื่นมื่น
ลิงค์ข่าวเพิ่มเติม
คดีปะทะเหลืองแดงเชียงใหม่ปี 51 สืบพยานเสร็จวันนี้ ญาติผู้ตายไม่ติดใจเอาความ
สืบพยานคดีปะทะเหลืองแดงเชียงใหม่ ปี51 พยานระบุ"เชื่อ"แดง ปวนมูล มีส่วนรู้เห็น