อดีตแกนนำพันธมิตรฯ เผยมีความสุขที่ประชาชนตื่นรู้ ใช้เวลา 8 ปีสู้จนหมดตัว ถูกยิง 200 นัด ถือว่าคุ้ม ชี้พันธมิตรฯ ตัวจริงคือผู้ต่อสู้แก๊สน้ำตาที่ชมัยมรุเชฐแบบถึงไหนถึงกันและไม่ทวงบุญคุณ พร้อมหนุน 'สุเทพ'นำมวลชนแต่ต้องเลิกเอาใจทหาร 'ต้องบีบไข่ทหาร'ถ้าไม่ทำสนธิจะมานำมวลชนเอง
สนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ปราศรัยที่บ้านเจ้าพระยา เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 2556 (ที่มา: สถานีโทรทัศน์ ASTV)
สนธิ ลิ้มทองกุล ระบุมีความสุขที่สุด เพราะประชาชนตื่นแล้ว
เมื่อวานนี้ (21 ธ.ค.) ในงาน "พันธมิตรสัมพันธ์ครั้งที่ 2 ทางออกประเทศไทย"ที่บ้านเจ้าพระยา ถ.พระอาทิตย์ สนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ขึ้นปราศรัย (ชมคลิปการปราศรัยทาง FMTV)โดยตอนหนึ่งระบุว่า "พี่น้องครับ วันนี้แทบจะไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้วใช่ไม่ใช่ ขอเริ่มด้วยคำว่า สัญญาว่าจะไม่เปลี่ยน สัญญาว่าจะซื่อตรง และสัญญาว่าจะมั่นคงตลอดไป พี่น้องครับไม่เปลี่ยน ซื่อตรง มั่นคง เป็นสัญญาที่เราให้มาตั้งแต่พุทธศักราช 2548 เป็นเวลา 8 ปีที่ผ่านมา เอเอสทีวี ผม พี่พิภพ พี่ลอง หลายคน ที่สำคัญที่สุดพันธมิตรฯ ที่อยู่ที่นี้ไม่มีใครเปลี่ยน ทุกคนซื่อตรง ทุกคนมั่นคงตลอดไป ไม่มีไม่มีเปลี่ยน ผมวันนี้จะมาพูดไม่ยาว เพราะว่ามีคนสำคัญจะพูดหลายคน ประเดี๋ยวคุณนิชา ธุวธรรม ภรรยาของ พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม จะขึ้นมา และก็จะต่อด้วยคุณคํานูณ สิทธิสมาน พี่น้องครับ วันนี้เราได้เห็นมวลมหาประชาชนจาก 2 ล้าน 3 ล้าน มาเป็น 5 ล้านพรุ่งนี้อาจเห็นเกินกว่า 5 ล้าน"
"แต่ทั้งหมดนี้จะแพ้ หรือชนะไม่ใช่เรื่องสำคัญ สำคัญที่สุดพี่น้องฟังผมให้ดีๆ ประชาชนตื่นแล้วใช่ไหม ประชาชนตื่นแล้ว สำหรับผมแล้วผมมีความสุขที่สุด ใครจะนำไม่สำคัญ ใครจะนำสำหรับผมแล้วไม่สำคัญ ให้ผมเป็นผู้ตามก็ยินดี ขอให้พี่น้องประชาชนตื่นขึ้นมามีปัญญารู้ถึงปัญหาของชาติบ้านเมือง และจะไม่ยอมให้ความชั่วมาชนะความดีได้ เท่านั้นก็สำคัญแล้วครับพี่น้อง มีคนถามผมบอกว่าทักษิณคิดอะไรอยู่ ผมบอกว่านาทีนี้ทักษิณยังทำใจไม่ได้ที่ตื่นขึ้นมาวันหนึ่งแล้วเห็นคนทั่วประเทศ ทุกสาขาอาชีพเกลียดโคตรพ่อโคตรแม่มัน เกลียดตระกูลเขาไม่เคยมีประชาชนคนไทยยุคไหน สมัยไหน ที่จะเกลียดตระกูลใดตระกูลหนึ่งอย่างเข้ากระดูกดำเหมือนยุคนี้ ให้มีเงินอีกแสนล้าน ห้าแสนล้าน อีกล้านล้าน ให้เงินทับตัวมึงตายห่าก็ไม่มีประโยชน์ ใช่ไม่ใช่พี่น้อง พี่น้องเริ่มเข้าใจคำว่า ให้ปัญญาหรือยัง ผมไม่ได้มีหน้าที่มาทวงบุญคุณใครทั้งสิ้น แต่ผมมีหน้าที่จะเล่าอะไรบางอย่างให้พี่น้องฟัง"
