สมชัย จิตสุชน จากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาฯ มองข้อเสนอปฏิรูปขณะนี้ไม่ได้มาจากประชาชนเท่าที่ควร เสนอตั้งสภาปฏิรูปก่อนเลือกตั้งไปจนถึงหลังเลือกตั้ง ก่อนส่งต่อข้อเสนอให้ตั้งสสร. เพื่อปฏิรูปประเทศ
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีความพยายามจากหลายฝ่ายจัดเวทีเสวนาหรือระดมความคิดเห็นเพื่อร่วมกันหาทางออกให้กับประเทศไทยในท่ามความขัดแย้งครั้งใหญ่ในขณะนี้ และเห็นพ้องว่าควรมีการปฎิรูป แต่รายละเอียดและวิธีการยังไม่ชัดเจนและต้องร่วมกันพิจาณาต่อไป
ดร.สมชัย จิตสุชน ผู้อำนวยการวิจัยด้านการพัฒนาอย่างทั่วถึง สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ได้เขียนในเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงแนวทางการปฎิรูปประเทศภายใต้ระบบประชาธิปไตยโดยระบุว่า การปฏิรูปเป็นเรื่องดี แต่ข้อเสนอที่เห็นเกือบทุกข้อเสนอมีจุดอ่อน 2 ประการคือ
(ก) ไม่ได้มีที่มาจากประชาชนเท่าที่ควร หากเป็นเช่นนี้การปฏิรูปที่เกิดขึ้นอาจไม่ได้รับการยอมรับและนำไปสู่การชุมนุมของอีกฝ่ายในที่สุด กลายเป็นวงจรความขัดแย้งที่ไม่สิ้นสุด
(ข) ไม่มีสภาพบังคับตามกฏหมาย ส่วนใหญ่เป็นเพียงการทำสัตยาบันว่ารัฐบาลน่าจะ ‘พิจารณา’ ข้อเสนอปฏิรูป ถ้ารัฐบาลไม่ทำตามประชาชนก็ต้องออกมาชุมนุมทวงถามอยู่เรื่อย ๆ
ดร.สมชัย ให้ข้อเสนอแนะการปฎิรูปประเทศภายใต้ระบอบประชาธิปไตย (ดูภาพประกอบ) โดยสรุปจากข้อเสนอแนะ“ข้อเสนอทางออกประเทศไทย...ผ่านข้อตกลงประกอบการยุบสภา”ที่เคยเสนอไว้ก่อนแล้ว แต่ปรับให้มีสภาปฏิรูปประเทศก่อนเลือกตั้ง แล้วให้ทำงานต่อเนื่องไปถึงหลังเลือกตั้ง แต่มีหน้าที่เพียงให้ข้อเสนอเท่านั้น โดยสุดท้ายองค์กรที่ตัดสินใจว่าจะปฏิรูปอย่างไรควรกลับไปที่ตัวแทนประชาชน ในที่นี้คือ สสร. ที่มีสัดส่วนสมาชิกตามที่ประชาชนทั้งประเทศเลือกมา สสร. จะทำการบรรจุการปฏิรูปไว้ใน รธน. เพื่อให้มีสภาพบังคับสูงสุดตามกฏหมาย
และเพื่อตอบโจทย์ผู้ชุมนุมปัจจุบัน ให้รัฐธรรมนูญใหม่ต้องได้เสียงข้างมากแบบ super majority คือ 2 ใน 3 เพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองให้มีการปฏิรูปตามแนวทางเสียงส่วนน้อยด้วย เช่น การตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ คอร์รัปชั่น และอื่น ๆ