ใช้เงินทองจนหมด ต้องมาขายน้ำด่าง แถมโดยยิง 200 นัด ถือว่าโคตรคุ้ม
สนธิกล่าวด้วยว่าใช้เวลา 8 ปีเต็มๆ ให้ปัญญาประชาชน "ใช้เงินใช้ทองส่วนตัวจนหมด จนกระทั่งต้องมาขายน้ำด่าง ขายกระติกน้ำด่าง ขายน้ำมันมะพร้าวให้ปัญญาจนกระทั่ง 200 นัด มีบาดแผลเป็นตัวอย่างให้เห็นอยู่ที่นี่ ถามว่าคุ้มไหม โคตรคุ้มพี่น้อง คุ้มไม่คุ้มพี่น้อง คุ้มไม่คุ้ม พี่น้องครับร้องตามผม คุ้มโคตรๆ คุ้มไม่คุ้ม โคตรๆ คุ้ม คุ้มไม่คุ้ม โคตรๆ คุ้ม คุ้มไม่คุ้ม โคตรๆ คุ้ม พี่น้องต้องรู้พวกเราที่เห็นหน้ากัน เหมือนกับที่พี่ตั้วของผมพูดออกมา หน้าเก่าๆ ทั้งนั้น จะกี่ปีกี่ชาติก็หน้าอย่างนี้ทั้งนั้นเลย นั่งอยู่แถวนี้ พี่น้องที่เป็นพันธมิตรฯ จริงๆ ย่อมรู้ดี พันธมิตรฯ มีข้อดีอยู่ข้อหนึ่ง พันธมิตรฯ ให้อภัยคนได้ใช่ไม่ใช่ แต่พันธมิตรฯ ก็ไม่ลืมใช่ไหม"
"วันนี้เราเอาข้อขัดแย้งวางไว้ข้างๆ ตัว แต่ไม่ทิ้งลงถังขยะใช่ไม่ใช่ แล้วเราเอาชาติเป็นตัวตั้งใช่ไม่ใช่ เอาล่ะไม่เป็นไร ร่วมกันสู้มาจนถึงวันนี้ขอบคุณเราซักคำก็ไม่มี ไม่เป็นไร เรื่องเล็กไม่ใช่เรื่องใหญ่พี่น้อง เรื่องมันเล็กเหลือเกิน เรื่องใหญ่คือชาติต้องมาก่อน"
พันธมิตรตัวจริงสู้แก๊สน้ำตาที่สะพานชมัยมรุเชฐ ถึงไหนถึงกัน และไม่ทวงบุญคุณ
"พี่น้องครับผมพูดเมื่อหลายเดือนมาแล้ว ผมบอกว่า ให้พรรคประชาธิปัตย์ลาออกมา แล้วสู้ แล้วนำ และผมจะตาม มันไม่เชื่อผมใช่ไหม แล้วยังไงล่ะ กูว่าแล้วใช่ไหม พันธมิตรฯ จงภูมิใจในปัญญาของพันธมิตรฯ จงภูมิใจไปเลย ในบรรดา 5-6 ล้านคน ในส่วนที่เป็นพันธมิตรพันธุ์แท้ ขอให้รู้ว่านี่คือสุดยอดของนักสู้ เวลาเขาชุมนุมกันเขามีการเดินขบวนกันยิ่งใหญ่เต็มที่ แต่มีคนถามผมบอกว่า จะแยกพันธมิตรฯ ได้ยังไง ผมบอกว่ามีอยู่ 2 ส่วน ไอ้ที่สู้อยู่ชมัยมรุเชฐนั่นแหละ พันธมิตรฯ ตัวจริง ไอ้ที่สู้แล้วไม่กลัวแก๊สน้ำตา นั่นแหละคือตัวจริง ไอ้ที่ถึงไหนถึงกันนั่นแหละตัวจริง ไอ้ที่สู้แล้วไม่ทวงบุญคุณนั่นแหละตัวจริง"
"ผมเป็นคนแก่คนหนึ่ง พี่น้อง 67 แล้ว ยังมีคดีความอยู่ศาลฎีกาอีก 6 คดี ถึงแม้ว่าศาลจะตัดสินให้ผมติดคุก ผมจะติดพี่น้อง เพราะอะไร เพราะผมเป็นพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประเดี๋ยวคุณคำนูญจะมาขึ้นต่อจากคุณณิชา คุณคำนูญจะมาอธิบายให้พี่น้องฟังได้ทุกคนเลยว่า สิ่งที่พวกเราสู้มา ผมและคุณคำนูญสู้มาตั้ง 20 ปีแล้วพี่น้อง 193 วัน ถ้ายังอยู่ในทำเนียบฯ จำได้ใช่ไหมว่า กลุ่มไหนเป็นคนเริ่มการปฏิรูปการเมืองก่อน ถ้าไม่ใช่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย วันนี้เราพูดถึงการปฏิรูปพรรคการเมือง แต่เราต้องปฏิรูปพรรคทหารด้วย พี่น้อง ใช่ไม่ใช่พี่น้อง เราต้องให้ทหารเลิกกินถั่งเช่า ใช่หรือเปล่าพี่น้อง เราต้องจัดการอย่าให้ทหารยึดติดกับความชอบในการกินอาหารทะเล ใช่เปล่าพี่น้อง เพราะอาหารทะเลโดยพื้นฐานแล้ว ทิ้งไว้ไม่กี่วันมันก็เน่า ใช่ไหม จะกินอะไรทั้งทีทำไมต้องกินของเน่าๆ"
พระแนะสนธิให้สวมรองเท้าแตะตลอดเวลา เป็นคนติดดินและข้ามทะเลให้ได้
สนธิกล่าวด้วยว่ามีพระสงฆ์รูปหนึ่งแนะนำให้เขาสมรองเท้าแตะให้เป็นคนติดดิน "พี่น้องครับ เราต้องปฏิรูปทั้งการเมือง ปฏิรูปทั้งทหาร ปฏิรูปทั้งตำรวจถูกไม่ถูกครับพี่น้อง ไม่ใช่แค่นักการเมือง มีมากกว่านักการเมือง ชาติบ้านเมืองมันเน่าเฟะมันกินปอดกินตับลงไป 3 วันที่แล้ว ผมนั่งเครื่องบินไปนครพนม ผมไปกราบหลวงพ่อองค์หนึ่ง ซึ่งเป็นสายหลวงปู่มั่น ท่านบอกสนธิมึงจำคำพูดของกูเอาไว้ มึงต้องใส่รองเท้าแตะตลอดเวลา นั่นก็คือ มึงต้องเป็นสนธิคนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ต้องตีนติดดิน มึงต้องข้ามทะเลให้ได้ไปถึงอีกฝั่งหนึ่ง เพราะว่าขัน 5 ของคนเรานั้น มันเป็นทะเลบุญและทะเลบาป มึงต้องใช้ขัน 5 ให้เป็นทะเลบุญให้ได้ อย่าให้เป็นทะเลบาป"
"มึงต้องทำตัวเหมือนหน่อไม้ จะมีกลุ่มต้นไม้อยู่เต็มไปหมดก็ช่างมัน แต่พอหน่อไม้เวลามันขึ้นปลายหน่อมันแหลม มันจะโผล่ขึ้นมาอันเดียว แปลว่าถ้ามึงคิดอะไรมันเป็นธรรม มันเป็นความถูกต้อง มันเป็นความจริง มึงไม่ต้องกลัว สมัยไหนยุคไหนใครเป็นใหญ่ถ้ามันเป็นธรรม ถ้ามันเป็นความจริงต้องลุกขึ้นมายืนสู้กับมัน ผมก็พนมมือ ผมบอกว่า พ่อแม่ครูอาจารย์กระผมให้สัจจะ มึงไม่ต้องมาให้สัจจะกับกู มึงจำเอาไว้อย่าให้สัจจะ ให้น้อมรับอ่อนน้อมรับคำสั่งสอนของพ่อแม่ครูอาจารย์ น้อมรับคำสั่งสอนของผู้ใหญ่ที่เขามีธรรม แล้วเอาไปปฏิบัติ 4 ข้อ สนธิมึงต้องจำเอาไว้ 4 ข้อ"
เผยพันธมิตรเหมือนกองกำลังพระเจ้าตาก ใจยิ่งใหญ่กว่าจักรวาล
"พี่น้องครับ ผมจะบอกพี่น้องอะไรอย่างหนึ่ง ผมเห็นพี่น้องพันธมิตรฯ แล้ว ผมพูดกับคนใกล้ชิด ผมบอกเฮ้ย นี่คือกองกำลังพระเจ้าตาก จำนวนจะมากก็ว่ามาก จะน้อยก็ว่าน้อย แต่ใจมันยิ่งใหญ่กว่าจักรวาล วันนั้นผมทำตามสัญญาที่ให้ว่า ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ลาออกแล้วนำ ผมจะนำมวลชนออกไปร่วมกับเขา และผมก็ทำแล้วใช่ไหม ปรากฏว่าพี่น้องสิ่งมหัศจรรย์เกิดขึ้นวันนั้น ขณะที่ขบวนเดินทางไป พี่น้องเชื่อไหมผมนึกไม่ถึง พันธมิตรฯ ทั้งนั้นเลยพี่น้อง
แนะสุเทพให้เชื่อมั่นศรัทธามวลชน และกดดันทหารให้หน้าเขียว ถ้าสุเทพไม่ทำ สนธิจะนำมวลชนเอง
สนธิ แนะนำด้วยว่าให้สุเทพ เทือกสุบรรณ เคลื่อนไหวกดดันทหาร "เอาไว้วันหลังคุณสุเทพ ทำอะไรก็ตามผมสนับสนุน ถึงแม้หลายอย่างผมอาจจะไม่เห็นด้วย เหมือนอย่างที่ผมไม่เห็นด้วยกับคุณสุเทพเรื่องหนึ่ง ผมไม่เห็นว่าคุณสุเทพทำไมจะต้องไปเอาใจทหาร ใช่ไม่ใช่ ไอ้ทหารถั่งเช่าไปเอาใจแม่งทำไม ผมอยากให้คุณสุเทพเชื่อมั่นและศรัทธาในมวลชน เหมือนอย่างที่ผม เชื่อมั่นและศรัทธาในพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ใช่ไม่ใช่พี่น้อง เรามีคนออกมา 5-6 ล้านคน 7 ล้านคน ต้องบีบไข่ทหารให้มันหน้าเขียว ใช่ไม่ใช่พี่น้อง ไม่ใช่ให้มันนัดแล้วไม่มาใช่ไหม ใช่เปล่า ต้องบีบไข่มัน ถ้าบีบยังไม่ฟังอีกก็ตัดไข่มันเลย ต้องศรัทธาในมวลชนต้องเชื่อ เขามากันเป็นล้านๆ คน เพราะว่าเขาต้องการทำให้ชาติบ้านเมืองดีขึ้น ไม่ใช่เขามาเพื่อให้ทหารมีข้อต่อรองมากขึ้น ใช่ไม่ใช่ แต่คุณสุเทพเป็นแกนนำผมปล่อยเขาไป แต่ซักวันถ้ายังไม่จบ ผมจะนำพี่น้องเองมาบีบไข่มัน"
"พี่น้องถ้าผมจะสู้ครั้งต่อไป ผมจะสู้กับทหาร ผมจะออกไปแล้วบอกว่า เมื่อไหร่มึงจะเป็นทหารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ซักทีวะ บีบไข่ บีบไข่ บีบไข่ พี่น้องครับวันนี้เอากันแค่หอมปากหอมคอ ยังมีอีกหลายท่านที่จะต้องพูดจา แต่ไม่ต้องผิดหวังผมจะกลับมาหาพี่น้อง ผมไม่ได้ไปไหน เพราะผมสัญญว่า ผมจะไม่เปลี่ยน ผมจะซื่อตรง และผมจะมั่นคงใช่ไม่ใช่พี่น้อง"
ตอนท้ายการปราศรัย สนธิได้โฆษณาขายนาฬิกา ซึ่งระบุว่าพันธมิตรฯ สาทรได้สั่งมา 104 เรือนทำพิธีแล้วที่วิหารฮินดู และขายน้ำมันมะพร้าวสำหรับประกอบอาหาร นอกจากนี้ยังขายกระบอกทำน้ำด่าง โดยระบุว่าเมื่อใส่น้ำเข้าไปแล้วเขย่าทิ้งไว้จะมีคุณภาพเหมือนน้ำที่มาจากเครื่องทำน้ำด่าง
นอกจากนี้สนธิได้โฆษณาขายเครื่อล้างพิษตับ ผลงานปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ซึ่งสามารถทำเองที่บ้านได้ ชุดละ 2,800 บาท ผลิตมา 2,000 ชุด ตอนนี้เหลือไม่ถึง 1,000 ชุด นอกจากนี้ยังขายปฏิทินเอเอสทีวีชุดละ 499 บาท โดยสนธิกล่าวว่าเอเอสทีวีเป็นสถานีโทรทัศน์ที่ได้รับงบประมาณจากประชาชนเท่านั้น และสัญญาว่าจะซื่อตรง มั่นคงกับประชาชน ไม่มีเปลี่ยนแปลง "เรามั่นคงมาตั้งนานแล้ว ไม่เคยเปลี่ยนแปลง เวลาฝนตก เวลาพายุมา มองไม่เห็นเรา แต่พอแดดออกเรายืนอยู่ที่ตรงนี้ เราไม่ใช่เพิ่งมายืนพี่น้อง เรายืนอยู่มานานแล้ว"สนธิกล่าว
ในงานดังกล่าว นิชา ธุวธรรม ภรรยาของ พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม ได้มาร่วมงานด้วย และปราศรัยขอบคุณพันธมิตรประชาชน และระบุด้วยว่าหลังจาก พล.อ.ร่มเกล้าเสียชีวิต พี่น้องพันธมิตรฯ ไม่เคยทอดทิ้งครอบครัวเลย